ไม่ประกันตัว! ส่ง "บอสพอล" เข้าเรือนจำ 18-29 ต.ค.

อาชญากรรม
18 ต.ค. 67
14:24
144
Logo Thai PBS
ไม่ประกันตัว! ส่ง "บอสพอล" เข้าเรือนจำ 18-29 ต.ค.
อ่านให้ฟัง
00:00อ่านข่าวให้ฟังโดย Botnoi Voice เว็บแอปพลิเคชันสำหรับสร้างเสียงจากข้อความด้วย AI (Text to Speech)
ไม่ประกันตัว! ส่ง "บอสพอล" เข้าเรือนจำฝากขังรอบแรก 18-29 ต.ค.นี้ ชี้เหตุผลค้าประกันตัวคดีใหญ่มีความเสียหายมาก เกรงผู้ต้องหาหลบหนี ส่วนผู้เสียหายยังทยอยแจ้งความต่อเนื่อง 200-300 คน

กรณีนายวรัตน์พล วรัทย์วรกุล หรือ บอสพอล ซึ่งตำรวจ ไปฝากขังที่ศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก หลังจากควบคุมตัวและมีการสอบสวนตั้งแต่วันที่ 16 ต.ค.ที่ผ่านมา

วันนี้ (18 ต.ค.2567) เมื่อ 11.45 น. เจ้าหน้าที่กรมราชทัณฑ์นำรถตู้คุมขังผู้ต้องหาบอสพอล ส่งฝากขังที่เรือนจำกลางพิเศษกรุงเทพมหานคร หลังจากทนายความ ระบุว่า ไม่ได้ขอยื่นประกันตัวในชั้นศาลในวันนี้ และไม่พบว่ามีญาติของผู้ต้องหาเดินทางมา มีเพียงทนายความเดินทางมาเพื่อแต่งตั้งทนายความ

สำหรับคำสั่งคดีดังกล่าว หลังจากพนักงานสอบสวน ปคบ. ได้นำตัวผู้ต้องหา มายื่นคำร้องฝากขังครั้งที่ 1 ต่อศาลอาญา ในความผิดฐาน ร่วมกันฉ้อโกงประชาชน และร่วมกันโดยทุจริต หรือโดยหลอกลวง นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือนหรือปลอมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ประชาชน ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 341, 343 และ พ.ร.บ.ว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.2550 และแก้ไขเพิ่มเติม ฉบับที่ 2 พ.ศ.2560 มาตรา 14 (1) ประกอบประมวลกฎหมายอาญามาตรา 83 ซึ่งในชั้นสอบสวน ผู้ต้องหาให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา

ผู้เสียหายจากคดีดิไอคอน ยังทยอยเข้าแจ้งความต่อเนื่องที่กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง

ผู้เสียหายจากคดีดิไอคอน ยังทยอยเข้าแจ้งความต่อเนื่องที่กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง

ผู้เสียหายจากคดีดิไอคอน ยังทยอยเข้าแจ้งความต่อเนื่องที่กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง

โดยคำร้องฝากขัง พนักงานสอบสวนได้คัดค้านการประกันตัวผู้ต้องหาด้วย เนื่องจากพฤติการณ์การกระทำความผิดของผู้ต้องหา เป็นการร่วมกันกับผู้อื่นกระทำผิดที่มีลักษณะเป็นกลุ่มขบวนการ มีการแบ่งหน้าที่กันทำอย่างเป็นระบบ คดีมีความยุ่งยากสลับซับซ้อน ส่งผลกระทบต่อสังคมในวงกว้างทั่วราชอาณาจักร มีผู้เสียหายจำนวนมาก จำนวนทุนทรัพย์สูง และเป็นคดีที่อยู่ในความสนใจของประชาชน หากปล่อยชั่วคราวเกรงว่าผู้ต้องหาจะหลบหนี

ทั้งนี้ ศาลอาญาพิจารณาคำร้อง ไต่สวนพนักงานสอบสวน และสอบผู้ต้องหาแล้ว มีคำสั่งอนุญาตให้ฝากขังผู้ต้องหา ตามคำร้องของพนักงานสอบสวน เป็นเวลา 12 วัน ตั้งแต่ 18–29 ต.ค.นี้

อย่างไรก็ตาม ในวันนี้ผู้ต้องหาไม่ได้ยื่นคำร้องขอปล่อยชั่วคราวในชั้นสอบสวนต่อศาลอาญา ดังนั้นเมื่อเสร็จสิ้นกระบวนการฝากขัง เจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์จะได้ควบคุมตัวผู้ต้องหานี้ไปยังเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ

ประชาชนยังแจ้งความต่อเนื่อง

ขณะที่บรรยากาศที่กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง ผู้เสียหายยังทยอย เข้าแจ้งความเอาผิดคดีดิไอคอนอย่างต่อเนื่อง ตำรวจได้แจกบัตรคิวให้ประชาชน ที่ประสงค์แจ้งความแล้ว 248 คิว และจัดระเบียบ เพื่อให้ขึ้นไปบนอาคาร ตามขั้นตอนเมื่อเวลา 13.00 น.ถึงคิวที่ 184 คิวโดยยังคงมีคิวที่ตกค้างมาจากเมื่อวานนี้ (17 ต.ค.) อีก 60 คิวเพื่อนัดเข้าแจ้งความวันนี้

ผู้เสียหายจากคดีดิไอคอน

ผู้เสียหายจากคดีดิไอคอน

ผู้เสียหายจากคดีดิไอคอน

สำหรับประชาชนที่รอแจ้งความ มีการจัดให้นั่งรอ โดยตำรวจจัดโต๊ะเก้าอี้ และ อาหารว่างไว้บริการ และใช้เครื่องขยายเสียง ประกาศเรียกคิวตามที่ได้แจกบัตรคิวไว้ก่อนหน้านี้

โดยพบว่าผู้ที่เข้ามาแจ้งความมาจาก กทม.และปริมณฑล แต่ละคนมีมูลค่าความเสียหายที่เป็นค่าสมัครสมาชิก ค่าเปิดบิล ค่ายิงโฆษณา ค่าเข้าสัมมนาเวลามีกิจกรรมที่ดิไอคอนจัดอบรมและค่าใช้จ่ายจิปาถะกว่า 600,000 บาทถึง 1,000,000 บาท

อ่านข่าวอื่นๆ เปิดชื่อ 14 สว.นั่ง กมธ.ร่วม พิจารณา กม.ประชามติ

"ทนายตั้ม" แจงแม่ข่ายแถวสอง-ภรรยาบอสจ่อโดน

ด้านนายษิทรา เบี้ยบังเกิด หรือ ทนายตั้ม เลขาธิการมูลนิธิทีมงานทนายประชาชน กล่าวถึงการดำเนินแถวสองต่อจาก 18 บอสว่า คงเป็นพวกแม่ข่ายที่ยังไม่ยอมไปแจ้งความร้องทุกข์บอสต่าง ๆ โดยแนะนำให้รีบไปแสดงความบริสุทธิใจหนักจะได้เป็นเบา ถึงแม้จะไม่พ้นโทษ แต่ตำรวจจะได้เห็น และหากเรื่องนี้หนักจริง ๆ ก็อาจจะไปถึงพรีเซนเตอร์ต่างก็เป็นได้ แต่แม่ข่ายน่าจะโดนก่อน

เมื่อถามว่าภรรยา ของบอสคนหนึ่งที่เป็นข่าวจะโดนจับด้วยหรือไม่ นายษิทรา กล่าวว่า ภรรยาของบอสบางคนน่าจะโดนด้วย เพราะมีการเชิญชวนคนอื่น ตั้งคอร์สของตัวเองขึ้นมาเลย เพื่อจะระดมคนเข้าไปสมัครในสายเขา ดังนั้นค่อนข้างจะสุ่มเสี่ยงเลยคนนี้ ซึ่งอาจจะเป็นไปได้ว่าจะอยู่ในแถวที่ 2

ทนายษิทรา เบี้ยบังเกิด หรือทนายตั้ม

ทนายษิทรา เบี้ยบังเกิด หรือทนายตั้ม

ทนายษิทรา เบี้ยบังเกิด หรือทนายตั้ม

นายษิทรา กล่าวว่า ตำรวจสอบสวนกลางที่ทำคดีนี้ เก็บความลับเก่ง เพราะดูจากการจับกุม 18 บอส ทั้งที่ตอนเเรกแจ้งไปแค่ 6 คน เขาค่อนข้างรักษาความลับได้ดี และคิดว่าเขาจะทำให้สุดจริง ๆ งั้นให้รอดู เพราะก็เดาใจตำรวจไม่ออกว่าเขาจะดำเนินคดีอีกกี่คนที่เป็นแม่ข่าย แต่คิดว่าน่าจะมีจำนวนมาก

เมื่อถามถึงตัวเทวดาในหน่วยงานต่าง ๆ นายษิทรา กล่าวว่า ตอนนี้ถ้าจะเป็นเทวดาถ้าจะบ๊องส์ไปแล้ว แต่ตอนนี้เชื่อว่าจะพอมีฤทธิ์เดชอยู่บ้าง

อ่านข่าว

เฉลยแล้ว! "สมเสร็จ" แอบมากินเงาะ พบเป็นขาประจำ

กกต.สั่งตั้งคณะทำงานสอบ "ยุบพรรคเพื่อไทย"

 

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง