กรณีคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) มีมติ 5 ต่อ 2 เสียงให้ลดอัตราดอก เบี้ยนโยบายลง 0.25% ต่อปี จาก 2.50% ลงมาเป็น 2.25% ต่อปีให้มีผลทันที ซึ่งเป็นการลดดอกเบี้ยครั้งแรกในรอบ 4 ปีหลังการปรับขึ้นดอกเบี้ยนโยบายในรอบนี้ในวันที่ 10 ส.ค.2565
วันนี้ (17 ต.ค.2567) นายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรี และรมว.คลัง กล่าวว่า เป็นไปตามสิ่งที่รัฐบาลคาดหวังไว้ส่วนหนึ่ง การลดดอกเบี้ยถือเป็นการลดภาระ แต่การที่คนจะไปกู้เงินล็อตใหม่ได้ดอกเบี้ยลดลงร้อยละ 0.25 อาจไม่ใช่ประเด็นที่สำคัญ
คนที่เป็นหนี้จะได้ลดอัตราดอกเบี้ย มีผลต่อความเชื่อมั่นเงินกู้ที่อยู่ในตลาด Bond Yield หรืออัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาล จะมีผลดีกับผู้ที่ลงทุนรุ่นเก่า ดังนั้นผลที่ออกมาเป็นไปแนวทางบวก
นายพิชัย กล่าวว่า กนง.ก็ยังเป็นห่วงหนี้ ส่วนบุคคลและหนี้เอสเอ็มอี ซึ่งเรื่องดังกล่าวถูกจุด แม้ว่าจะลดอัตราดอกเบี้ยแต่ความเป็นจริงแล้ว ต้องมีสภาพคล่องด้วย และต้องพูดคุยกับธนาคารพาณิชย์ เพื่อที่จะให้มีการปล่อยสภาพคล่องเข้ามาในตลาดมากขึ้นส่วนธนาคารของรัฐได้ทำเต็มที่แล้ว
ทั้งนี้การลดอัตราดอกเบี้ยเป็นไปตามที่คาดหวัง แต่จะดำเนินการอย่างไรต่อไป ต้องดูใน 2 เรื่อง คือ การคิดอัตราดอกเบี้ยแค่ประเทศไทย ซึ่งต้องดูองค์ประกอบ แนวคิด วิธี แนวโน้ม ของประเทศที่มีผลต่อโลก โดยเฉพาะอย่างยิ่งสหรัฐฯ ยุโรป ซึ่งตนหวังว่า ไม่ใช่เฉพาะครั้งนี้คงต้องมีการปรึกษาหารือกัน เชื่อว่าภาวะเงินเฟ้อคงไม่ถึง 1% ในปีนี้หมายความว่า ไทยอาจพลาดโอกาสหรือไม่ ในการที่จะทำให้เงินเฟ้อสูงขึ้นและเป็นส่วนหนึ่งของการกระตุ้นเศรษฐกิจภาคการผลิต แต่ถ้ามีการคาดการณ์ว่า ปีหน้าจะเป็น 1% กว่า
รมว.คลัง กล่าวอีกว่า ส่วนตัวคิดว่า หลายเรื่องก็น่าจะเป็นผลดีระดับหนึ่ง และคิดว่า กนง.ก็ได้หยิบเรื่องนี้ขึ้นมาดู ต้องขอขอบคุณที่ดูอย่างละเอียด รอบคอบ และหวังว่าก็จะดูผลอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะในช่วงนี้ที่ต้องดูว่ามีนโยบายอย่างไรต่อไป การที่ทำหรือไม่ได้ทำอะไรจนทำให้ทิศทางเศรษฐกิจของเราถูกคาดเดาได้จะทำหรือไม่ทำอะไร จึงเป็นช่องทางที่คนฉลาดกว่า ใช้ช่องทางนี้เข้ามาทำประโยชน์ได้
การประชุมกนง.ครั้งต่อไป มีการคาดหวังว่าจะมีการลดอัตราต่อเนื่องอีกร้อยละ 0.25 แต่ต้องดูองค์ประกอบทั้งในและนอกประเทศร่วมกัน สถานการณ์ต่างประเทศ วิธีคิด แนวโน้ม เดินไปในทิศทางใด ซึ่งกนง.ก็ต้องคิดให้หนัก
ส่วนกรอบเงินเฟ้อควรปรับมาอยู่ที่ 2-3% หรือไม่ นายพิชัย กล่าวว่า รัฐบาลคาดหวังอย่างนั้น เพราะถ้าอยากช่วยเศรษฐกิจโตขึ้น ก็ต้องตั้งในสูงกว่าปัจจุบัน ส่วนตัวเห็นว่า เงินเฟ้อต่ำกว่า ร้อยละ 1 คงไม่ได้ ซึ่งปกติได้มีการตกลงเป็นปีๆอยู่แล้ว ดังนั้นช่วงนี้ใกล้สิ้นปีก็คงต้องมีการนั่งพูดคุยตกลงกัน
ทั้งนี้มีปัจจัยใดที่ทำให้กนง.ลดอัตราดอกเบี้ยลงในรอบนี้ ทั้งที่ก่อนหน้านี้ไม่ยอมลด นายพิชัย กล่าวว่า ต้องไปถามในส่วนของกนง.
ส่วนจะเป็นเพราะเชื่อมั่นในนโยบายโดยรวมและตัวนายกรัฐมนตรีมากขึ้นหรือไม่ นายพิชัย เห็นว่า ทุกอย่างกำลังดีขึ้นเรื่อยๆ
อ่านข่าว
กนง. มติ 5 ต่อ 2 ลดดอกเบี้ย 0.25% มีผลทันที