วันนี้ (16 ต.ค.2567) นายเลิศศักดิ์ พัฒนชัยกุล สส.พรรคเพื่อไทย ในฐานะประธานกรรมาธิการการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงินและยาเสพติด (กมธ.ปปง.) ระบุถึงความคืบหน้าการติดตามคดีดิไอคอนกรุ๊ป ว่า จะพิจารณาภาพรวมในเบื้องต้นว่า จะมีช่องทางกฎหมายใดที่จะสามารถเอาผิดผู้บริหารหรือผู้ที่เกี่ยวข้องได้เนื่องจากมีผู้เสียหายเป็นจำนวนมาก และเป็นคดีที่สังคมสนใจ
การประชุมวันนี้ กรรมาธิการฯ จะหารือเบื้องต้นก่อน เนื่องจากได้บรรจุวาระการประชุมตั้งแต่สัปดาห์ที่แล้วในเรื่องทุนจีนสีเทาที่ไปก่อสร้างคฤหาสน์หรู หรือโครงการริมแม่น้ำเจ้าพระยา
ส่วนกรณีดิไอคอนกรุ๊ปจะเข้าสู่วาระอื่น ๆ และจะการพิจารณาเชิญนักกฎหมายมาให้ข้อมูลและข้อกฎหมาย โดยในวันนี้จะสรุปว่า การประชุมครั้งหน้าจะเดินเรื่องดิไอคอนกรุ๊ปต่ออย่างไร และจะเชิญใคร หรือหน่วยงานไหนมาชี้แจงต่อกรรมาธิการฯ แต่หนึ่งในหน่วยงานที่จะเชิญมาอย่างแน่นอนคือ ปปง. เพราะกรรมาธิการมีข้อสังเกตว่าการอายัดทรัพย์จำนวน 100 กว่าล้านน้อยเกินไป ยังต่ำกว่ามูลค่าที่ผู้เสียหายมาแจ้งความดำเนินคดี
พร้อมระบุถึงข้อสังเกต การทำธุรกิจของดิไอคอนกรุ๊ปว่า ตามปกติแล้ว การขายสินค้าประเภทขายตรงจะมีการจ่ายเงินและส่งสินค้าแต่รูปแบบของดิไอคอนกรุ๊ป จะเป็นการขายทางอ้อม โดยมีการสมัครสมาชิกที่เหมือนซื้อสินค้าแล้วฝากสินค้าไว้
รวมถึงกรณีรายได้ที่มาจากการนำเงินมาให้ก็ไม่ได้เรียกว่าการขายสินค้าแต่เป็นการชำระเงิน ซึ่งสามารถตรวจสอบได้ในทางบัญชีและทางสรรพากร ไม่ใช่เพียงว่ามีสินค้าแล้วจะเป็นการขายของ ซึ่งความผิดปกติเหล่านี้สามารถตรวจสอบในทางกฎหมายได้
ขณะนี้ทางตำรวจสอบสวนกลางได้รับแจ้งความไปจำนวนมากแล้ว และก็จะมีการรายงานไปยัง ปปง.ซึ่งทาง ปปง.ก็สามารถตรวจสอบเส้นทางการเงินทั้งหมดได้ ไม่ว่าจะเส้นทางการเงินของผู้บริหาร หรือผู้มีชื่อเสียงที่เข้ามาเกี่ยวข้อง ซึ่งไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้อยู่แล้ว
ทางกรรมาธิการฯ ก็มีอำนาจในการเรียกตรวจสอบ จากทาง ปปง.ถึงความคืบหน้าในการตรวจสอบเส้นทางการเงิน และมีเรื่องใดผิดปกติหรือไม่ ทั้งหมดเป็นอำนาจของกรรมาธิการฯ ที่จะตรวจสอบได้
พร้อมย้ำถึงบทบาทหน้าที่ของกรรมาธิการฯ ในภาพรวมว่า องค์ประกอบของกรรมาธิการฯ มาจาก สส. และแต่ละคณะจะที่ปรึกษา และ เลขาฯ ซึ่งโดยศักดิ์ศรีของ สส.แล้วไม่มีทางยอมจะไปช่วยเหลือ หรือ เคลียร์ ให้คนบางคนที่ทำให้ประชาชนเดือดร้อนได้
สำหรับกรณีดิไอคอนกรุ๊ป ก็อาจจะมีการตั้งคณะอนุกรรมาธิการขึ้นมาตรวจสอบ ในเรื่องของกฎหมาย ธุรกิจแชร์ลูกโซ่ เพื่อให้คดีนี้ไปถึงศาล และดำเนินการอย่างถึงที่สุด
ส่วนที่มีกระแสข่าวเรื่อง มี "มือเทวดา" ช่วยประสานนั้นน่าจะไปเกี่ยวโยงกับทาง สคบ. ซึ่งกรรมาธิการฯ ก็สามารถเชิญ เจ้าหน้าที่ของ สคบ.มาชี้แจงได้หากพบว่าเรื่องนี้มีความเกี่ยวข้องกับทาง สคบ.
โดยส่วนตัวไม่ทราบว่า "เทวดา" ที่กล่าวอ้างคือใคร และขอยืนยันว่า กรรมาธิการฯ จะตรวจสอบเรื่องนี้จนถึงที่สุด แม้ว่าจะไม่ได้เกี่ยวข้องกับการดำเนินคดีโดยตรง แต่มีหน้าที่ติดตามหน่วยงานที่ดำเนินการทางกฎหมายกับดิไอคอนกรุ๊ป
ขอให้คำมั่นกับประชาชนว่า จะทำให้ถึงที่สุดอย่างแน่นอน และจะพิจารณาไปถึงข้อกฎหมายเพื่อให้เกิดการแก้ไข พ.ร.ก.การกู้ยืมเงิน เพราะอาจจะมีช่องโหว่ ในการหลอกลวงประชาชน ซึ่งก็จะรวบรวมข้อมูล นำเสนอต่อสภาฯเพื่อให้มีการแก้ไขกฎหมายฉบับนี้ต่อไป
พร้อมย้ำถึงกรณีคลิปเสียงสนทนาที่ถูกเผยแพร่ออกมาและเชื่อมโยงถึงบทบาทการทำงานของกรรมาธิการฯ ขอยืนยันว่า กรรมาธิการฯ ไม่มีเรื่องเหล่านี้อย่างแน่นอน และบุคคลที่ถูกกล่าวถึงในคลิปเสียงก็ไม่มีตำแหน่งอยู่ในกรรมาธิการฯ ชุดนี้
ขณะนี้ประธานสภาฯ กำลังตรวจสอบ คลิปเสียงที่เป็นประเด็นอยู่ และขอยืนยันว่า การตรวจสอบเรื่องดิไอคอนกรุ๊ป จะตรงไปตรงมาไม่มีนอกมีในอย่างแน่นอน
อ่านข่าว : จับตา! บุคคลปริศนารับสินบน "บอสพอล" แจ้งความ 6 ทีมบอส
