DSI พร้อมรับคดี "ดิไอคอนกรุ๊ป" เป็นคดีพิเศษ หาก ปคบ. พบพฤติการณ์เป็นแชร์ลูกโซ่

อาชญากรรม
14 ต.ค. 67
18:16
891
Logo Thai PBS
DSI พร้อมรับคดี "ดิไอคอนกรุ๊ป" เป็นคดีพิเศษ หาก ปคบ. พบพฤติการณ์เป็นแชร์ลูกโซ่
"ดีเอสไอ" พร้อมรับคดี บริษัท ดิไอคอนกรุ๊ป จำกัด เป็นคดีพิเศษ หาก ปคบ. พบพฤติการณ์เป็นแชร์ลูกโซ่ พร้อมวางกรอบประเด็นสอบสวนสำคัญ คือประเด็นการวางแผนธุรกิจ พร้อมเร่งสืบเส้นทางการเงินบริษัท และผู้บริหาร

วันนี้ (14 ต.ค.2567) พ.ต.ต.ยุทธนา แพรดำ รองอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ รักษาราชการแทนอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) เปิดเผยถึงกระบวนการพิจารณาการรับคดี บริษัท ดิไอคอนกรุ๊ป จำกัด เป็นคดีพิเศษ ว่า การรับเป็นคดีพิเศษของดีเอสไอ มีเกณฑ์พิจารณาอยู่ที่จำนวนผู้เสียหาย 300 คน มูลค่าความเสียหายเกิน 100 ล้านบาท ซึ่งขณะนี้พนักงานสอบสวนที่รับผิดชอบสำนวนคดี หากมีการรวบรวมพยานหลักฐาน พยานเอกสาร พยานวัตถุ มีการสอบปากคำผู้เสียหาย สอบปากคำผู้ถูกกล่าวหา แล้วพบพฤติการณ์ที่เข้าข่ายอาจเป็นความผิดแชร์ลูกโซ่ตามแนบท้าย พ.ร.บ.การสอบสวนคดีพิเศษ พ.ศ.2547 ตำรวจจะต้องมีการแจ้งเรื่องและพฤติการณ์ทางคดีมาให้ดีเอสไอพิจารณารับเป็นคดีพิเศษ 

แต่ ณ เวลานี้แม้ดีเอสไอยังไม่ได้รับเป็นคดีพิเศษ แต่การดำเนินการตรวจสอบจะไม่หยุดชะงัก เพราะทั้งตำรวจและดีเอสไอ โดย พ.ต.ต.วรณัน ศรีล้ำ ผอ.กองคดีธุรกิจการเงินนอกระบบ (กองคดีแชร์ลูกโซ่ดีเอสไอ) มีการประสานเรื่องข้อมูลร่วมกันต่อเนื่อง

อ่านข่าว : "ผมยอมแพ้" บอสพอลเปิดใจ ลั่นจะชดใช้จนกว่าจะตาย

พ.ต.ต.ยุทธนา แพรดำ

พ.ต.ต.ยุทธนา แพรดำ

พ.ต.ต.ยุทธนา แพรดำ

ส่วนขอบเขตการสอบสวนที่ดีเอสไอตั้งไว้ คือ เน้นย้ำเรื่องบัญชีของบริษัทและวิธีการรับประโยชน์ อาทิ แผนธุรกิจของบริษัทฯ ว่ามีการเน้นหาสมาชิกหน้าใหม่มากกว่าเน้นการขายผลิตภัณฑ์หรือไม่ และเส้นทางการเงินของบุคคลที่เกี่ยวข้องกับการบริหารแผนธุรกิจ

สำหรับการจะรับคดีดังกล่าวเป็นคดีพิเศษหรือไม่นั้น หากพบว่าพฤติการณ์มีลักษณะความผิดตามแนบท้าย พ.ร.บ.การสอบสวนคดีพิเศษ พ.ศ.2547 จะสามารถรับเป็นคดีพิเศษได้ทันที แต่ถ้าหากไม่เป็นความผิดตามแนบท้าย ก็ต้องเสนอกรรมการคดีพิเศษ พิจารณารับเป็นคดีพิเศษตามขั้นตอน

ด้าน พ.ต.ต.วรณัน ศรีล้ำ ผู้อำนวยการ กองคดีธุรกิจการเงินนอกระบบ และในฐานะโฆษกกรมสอบสวนคดีพิเศษ เปิดเผยว่า เบื้องต้น ตำรวจยังไม่ได้มีการแจ้งข้อกล่าวหาแก่บุคคลใดเพียงแต่ระบุว่าบุคคลนั้นมีผู้เข้าร้องทุกข์กล่าวโทษในฐานความผิดใด ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจยังคงดำเนินการต่อ แต่ทางดีเอสไอเองได้ดำเนินการเรื่องข้อมูลที่ได้มาเพื่อดูองค์ประกอบกรณีแชร์ลูกโซ่ว่ามีเหตุสงสัยหรือไม่ หากมีเหตุสงสัยก็จะดำเนินการสืบสวนคู่ขนานและจะไล่เรียงเรื่องเส้นทางการเงิน ซึ่งดีเอสไอและตำรวจได้มีการประสานข้อมูลกันอย่างต่อเนื่องอยู่แล้ว

พ.ต.ต.วรณัน ศรีล้ำ

พ.ต.ต.วรณัน ศรีล้ำ

พ.ต.ต.วรณัน ศรีล้ำ

สำหรับขั้นตอนกรณีหลังจากดีเอสไอรับคดีบริษัท ดิไอคอนกรุ๊ป จำกัด เป็นคดีพิเศษ นั้น ประกอบด้วย

1.การรับส่งสำนวนระหว่างกันของตำรวจและดีเอสไอ

2.การสอบปากคำพยานทางตำรวจยังมีอำนาจในการสอบปากคำตามที่ดีเอสไอร้องขอเพื่อกระจายบรรดาพยานให้เจ้าหน้าที่ตำรวจที่อยู่ตามสถานีโรงพักทั่วประเทศดำเนินการสอบปากคำได้อย่างทั่วถึง

3.สอบสวนเส้นทางการเงินและองค์ประกอบความผิด เพราะดีเอสไอเล็งเห็นว่าแผนธุรกิจดังกล่าวมีการเตรียมการซับซ้อนพอสมควร

อีกทั้งประการสำคัญ คือ บริษัทดังกล่าวได้รับการอนุญาตให้ประกอบกิจการตลาดแบบตรงจาก สคบ. จึงเป็นเนื้อหาสำคัญที่ดีเอสไอจะต้องดูว่าตกลงแล้วบริษัทแห่งนี้ได้ดำเนินการผิดหลักเงื่อนไขตลาดแบบตรงของ สคบ. หรือกระทำผิดจากเหตุแชร์ลูกโซ่

พ.ต.ต.วรณัน ศรีล้ำ

พ.ต.ต.วรณัน ศรีล้ำ

พ.ต.ต.วรณัน ศรีล้ำ

สำหรับกรอบการดำเนินการสอบสวน หากดีเอสไอรับเป็นคดีพิเศษ มีการวางโครงสร้างการดำเนินงาน ดังนี้ เมื่อเสร็จสิ้นกระบวนการการรับส่งสำนวนระหว่างเจ้าหน้าที่ตำรวจและดีเอสไอไม่ว่าจะเป็นรายงานการสอบปากคำพยาน ประเด็นที่เกี่ยวกับเรื่องพยานหลักฐานที่ได้จากการตรวจค้น ยึดและอายัด จากนั้นดีเอสไอจะพิจารณาจากพยานหลักฐานทั้งหมดเพื่อตรวจสอบว่าเข้าองค์ประกอบฐานความผิดแชร์ลูกโซ่อย่างไร โดยจะดูเรื่องความหมายของการกู้ยืมเงินเปรียบเทียบกับพฤติการณ์ที่เกิดขึ้น และจะมีการประสานกับสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง ว่าแผนประทุษกรรมของแผนธุรกิจดังกล่าวนั้น ในฐานะที่สำนักงานเศรษฐกิจการคลังเป็นหน่วยงานที่รับผิดชอบกฎหมาย วิเคราะห์แล้วมันเป็นการกู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน หรือแชร์ลูกโซ่หรือไม่ เพราะกรณีดังกล่าวจะมีผลผูกพันธ์กับอัตราดอกเบี้ยของแบงก์ในช่วงเวลาเกิดเหตุ

ส่วนเรื่องการจะออกหมายเรียกผู้บริหารหรือไม่นั้น เมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจส่งสำนวนมาแล้ว ดีเอสไอจะดูพฤติการณ์ว่าจะต้องสอบสวนประเด็นใดเพิ่มหรือไม่ จึงจะสามารถตอบได้ว่าต้องออกหมายเรียกผู้บริหารที่เกี่ยวข้องเข้ามาสอบปากคำ ซึ่งประเด็นการตรวจสอบเส้นทางการเงินในส่วนของดีเอสไอนั้น จะดูรายได้ของบริษัททั้งหมด เพราะแผนธุรกิจของบริษัทฯ เป็นการประกอบธุรกิจตลาดขายตรงโดยที่มีการจดทะเบียนถูกต้องจาก สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค (สคบ.) จึงต้องไปดูระบบการเงิน

แต่ส่วนนี้ต้องชี้แจงว่าในขณะนี้ทั้งหมดยังเป็นเพียงผู้ถูกกล่าวหาและยังมีโอกาสที่จะชี้แจงข้อเท็จจริง และสามารถนำพยานหลักฐานที่จะชี้แจงเข้าสำนวนของพนักงานสอบสวนได้ ดีเอสไอจะใช้อำนาจของ พ.ร.ก.การกู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน พ.ศ. 2527 มาตรา 7 เพื่อเปิดโอกาสให้ได้รายงานสถานภาพการประกอบธุรกิจ และจะได้ส่งพยานหลักฐานที่ดำเนินการอยู่มาให้ดีเอสไอ เพื่อเอาข้อเท็จจริงมาตรวจสอบ

อ่านข่าว : "เสือดาว-กระทิง" โชว์ตัวแก่งกระจาน

"พิพัฒน์" หนุนจ่ายเงินสงเคราะบุตรเพิ่ม 3,000 บาทจูงใจแรงงาน

รำลึก 51 ปี 14 ตุลา "เท้ง" พร้อมรับคมหอกสานต่อรัฐธรรมนูญ

ข่าวที่เกี่ยวข้อง