วันนี้ (11 ต.ค.2567) บริษัทพีพีกฤษฏ์ เอนเตอร์เทนเม้นท์ จำกัด ได้โพสต์ชี้แจงผ่านเฟซบุ๊กประเด็นความเกี่ยวพันระหว่าง "พีพี กฤษฏ์ อำนวยเดชกร" และ The iCon Group และการให้ความร่วมมือต่อเจ้าหน้าที่เพื่อประโยชน์ของประชาชน ว่า
สืบเนื่องด้วยกระแสข่าวที่เป็นประเด็นทางสังคมเกี่ยวกับบริษัทดิไอคอนกรุ๊ป จำกัด ปรากฏว่า ได้มีการสอบถาม รวมถึงการตั้งประเด็นความเกี่ยวพันใด ๆ ระหว่าง พีพี กฤษฏ์ กับ The iCon Group เนื่องจากได้ปรากฏโฆษณาสินค้าผลิตภัณฑ์อาหารเสริมของบริษัท คือ บูม ไอซี หรือBoom iZ เม็ดฟู สำหรับคนรักดวงตา
ทางบริษัท พีพีกฤษฏ์ เอนเตอร์เทนเม้นท์ จำกัด ชี้แจงว่า พีพี กฤษฏ์ ได้เข้าทำสัญญาผ่านบริษัทพีดีพีเอ็ม จำกัด เพื่อเป็นผู้แสดงแบบโฆษณาสำหรับสินค้า ผลิตภัณฑ์อาหารเสริมบูม ไอซี ให้กับบริษัทดิไอคอนกรุ๊ป จำกัด โดยระยะเวลาในการนำออกแสดงและเผยแพร่ผลงานที่ว่าจ้างเริ่มเมื่อเดือน มิ.ย.2565 ถึงเดือน พ.ค.2566 โดยมีขอบข่ายในการทำงานที่ได้ดำเนินการ ได้แก่
1. ถ่ายภาพนิ่งเพื่อโปรโมตผลิตภัณฑ์ในสื่อต่าง ๆ จำนวน 1 เซ็ต
2. ถ่ายทำรายการออนไลน์ พีพี x กันต์ จำนวน 1 ครั้ง เพื่อโปรโมตผลิตภัณฑ์
3. เข้าร่วมงานเปิดตัวผลิตภัณฑ์ จำนวน 1 ครั้ง เป็นงานเปิด ณ ลานกลางแจ้งศูนย์การค้า
ทั้งนี้ นโยบายในการพิจารณารับงานผู้แสดงแบบโฆษณาสำหรับสินค้าสำหรับงานต่าง ๆ ที่ติดต่อเข้ามา ทางบริษัทฯ ได้ พิจารณามาตรฐานของสินค้าที่ผ่านการรับรองจากหน่วยงานรัฐมาโดยชอบ รวมถึงบทบาทหน้าที่ที่ผู้ว่าจ้างกำหนด ต้องไม่ใช่การอวดอ้างสรรพคุณเกินจริง แต่ในส่วนกลไกการตลาดหรือการบริหารภายในของผู้ว่าจ้างจะดำเนินการเช่นใด อย่างไร ทางศิลปินไม่ได้มีส่วนร่วมหรือดำเนินการเกี่ยวข้องใดกับกลไกการทำงาน หรือการบริหารนั้น และไม่เคยได้เข้าร่วมงานกิจกรรม หรือการประชุมอื่นใดของบริษัทฯ ดังกล่าว
ทางบริษัทฯ และพีพี กฤษฏ์ ศิลปินในนามบริษัทฯ พร้อมชี้แจงและสนับสนุนร่วมมือในการให้ข้อมูลทุกประการ เพื่อประโยชน์ต่อการทำงานของเจ้าหน้าที่และเพื่อประโยชน์ต่อประชาชนต่อไป
สุดท้ายนี้ทางบริษัทฯ ต้องขออภัยเป็นอย่างยิ่ง หากมีผู้ได้รับผลกระทบที่เกิดขึ้นจากการเลือกรับงานให้แก่ศิลปิน และจะระมัดระวังการเลือกรับงานให้รอบคอบมากขึ้นในอนาคต
"พีพี กฤษฏ์" ยันเพียงพรีเซนเตอร์
ขณะที่ พีพี กฤษฏ์ เปิดเผยว่า สาเหตุที่งตัดสินใจแถลงข่าวในวันนี้ เนื่องจากรู้สึกไม่สบายใจ และตกใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น โดยตัวเองเข้าไปเกี่ยวข้องในฐานะพรีเซนเตอร์ผลิตภัณฑ์เม็ดฟู่ดูแลด้านดวงตา ในช่วงปี 2565 และหมดสัญญาในช่วงเดือน มิ.ย.66 ลักษณะของงานคือการถ่ายแบบภาพนิ่ง,ออกรายการ โดยเป็นสัญญาแบบปีต่อปี แบ่งจ่ายเงิน 2 งวด
สาเหตุที่ตัดสินใจรับ เพราะทีมงานได้ตรวจสอบผลิตภัณฑ์และบริษัทฯ แล้ว พบว่าทั้ง 2 อย่างถูกต้องตามกฎหมาย โดยตัวเองจะรู้ข้อมูลในด้านของผลิตภัณฑ์เท่านั้น และไม่รู้ข้อมูลเกี่ยวกับรูปแบบการบริหารงานหรือการทำการตลาด ซึ่งสคริปต์ที่ตัวเองนำมาอ่านหรือเผยแพร่ต่อสาธารณะ ทางทีมงานได้นำมาปรับเพื่อให้เป็นการโฆษณาเกินจริง
พีพี กฤษฏ์ ยังระบุว่า ไม่รู้จักกับนายวรัตน์พล วรัทย์วรกุล หรือบอสพอล เป็นการส่วนตัว เบื้องต้นรู้สึกเป็นห่วงผู้เสียหายทุกคน และไม่อยากให้เกิดความเข้าใจผิด หากตำรวจหรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องต้องการข้อมูลก็พร้อมส่งมอบให้ทุกอย่างทั้งสัญญาและเส้นทางการเงิน ส่วนการรับงานหลังจากนี้อาจจะต้องมีการตรวจสอบอย่างละเอียดเพิ่มขึ้น เพื่อป้องกันความผิดพลาด ซึ่งหลังเกิดเรื่องตัวเองได้มีการปรึกษากับนายพุฒิพงศ์ อัสสรัตนกุล หรือบิวกิ้น ที่ขณะนี้อยู่ระหว่างศึกษาต่อที่ต่างประเทศ ซึ่งทางบิวกิ้นก็รู้สึกเป็นห่วงความรู้สึก และให้กำลังใจโดยบอกว่าสู้สู้ ตัวเองจึงออกมาชี้แจงดังกล่าว ส่วนกรณีที่มีผู้เสียหายเป็นจำนวนมากนั้น ส่วนตัวรู้สึกเสียใจและไม่อยากให้เกิดขึ้น
อ่านข่าว : เปิดใจ "มิน-พีชญา" ปัดโยงธุรกิจดิไอคอน-รับค่าจ้างแค่พีอาร์
"สคบ.- ตร." เข้าตรวจสอบ "ดิไอคอน กรุ๊ป" หาหลักฐานเพิ่ม