"กัญชาเสรี" เปิดช่ององค์กรอาชญากรรม ขน "marijuana" ข้ามโลก

อาชญากรรม
11 ต.ค. 67
15:08
322
Logo Thai PBS
"กัญชาเสรี" เปิดช่ององค์กรอาชญากรรม ขน "marijuana" ข้ามโลก
อ่านให้ฟัง
00:00อ่านข่าวให้ฟังโดย Botnoi Voice เว็บแอปพลิเคชันสำหรับสร้างเสียงจากข้อความด้วย AI (Text to Speech)

ต้นเดือน ส.ค.2567 สถานเอกอัครราชทูตอังกฤษประจำประเทศไทย เผยแพร่แถลงการณ์ของหน่วยงานปราบปรามอาชญากรรมแห่งชาติของสหราชอาณาจักร (National Crime Agency : NCA) แจ้งเตือนนักท่องเที่ยวที่เดินทางจากไทย แคนาดา และ สหรัฐอเมริกา ว่าการลักลอบนำกัญชา เข้าสหราชอาณาจักรมีโทษจำคุก หลังพบปริมาณการลักลอบจากประเทศต้นทางทั้ง 3 แห่งเพิ่มสูงขึ้น และไทยตกเป็นจำเลย ในฐานะประเทศต้นทางที่มีผู้ลักลอบนำ "กัญชา" เข้าสหราชอาณาจักรมากที่สุด

โดยเฉพาะช่วงครึ่งปีที่ผ่านมา สหราชอาณาจักรจับกุมความผิดเกี่ยวกับกัญชาจากไทยเกินครึ่ง มากถึง 184 กรณี จากทั้งหมด 378 กรณี ขณะที่กัญชาจากแคนาดาถูกจับกุม 75 กรณี และ กัญชาจากอเมริกา 47 กรณี แม้สำนักงานอาชญากรรมแห่งชาติสหราชอาณาจักร (National Crime Agency : NCA) จะออกคำเตือนว่า การลักลอบนำเข้ากัญชามายังสหราชอาณาจักรมีโทษจำคุกสูงสุดถึง 14 ปี แต่ผู้ลักลอบหลายรายกลับเชื่อ ผู้ชักชวนว่าหากถูกจับได้จะแค่ถูกปรับเท่านั้น

เมื่อวันที่ 7 ต.ค.2567 นาย Mark Gooding OBE เอกอัครราชทูตอังกฤษประจำประเทศไทย พร้อมคณะได้หารือกับ พล.ต.ท.ภานุรัตน์ หลักบุญ เลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (ป.ป.ส.) เรื่องการสกัดกั้นการลักลอบลำเลียงกัญชาจากประเทศไทยไปยังสหราชอาณาจักร

วันที่ 8 ต.ค.2567 คณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติอนุมัติหลักการร่างกฎกระทรวง การขออนุญาตและการอนุญาตผลิต นําเข้า ส่งออก จําหน่าย หรือมีไว้ในครอบครอง ซึ่งยาเสพติดให้โทษในประเภท 5 เฉพาะสารสกัดจากพืชกัญชาหรือกัญชง พ.ศ. ... ตามที่กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) เสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาต่อไป

หากไล่เรียงประเด็นปัญหาที่เกิดขึ้น นับจากรัฐบาลมีคำสั่งปลดล็อกกัญชาพื้นจากบัญชียาเสพติด ประเภท 5 ไม่เป็นสิ่งผิดกฎหมาย ยกเว้น "สารสกัด" จาก กัญชา-กัญชง ที่มีสาร THC ซึ่งเป็นสารที่ออกฤทธิ์ต่อจิตและประสาท เกินร้อยละ 0.2 ที่ยังเป็นยาเสพติดให้โทษในประเภทโดยมีผลบังคับใช้ตามกฎหมาย ตั้งแต่วันที่ 9 มิ.ย.2565 เป็นต้นมา

ปฏิเสธไม่ได้ว่า มีผลกระทบต่าง ๆ ตามมาอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะมีการใช้กัญชาเพื่อสันทนาการมากกว่าใช้เพื่อรักษาโรคและทางการแพทย์

ขณะที่สถานการณ์การจำหน่ายกัญชาในไทย เมื่อเดือน เม.ย.2567 พบจุดจำหน่ายกัญชา 7,747 จุด ซึ่งเพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับเดือน ส.ค.2566 มีจุดจำหน่ายหรือร้ายขายกัญชาถึง 5,600 จุด พบมากที่สุดในพื้นที่ กทม. 1,122 จุด และ นนทบุรี 1,114 จุด อีกทั้งยังพบข้อมูล กลุ่มวัยรุ่น นักเรียน และ เยาวชน มีการใช้กัญชาร่วมกับยาเสพติดประเภทอื่น ๆ เพิ่มขึ้นด้วย

ทำให้ รัฐบาลยุค เศรษฐา ทวีสิน ต้องกลับลำมีมติให้นำกัญชา กลับคืนสู่บัญชียาเสพติดอีกครั้ง เมื่อช่วงเดือนพ.ค.2567 จนกลายเป็นขนวนขัดแย้งระหว่างพรรคร่วมรัฐบาล คือ พรรคเพื่อไทยและพรรคภูมิใจไทย

แต่สุดท้ายพรรคเพื่อไทยต้องยอมถอยให้ภูมิใจไทย โดยทำสัญญาสงบศึก โดยรัฐบาลจะไม่ดึงกัญชากลับไปขึ้นบัญชียาเสพติด แต่จะใช้การออกพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) สำหรับการควบคุมการใช้กัญชาแทน ประเด็นดังกล่าว เป็นผลกระทบที่เกิดขึ้นภายในประเทศ

สถานการณ์นอกประเทศ ในปี 2567 ทางการสหราชอาณาจักรสามารถจับกุมตัวผู้ที่ลักลอบนำเข้ากัญชามาทางเครื่องบินโดยสารได้ถึง 378 ราย และตรวจยึดกัญชาได้ 15 ตัน มากกว่า จำนวนในปี 2566 ถึง 3 เท่า ซึ่งมีการตรวจยึดกัญชาได้ 5 ตัน และจับกุมผู้คน 136 ราย และมากกว่าปี 2565 ที่ตรวจยึดได้เพียง 2 ตัน

และกว่าครึ่งของการจับกุมเป็นกัญชาที่มาจากไทย ส่วนใหญ่สามารถจับกุมกัญชาปริมาณ 15-40 กิโลกรัม ได้จากที่ผู้โดยสารซุกซ่อนในกระเป๋าสัมภาระที่โหลดไว้ใต้ท้องเครื่อง

ที่สหราชอาณาจักรเคยมีการจับกุม Fernando Mayans Fuster ชายวัย 51 ปี สัญชาติสเปน ได้ที่ท่าอากาศยานแมนเชสเตอร์เมื่อเดือน พ.ค. หลังพยายามลักลอบนำกัญชาปริมาณ 158 กิโลกรัม ซุกซ่อนมาในกระเป๋า 8 ใบ เดินทางจากนครลอสแองเจลิสของสหรัฐอเมริกาเมื่อเดือน พ.ค.2567

วันที่ 19 ก.ค.2567 Mayans Fuster ถูกศาล Manchester Minshull Street Crown Court ตัดสินจำคุก 3 ปี 4 เดือน

วันที่ 9 ส.ค.2567 ผู้โดยสารสัญชาติอังกฤษ 11 คน ถูกจับกุมที่ท่าอากาศยานเมืองเบอร์มิงแฮม หลังพยายามลักลอบนำเข้ากัญชาปริมาณ 510 กิโลกรัมมาในกระเป๋าเดินทาง 28 ใบ ก่อนเดินทางถึงสหราชอาณาจักร ผู้โดยสารกลุ่มนี้เดินทางจากประเทศไทย และเปลี่ยนเครื่องที่ท่าอากาศยานนานาชาติปารีส-ชาร์ล เดอ โกล ทั้งหมดได้รับประกันตัว และรอการสืบสวนจากหน่วยงานปราบปรามอาชญากรรมแห่งชาติ โดยเชื่อว่าผู้ถูกจับกุมมีความเชื่อมโยงกัน

James Babbage อธิบดีกองการปราบปรามภัยคุกคามจากยาเสพติด หน่วยงานปราบปรามอาชญากรรมแห่งชาติ ระบุ บางกรณี ผู้ที่ลักลอบนำเข้ากัญชาอาจไม่ทราบถึงบทลงโทษ แต่ในกรณีส่วนใหญ่ ผู้ลักลอบกำลังดำเนินการเพื่อผลประโยชน์ขององค์กรอาชญากรรม โดยจะรู้ตัวหรือไม่ก็ตาม

นอกจากนี้ สหราชอาณาจักรเรียกร้องให้ผู้ที่ได้รับการติดต่อเพื่อลักลอบนำเข้ากัญชาให้คิดอย่างรอบคอบถึงผลที่อาจจะเกิดขึ้นจากการกระทำ รวมทั้งความเสี่ยงที่อาจจะเกิดขึ้นด้วย

มีรายงานข้อมูลปริมาณกัญชาผิดกฎหมายที่ยึดได้ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ของ UNODC เมื่อปี 2550-2565 ก่อนนโยบายปลดล็อกกัญชาในประเทศไทยปี 2565 พบปริมาณเพิ่มขึ้นอย่างเห็นได้ชัด คือ จำนวน 5,410,092.19 กิโลกรัม หากเปรียบเทียบกับปี 2554-2563 จำนวน 4,965,938.40 กิโลกรัม แต่หลังจากปลดล็อกกัญชาช่วงครึ่งปีหลัง (ในปี 2565) มีการยึดกัญขาได้ปริมาณ 894,354.83 กิโลกรัมต่อปี

อย่างไรก็ตามมีการคาดการณ์ว่า ก่อนที่จะรัฐบาลจะบังคับใช้กฎหมาย มีกลุ่มบุคคล ในขบวนการค้ายาเสพติดผิดกฎหมาย และกลุ่มนักธุรกิจการเมือง ได้อาศัยช่องว่างทางกฎหมาย โดยนำกัญชาเก็บเข้าคลังสินค้าไว้ล่วงหน้า เพื่อรอโอกาสทางธุรกิจ คือ ให้ตลาดมีความต้องการในปริมาณสูง และหากกฎหมายปลดล็อกไม่ผ่านในช่วงจังหวะนั้น จึงจำเป็นต้องระบายสินค้าออกไปตามแผนการตลาดที่วางเป้าหมายไว้แล้ว

ในขณะที่กลุ่มประเทศอาเซียนต่าง ๆ ได้เพิ่มมาตรการในการเฝ้าระวังและความเข้มงวดสูงขึ้น ในการตรวจจับการลักลอบกัญชาข้ามเขตแดน จึงทำให้สามารถจับกุมกัญชาที่จะถูกระบายสู่ตลาดมืด ได้มากเช่นกัน

สำหรับประเทศไทย พบว่าในปี 2550-2564 ไทยสามารถยึดปริมาณกัญชาได้เฉลี่ย 47,742.59 กิโลกรัมต่อปี และในปี 2565 มีปริมาณกัญชายึดได้เพียง 5,200 กิโลกรัม ซึ่งเป็นที่ปีที่รัฐบาลภายใต้การนำของ คสช. ได้ปลดล็อกกัญชาออกจากบัญชียาเสพติดแล้ว ในเดือนแรกของไตรมาสที่ 2 ของปี ซึ่งปริมาณกัญชาที่หลุดรอดจากการตรวจยึดได้จากปริมาณเฉลี่ยต่อปีดังกล่าว คิดเป็นร้อยละ 40 สามารถประเมินได้ว่า ปริมาณกัญชาผิดกฎหมายในตลาดของไทยในระยะที่ผ่านมา อาจมีปริมาณเฉลี่ยอยู่ที่ 66,839.62 กิโลกรัมต่อปี

อย่างไรก็ตาม หากประเมินปริมาณกัญชาที่ยึดได้เฉลี่ย 5 ปี จากปริมาณกัญชาที่ยึดได้ในปี 2565 คิดเป็นปริมาณกัญชาส่วนเกินที่ยึดได้จากค่าเฉลี่ย 5 ปี เท่ากับ 477,614.76 กิโลกรัม หรือเป็นปริมาณกัญชาที่หลุดรอดจากการตรวจยึดในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ส่วนหนึ่งกระจายอยู่ในตลาดมืด และทะลักออกจากไทย

หมายความว่า ไทยได้กลายเป็นทั้ง Hub และ Bridge และคลังสินค้าจัดเก็บกัญชาผิดกฎหมายจากประเทศเพื่อนบ้าน (Source, Distination, Transit = Hub, Repeate hub , Bridge ) ในการส่งออกกระจายไปสู่ตลาดต่างประเทศ โดยเฉพาะตลาดในอนุภูมิภาคเอเชียใต้ ภูมิภาคยุโรป ภูมิภาคโอชิเนีย

พล.ต.ท.ภาณุรัตน์ หลักบุญ เลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (ป.ป.ส.) กล่าวถึง ข้อกังวลของต่างชาติเกี่ยวกับกัญชาจากประเทศไทยว่า พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รมว.ยุติธรรม ทราบเรื่องดังกล่าวแล้ว หลังอังกฤษได้ยกประเด็นการจับกุม ผู้ต้องหาลักลอบขนกัญชาจากประเทศไทยในปี พ.ศ.2567 ไปยังสหราชอาณาจักรกว่า 200 กรณี

ทำให้มีความกังวลว่ามีกลุ่มองค์กรอาชญากรรมที่อยู่เบื้องหลังการลักลอบขนส่ง จึงกำชับให้ ป.ป.ส. ตำรวจ กรมศุลกากร และการท่าอากาศยานแห่งประเทศไทย ( AOT) หารือร่วมกัน โดย ป.ป.ส. และสำนักงานอาชญากรรมแห่งชาติสหราชอาณาจักร (National Crime Agency : NCA) แลกเปลี่ยนข้อมูลด้านการข่าว เน้นการตรวจสอบผู้โดยสารขาออกและสัมภาระในด้าน ตรวจวิเคราะห์ ยาเสพติดที่ผิดกฎหมายเพิ่มมากขึ้น

และในส่วนของไทย ได้แก้ปัญหาโดยยกร่างกฎกระทรวงฯ การขออนุญาตและการอนุญาตผลิต นําเข้า ส่งออก จําหน่าย ออกกฎหมายลำดับรองที่ออกตามความในประมวลกฎหมายยาเสพติด โดยมีสาระสำคัญ คือ การกำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขการขออนุญาต คุณสมบัติของผู้ขออนุญาต การออกใบอนุญาต และการต่อใบอนุญาต

รวมถึงค่าธรรมเนียมในการออกใบอนุญาตให้ผลิต นําเข้า ส่งออก จําหน่าย หรือมีไว้ในครอบครอง ซึ่งยาเสพติดให้โทษในประเภท 5 ที่เป็นสารสกัดจากพืชกัญชาหรือกัญชง เพื่อประโยชน์ในทางการแพทย์ เชิงพาณิชย์หรืออุตสาหกรรม การวิเคราะห์หรือศึกษาวิจัยทางการแพทย์หรือวิทยาศาสตร์ เพื่อประโยชน์ของทางราชการในการป้องกันและปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติด

เลขาธิการ ป.ป.ส.ระบุว่าเมื่อร่างกฎกระทรวงฉบับนี้ มีผลบังคับใช้แล้ว การผลิต นําเข้า ส่งออก จําหน่าย หรือมีไว้ครอบครอง ซึ่งยาเสพติดให้โทษในประเภท 5 เฉพาะสารสกัดจากพืชกัญชาหรือกัญชง โดยไม่ได้รับใบอนุญาตตามกฎกระทรวงนี้ จะมีโทษตามประมวลกฎหมายยาเสพติด จำคุกไม่เกิน 5 ปี และปรับไม่เกิน 500,000 บาท 

และหากเป็นการกระทำเพื่อการค้า หรือก่อให้เกิดการแพร่กระจายในกลุ่มประชาชน หรือจำหน่ายแก่บุคคลอายุไม่เกิน 18 ปี จะมีโทษหนักขึ้นไปอีก คือ จำคุก 1-15 ปี และปรับ 100,000-1,500,00 บาท

อ่านข่าว

เปิดใจ "มิน-พีชญา" ปัดโยงธุรกิจดิไอคอน-รับค่าจ้างแค่พีอาร์

ไขคำตอบ "ลูกช้างป่าแก่งกระจาน" งายาว 60 ซม. เกินอายุ 5 ปี

ข่าวที่เกี่ยวข้อง