วันนี้ (8 ต.ค.2567) นายวราวุธ ศิลปอาชา รมว.การพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ให้สัมภาษณ์ถึงสถานการณ์น้ำที่ จ.สุพรรณบุรี ว่า น้ำจากทางทิศตะวันตกเข้ามาสุพรรณบุรี และเจอน้ำที่ฝนตกลงมา บวกกับน้ำเหนือที่ลงมาอีก จึงอาจส่งผลให้น้ำขึ้นสูงและระบายไม่ทัน น้ำเหนือที่หลากลงมากับที่ทางชลประทานผันลงมา
นอกจากในส่วนของแม่น้ำท่าจีนแล้ว แม่น้ำเจ้าพระยาก็มีผลกระทบกับสุพรรณบุรีเช่นกัน ในลักษณะที่ว่า เจ้าพระยาจะไปกระทบที่อ่างทอง ซึ่งอ่างทองมีแม่น้ำน้อยประกบอยู่ แต่เมื่อล้นจากแม่น้ำน้อยที่อ่างทอง มันก็จะเข้ามาทางทิศตะวันออกของสุพรรณบุรี ฉะนั้นสุพรรณบุรีจะโดนทั้งตะวันออกและตะวันตกในกรณีที่น้ำเยอะจริง ๆ
และหากว่า มีน้ำเหนือจากข้างบนลงมาอีก จะยิ่งระบายยาก บวกกับตอนนี้เป็นเดือน ต.ค.ถ้ามีน้ำทะเลหนุนสูงก็จะโดนทั้งทิศเหนือ ใต้ ตะวันออก และตะวันตก ซึ่งจะมารวมกันอยู่ที่ จ.สุพรรณบุรี
ทั้งนี้ น้ำใน จ.สุพรรณบุรี อาจจะไม่ได้ก่อให้เกิดความเสียหายแบบปัจจุบันทันด่วนเหมือนทางภาคเหนือ แต่น้ำที่สุพรรณบุรีจะเป็นลักษณะน้ำปล่อยเข้าทุ่ง แล้วเอ่อขึ้นเรื่อย ๆ และอยู่เป็นเดือนๆ ประมาณ 2 เดือน บางครั้งอยู่นานถึง 3 เดือน
ดังนั้น การเร่งระบายน้ำลงไปในอ่าวไทย จึงเป็นปัจจัยที่จะทำให้น้ำลงเร็ว เพราะน้ำข้างบนก็จะลงมาเรื่อย ๆ นี่จึงเป็นสาเหตุที่ทำให้เมื่อวันที่ 7 ต.ค.2567 ที่ผ่านมา ตนจึงต้องลงพื้นที่ไปดูที่สุพรรณบุรี ว่าสถานการณ์การบริหารจัดการน้ำอยู่ในเซฟโซนระดับไหนและยังห่างจากขอบสันเขื่อนอีกเท่าไหร่
นายวราวุธ กล่าวว่า ขณะนี้สุพรรณบุรีน้ำเริ่มท่วมแล้ว ซึ่งสุพรรณบุรีเคยท่วมหนักที่สุดคือปี 2554 และหลังจากนั้นก็มีท่วมมาอยู่เรื่อย ๆ และเราได้มีมาตรการป้องกัน แต่ที่น่าเป็นห่วงคือทุกปีระดับน้ำจะสูงเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ
ส่วนในตัวเทศบาลเมืองนั้นต้องขอขอบคุณพ่อบรรหาร ศิลปอาชา นายกรัฐมนตรีคนที่ 21 พอสุพรรณบุรี เคยเจอน้ำท่วมใหญ่เมื่อปี 2549 จากนั้นได้ประชุมร่วมกับทางจังหวัด และมีการของบประมาณจากกรมโยธาธิการ เพื่อทำสันเขื่อนกั้นริมตลิ่งในเขตเทศบาลเมือง ซึ่งถือว่าเป็นเขตเศรษฐกิจที่สำคัญ เหมือนกรุงเทพฯ จนถึงวันนี้ในเขตเทศบาลยังปลอดภัยอยู่
อ่านข่าว : พม.เร่งช่วยกลุ่มเปราะบางน้ำท่วมเชียงใหม่-เชียงราย