- เช็กช่องทางรับแลก "ธนบัตรชำรุด" เหตุน้ำท่วม
- บุกรวบ "แม่ตั๊ก-ป๋าเบียร์" คาบ้านหรู ฟันข้อหาฉ้อโกง , พ.ร.บ.คอม
วันนี้ (29 ก.ย.2567) ในช่วงเสาร์-อาทิตย์นี้ กรมบัญชีกลาง หยุดโอนเงิน 10,000 บาท ให้กับกลุ่มเปราะบางภายใต้โครงการกระตุ้นเศรษฐกิจ 2567 จำนวน 14.5 ล้านคน โดยช่วง 3 วันระหว่าง 25-27 ก.ย.นี้ มีการโอนเงิน 12.19 ล้านคน รวมวงเงินกว่า 100,000 ล้านบาท
ในจำนวนนี้มียอดการโอนเงินไม่สำเร็จกว่า 319,000 คน เนื่องจากบัญชีเงินฝากของผู้ได้รับสิทธิ มียอดเงินต่ำกว่าเกณฑ์ และไม่มีการเคลื่อนไหว จนถูกปิดบัญชี และบางส่วน ยังไม่ผูกพร้อมเพย์ จึงเตือนผู้ได้รับสิทธิ ติดต่อสาขาธนาคารเพื่อแก้ไขบัญชีดังกล่าว ภายในวันที่ 18 ต.ค.นี้ เพื่อรอรับเงิน ที่รัฐบาล จะโอนซ้ำ ในวันที่ 22 ต.ค.นี้
สำหรับวันพรุ่งนี้ (30 ก.ย.) กระทรวงการคลัง จะโอนเงินให้กับผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ที่เลขบัตรประชาชน ลงท้ายด้วยเลข 8 และ 9 ตั้งแต่เวลา เที่ยงคืน ของวันที่ 30 ก.ย.นี้ เป็นกลุ่มสุดท้าย
"วราวุธ" เตือนใช้เงินคุ้มค่า-งดซื้อเหล้า-เบียร์
นายวราวุธ ศิลปอาชา รมว.พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) ยอมรับว่า การโอนเงินให้กลุ่มเปราะบาง 3 วัน มีปัญหาข้อมูล บัญชีธนาคารไม่ตรงกับชื่อคน แต่ยังเป็นส่วนน้อย จึงขอให้คนพิการมาขึ้นทะเบียนกับกรมส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการได้ถึงวันที่ 3 ธ.ค.นี้ เพื่อทำข้อมูลให้ถูกต้อง และรักษาสิทธิการรับ 10,000 บาท
พร้อมฝากถึงพี่น้องคนพิการและกลุ่มเปราะบางเมื่อได้รับเงิน ขอให้ใช้เงิน 10,000 บาทให้คุ้มค่า เพราะเป็นเงินที่มาจากภาษีพี่น้องประชาชน ไม่ใช่เงินฟรี หรือ ลอยมาจากไหน อย่าเพิ่งใช้ให้หมดไป กับการซื้อเหล้า ซื้อหวย ขอให้ใช้ให้เกิดประโยชน์กับเศรษฐกิจในระดับชุมชน
เตรียมถกกรอบแจกเงินหมื่น เฟส 2
สำหรับผู้ลงทะเบียนดิจิทัลวอลเล็ตบนแอปพลิเคชันทางรัฐ นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รมช.คลัง กล่าวว่า ขณะนี้มี 26 ล้านคน ซึ่งกระทรวงการคลัง จะหารือแนวทางดำเนินโครงการเฟส 2 ต่อที่ประชุมคณะกรรมการโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจ ที่มีน.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีเป็นประธานจะกลับมาแจกเงิน ผ่านระบบดิจิทัลวอลเล็ต และทยอยโอนเงินคราวละ 5,000 บาท เพื่อลดความเสี่ยงทางการคลัง
"เผ่าภูมิ" เผยกดเงิน ATM พุ่งสะท้อนกระตุ้น
นายเผ่าภูมิ โรจนสกุล รมช.คลัง เปิดเผยว่า หลังจากโอนเงิน 10,000 บาทเมื่อวันที่ 25 ก.ย.นี้ พบการถอนเงินจากตู้ ATM ของ ธ.ก.ส.เพิ่มขึ้นถึง 18.8 เท่าตัวเมื่อเทียบกับวันที่ 24 ก.ย.
ส่วนยอดถอนเงินตู้ ATM ธนาคารออมสิน เพิ่มขึ้น 1.76 เท่าตัว จำนวนเงินเพิ่มขึ้น 2.84 เท่าตัว และวันที่ 26 ก.ย. มีจำนวนรายการถอนเงินเพิ่มขึ้น 2 เท่าตัว จำนวนเงินเพิ่มขึ้น 3.72 เท่าตัว เทียบกับวันที่ 24 ก.ย.
ตัวเลขเหล่านี้ชี้ว่า ประชาชนกลุ่มนี้มีความจำเป็นต้องใช้เงินสูง มีเงินไม่พอใช้ มีเท่าไหร่ต้องถอนมาใช้เกือบหมด เป็นกลุ่มที่มี MPC สูง ซึ่งนั่นหมายถึงการกระตุ้นเศรษฐกิจได้ทันทีและมีประสิทธิภาพ
วิจารณ์แจกเงินเท่ากับให้ "ยาพารา" รักษามะเร็ง
น.ส.ชุติมา คชพันธ์ ส.ส.พรรคประชาชน ในฐานะรองประธานคณะกรรมาธิการการพัฒนาเศรษฐกิจ กล่าวถึงประเด็นการแจกเงิน 10,000 บาท ว่า เป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจได้เพียงชั่วคราว มันเหมือนคนป่วยเป็นมะเร็งแต่ให้กินยาพารา ไม่ได้รักษาโรคร้ายเชื่อว่าการจับจ่ายที่มากขึ้น ไม่กี่วันก็จะหมดไป ส่วนตัวไม่เห็นด้วยกับมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจระยะสั้นแบบนี้ อยากให้มองระยะยาวมากกว่า
อ่านข่าว : เตือน 32 จังหวัด เฝ้าระวังน้ำท่วม-น้ำล้นตลิ่ง ถึง 3 ต.ค.นี้