วันนี้ (27 ก.ย.2567) กรมอุตุนิยมวิทยา ออกเอกสารข่าว ระบุว่า ตามที่มีการเผยแพร่ภาพและข้อความ ปรากฏผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์ว่า "อีก 5 วันจะเกิดพายุใต้ฝุ่นขนาดใหญ่ ถล่มใต้หวันแบบชนิดที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน และรุนแรงมาก แรงกว่าพายุยางิถึง 2 เท่า แต่ประเด็นมันอยู่ตรงที่ว่า อุณหภูมิที่ประเทศจีนมีการเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา มวลอากาศเย็นสลับกับลมร้อน ไม่อยู่กับร่องกับรอย ถ้ามวลอากาศเย็นหายไป
พายุลูกนี้จะเคลื่อนตัวเข้าเวียดนาม และเข้าประเทศไทยทางฝั่งภาคเหนือตอนบนอย่างแน่นอน ซึ่งเป็นสิ่งที่ผมกังวลใจมากที่สุด ถ้าเป็นแบบนี้ กรุงเทพฯ น้ำจะท่วมหนักกว่าปี 54 ถึง 2 เท่าเลยทีเดียว
กรมอุตุนิยมวิทยา ระบุว่า เป็นข้อความที่มาจากบุคคล ที่ไม่มีหน้าที่รับผิดชอบหรือหน่วยงานที่แจ้งเดือนภัยธรรมชาติ โดยตรงอาจทำให้เกิดความเข้าใจที่ความคลาดเคลื่อน
ประกายทิพย์ อินทกุล ชุมชนป่าห้า ฝั่งวัดประทานพร จ.เชียงใหม่ ถูกน้ำจากลำห้วยแก้วหลากเข้าท่วม ชาวบ้านขนของหนีน้ำไม่ทัน
"ซีมารอน" ก่อตัวแปซิฟิก-จ่อเข้าญี่ปุ่น
จากการติดตามและคาดการณ์ของกรมอุตุนิยมวิทยา ในขณะนี้มีพายุในมหา สมุทรแปซิฟิกอยู่ 1 ลูก เป็นพายุหมุนเขต ร้อนมีความรุนแรงอยู่ในระดับ พายุโซนร้อน ชื่อ "ซีมารอน" (CIMARON) คาดว่าจะเคลื่อนขึ้นไปไปทางตอนได้ของประเทศญี่ปุ่นและจะอ่อนกำลังลงตามลำดับต่อไป และจะมีการก่อตัวของความกดอากาศต่ำที่ก่อตัวขึ้นมาใหม่บริเวณด้านตะวันออกของประเทศ ฟิลิปปินส์ มีแนวโน้มจะมีกำลังแรงขึ้นเป็นพายุหมุนเขตร้อน
อ่านข่าว เปิดเบื้องหลัง ปมดรามา "ไล่แบคโฮ" ออกจากบ้านถ้ำผาจม แม่สาย
คาดว่าจะมีกำลังแรงขึ้นเป็นพายุโต้ฝุ่น และจะเคลื่อนตัวไปทางเกาะไต้หวัน ในขณะที่มีความกดอากาศสูงหรือมวลอากาศเย็นกำลังแรงจากประเทศจีนจะแผ่ลงมาปกคลุมประเทศเวียดนามตอนบนใน วันที่ 30 ก.ย.นี้ และแผ่ลงมาต่อเนื่องทำให้ประเทศไทยมีฝนเพิ่มขึ้นในระยะแรกๆ
หลังจากนั้นอากาศเย็นลง พายุนี้ไม่ผลกระทบต่ออากาศของประเทศไทยโดยตรง ถึงแม้ว่าความกตออากาศสูงจะอ่อนกำลังลง พายุนี้จะเคลื่อนขึ้นฝั่งประเทศจีนด้านตะวันออกมากขึ้น จะไม่เคลื่อนลงมาทางประเทศเวียดนามและทางภาคเหนือตอนบนของประเทศไทย หรือไม่พายุนี้ก็อาจจะอ่อนกำลังลงก่อนขึ้นฝั่ง จึงขอให้ประชาชนติดตามข้อมูลการพยากรณ์อากาศในระยะนี้อย่างใกล้ชิด เนื่องจากเป็นช่วงถ่ายฤดูกาลอากาศอาจจะมีความแปรปรวนในบางวัน
นำร่องจ่ายเยียวยาน้ำท่วม 3 จังหวัด
ด้านนายจิรายุ ห่วงทรัพย์ ที่ปรึกษาของนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีการแก้ไขปัญหา และเยียวยาพื้นที่ที่ประสบอุทกภัยว่า น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เร่งรัดให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ดำเนินการจ่ายเงินเยียวยาให้กับประชาชนในพื้นที่ประสบอุทกภัยให้รวดเร็ว ลดขั้นตอน
โดยได้รับรายงานจากกระทรวงมหาดไทยว่า จะสามารถจ่ายเงินเยียวยาเบื้องต้นให้กับผู้ประสบภัยในพื้นที่ จ.เชียงใหม่ จ.เชียงราย และจ.ลำปาง ซึ่งเป็นพื้นที่ที่ประสบภัยลำดับต้น ได้ในช่วงสัปดาห์นี้ เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนให้กับประชาชนก่อน
ซึ่งหากมีความเสียหายอื่น ๆ ก็จะเร่งรัดจ่ายเงินช่วยเหลือตามหลักเกณฑ์ เช่น กรณีบ้านพังเสียหายทั้งหลัง จะได้รับเงินช่วยเหลือ 230,000 บาทต่อหลัง และในกรณีเสียชีวิตจะได้รับเงินช่วยเหลือ 50,000 บาท
ที่ประชุม ศปช.ได้เร่งรัดให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งจ่ายเงินเยียวยา เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนให้กับประชาชน ภายใต้ระเบียบและกฎหมายที่เกี่ยวข้อง ซึ่งความช่วยเหลือที่รวดเร็วเป็นสิ่งที่รัฐบาลให้ความสำคัญสูงสุด
อ่านข่าว
ระทึก! พนังกั้นน้ำยมแตกเพิ่ม 2 จุดอพยพชาวบ้านหนี
อยุธยาเร่งตั้งแนวกระสอบทราย รับมือเขื่อนเจ้าพระยาระบายน้ำเพิ่ม