- ขั้นตอน "ล้างท้อง" เตรียมร่างกาย-จิตใจก่อนเทศกาลกินเจ 2567
- "เทศกาลกินเจ 2567" ได้บุญ อิ่มใจ ปลอดภัย ลดเค็ม
วันนี้ (26 ก.ย.2567) นายธนวรรธน์ พลวิชัย อธิการบดีมหาวิทยาลัยหอการค้าไทย และประธานที่ปรึกษาศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย เปิดเผย ผลสำรวจพฤติกรรมการใช้จ่ายในช่วงเทศกาลกินเจ ปี 2567 ว่า บรรยากาศกินเจปีนี้ มีความใกล้เคียงกับปีที่แล้ว คาดว่าปีนี้จะมีการใช้จ่ายในช่วงเทศกาลกินเจ อยู่ประมาณ 45,003 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 1% เมื่อเทียบกับปี 66 ที่มีค่าใช้จ่าย 44,558 ล้านบาท แต่ถือว่าสูงสุดนับตั้งแต่เกิดโควิด-19 เมื่อปี 2562
นายธนวรรธน์ พลวิชัย อธิการบดีมหาวิทยาลัยหอการค้าไทย และประธานที่ปรึกษาศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย
โดยจากผลสำรวจระหว่างวันที่ 17 - 23 ก.ย. จำนวนทั้งสิ้น 1,265 ตัวอย่างทั่วประเทศ พบว่า ประชาชนที่ตอบว่าไม่กินเจ อยู่ที่ 63.9% กินเจ 36.1% ซึ่งกลุ่มผู้กินเจ เป็นเพราะตั้งใจทำบุญ 20.2% ลดการกินเนื้อสัตว์ 17.0%
ส่วนไม่กินเจเป็นเพราะอาหารเจแพง 26.1% ไม่มีเชื้อสายจีน 23.6% เศรษฐกิจไม่ดี 12.1% โดยมีมูลค่าการเดินทางไปทำบุญเฉลี่ย 4,523.30 บาทต่อ 2-3 วันต่อทริป หรือทำบุญเฉลี่ย 2,081.61 บาทต่อคน
นายธนวรรธน์ กล่าวว่า คนส่วนใหญ่ยังคงระมัดระวังในการจับจ่ายใช้สอยอยู่ สะท้อนถงภาวะเศรษฐกิจที่มองว่ายังไม่ดีขึ้น แม้มีการแจกเงินดิจิทัล 10,000 บาทเข้ามา แต่ไม่ได้ช่วยในช่วงเทศกาลกิจเจมากนัก เพราะกลุ่มผู้กินเจอาจยังไม่ได้รับเงิน 10,000 บาทนี้ โดยคนมองว่าเศรษฐกิจยังแย่กว่าปี 2566 รวมถึงเศรษฐกิจยังนิ่งๆ ทรงตัว และซึมลงกว่าเดิม
สำหรับด้านทัศนะต่อมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจปี 2567 ผ่านผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐและบัตรพิการ หรือเงิน 10,000 บาท สำรวจจากผู้ไม่ถือบัตร 80.2% ถือบัตร 19.8% ส่วนใหญ่เลือกเงินโอนเข้าบัญชีพร้อมเพย์ 93.0%
โดยการใช้เงินจะแบ่งใช้หลายครั้ง 67.3% ใช้ให้หมดในครั้งเดียว 19.2% ไม่แน่ใจ 13.5% จะใช้ซื้อทองคำ/เพชร/อัญมณี 17.8% เครื่องใช้ไฟฟ้า 10.7% เครื่องมือสื่อสาร 8.8% สินค้าอุปโภคบริโภคเช่น อาหาร เสื้อผ้า 8.4% สินค้าวัตถุดิบเพื่อการเกษตรหรือการค้า 8.3%
กลุ่มคนที่รับเงินสด 10,000 บาท ส่วนใหญ่จะแบ่งใช้จ่ายเงินหลายครั้งโดยจะใช้จ่ายภายในระยะเวลา 3 เดือน เพื่อซื้อสินค้าที่ผลิตได้ในประเทศเอง เช่น เครื่องใช้ไฟฟ้า อัญมณี และสินค้าอุปโภคบริโภค
ทั้งนี้ เงิน 10,000 บาทเฟสแรก มีจำนวนผู้ได้รับสิทธิ 14.5 ล้านคน วงเงิน 145,000 ล้านบาท จะส่งผลต่อจีดีพีปี 67 เพิ่ม 0.2%-0.3% เกิดการหมุนในระบบเศรษฐกิจ 2-3 รอบ สร้างเม็ดเงินเพิ่มขึ้น 2.5-4.5 แสนล้านบาท
อย่างไรก็ตามคาดว่าเศรษฐกิจไตรมาส 3 ขยายตัว 2.5-3% ไตรมาส 4 ขยายตัว 3.8-4.3% ครึ่งปีหลังเศรษฐกิจไทยมีโอกาสขยายตัวในกรอบเฉลี่ย 3-3.5% ทำให้ทั้งปี 2567 โอกาสที่เศรษฐกิจไทยจะขยายตัวประมาณ 2.6-2.8% มีโอกาสสูงขึ้น
อ่านข่าว:
เร่งพื้น "เศรษฐกิจไทย" พาณิชย์ จับมือคนดังไฟล์ขายสินค้า
"กรุงศรีฯ" แนะลงทุนตราสารหนี้ลดเสี่ยง ชี้ตลาดทุนทั่วโลกยังผันผวน