วันนี้ (26 ก.ย.2567) เว็บไซต์ "ฮั่วเซ่งเฮง" ภาพรวมความเคลื่อนไหวที่ผ่านมา ราคาทองคำปรับตัวขึ้นทำ All-time high ต่อเนื่องที่ระดับ 2,670 ดอลลาร์ ซึ่งนักลงทุนคาดการณ์ว่าเฟดจะลดดอกเบี้ย 0.50% ในเดือนพ.ย. นอกจากนี้นักวิเคราะห์หลายรายคาดการณ์ว่า ราคาทองคำยังคงมีแนวโน้มที่แข็งแกร่งไปจนถึงปีหน้า อย่างไรก็ตามราคาทองคำปิดตลาดลดลงเล็กน้อย ซึ่งเงินดอลลาร์แข็งค่ากดดันราคาทองคำ ทั้งนี้ยอดขายบ้านใหม่เดือนส.ค. ดีกว่าตลาดคาด ส่วนกองทุน SPDR ถือครองทองคำเท่าเดิม
ตัวเลขเศรษฐกิจที่ต้องติดตาม สหรัฐจะเปิดเผยตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐหลายตัว ได้แก่ จีดีพีไตรมาส 2 (ประมาณการครั้งสุดท้าย) จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ ยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนเดือนส.ค. และยอดทำสัญญาขายบ้านรอปิดการขายเดือนส.ค. นอกจากนี้ติดตามการแถลงของประธานเฟด และการแถลงของประธานเฟดสาขาซานฟรานซิสโก
วิเคราะห์ราคาทอง ราคาทองคำยังคงยก high และ low ต่อเนื่อง และยังทำ All-time high ต่อเนื่อง ราคาทองคำจึงยังคงมีทิศทางขาขึ้นในระยะยาว ทั้งนี้หากราคาทองคำยังเคลื่อนไหวเหนือ 2,640 ดอลลาร์ มีโอกาสที่ราคาทองคำจะปรับตัวขึ้นได้ต่อ โดยมองเป้าหมายไว้ที่ระดับ 2,690-2,700 ดอลลาร์
ขณะที่ราคาทองตลาดโลกแนวรับ หากมีการเข้าซื้อไว้สามารถขายทำกำไรบริเวณ 2,690-2,700 ดอลลาร์ การเข้าซื้อรอบใหม่ แนะนำเข้าซื้อบริเวณ 2,630 ดอลลาร์ โดยมีจุดตัดขาดทุนที่ 2,620 ดอลลาร์
ส่วนราคาทองคำแท่ง 96.5% ราคาทองคำแท่งปรับตัวขึ้นต่อเนื่อง ตามราคาทองคำโลกที่ทำ all-time high ต่อเนื่อง แม้ค่าเงินบาทจะแข็งค่าอย่างรวดเร็ว ซึ่งเงินบาทแข็งค่าสุดนับตั้งแต่เดือนก.พ. 2566 ทั้งนี้แนวโน้มเงินบาทยังคงแข็งค่า จึงอาจกดดันราคาทองคำแท่งไม่ให้ปรับตัวขึ้นไปมากนัก อย่างไรก็ตาม หากถือทองคำไว้แนะนำ Let Profit Run
สำหรับราคาทองไม่เปลี่ยนแปลง ส่งผลให้ราคาทองคำแท่งขายออกบาทละ 41,100 บาท และราคาทองคำแท่งรับซื้อบาทละ 41,000 บาท ราคาทองรูปพรรณขายออกบาทละ 41,600บาท และราคาทองรูปพรรณรับซื้อบาทละ 40,264.50 บาท ราคาทองคำตลาดโลก (Gold Spot) อยู่ที่ 2,659.50 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์ ณ อัตราแลกเปลี่ยนที่ระดับ 32.66 บาทต่อดอลลาร์
ราคาทองรูปพรรณรวมค่ากำเหน็จ 500 บาท มีราคาดังนี้ ทองครึ่งสลึง ราคาขาย 5,638 บาท ทอง 1 สลึง ราคาขาย 10,775 บาท ทอง 2 สลึง/50 สตางค์ ราคาขาย 21,050 บาท และทอง 1 บาท ราคาขาย 41,600 บาท
อ่านข่าว:
"ทองคำ" พุ่งไม่หยุด อานิสงส์เศรษฐกิจ"สหรัฐ-จีน" ฟื้นตัวต่อเนื่อง