เมื่อวันที่ 15 ก.ย.2567 รัฐบาลทหารเมียนมา สรุปภาพรวมความเสียหายจากน้ำท่วม ซึ่งเป็นผลจากอิทธิพลของพายุ "ยางิ" โดยระบุว่า ตัวเลขผู้เสียชีวิตล่าสุดเพิ่มเป็น 113 คน สูญหาย 64 คนและบาดเจ็บ 14 คน ในขณะที่ประชาชนมากกว่า 320,000 คนจาก 78,000 ครัวเรือนอพยพไปอยู่ในศูนย์พักพิงชั่วคราว
MRTV สื่อของทางการเมียนมา รายงานภาพรวมความเสียหายจากอุทกภัยในครั้งนี้ว่า มีเขื่อน 5 แห่ง เจดีย์ 4 องค์และบ้านเรือนประชาชนมากกว่า 65,000 หลังได้รับความเสียหาย
ขณะที่ผู้พลัดถิ่นซึ่งอาศัยอยู่ในค่ายสำหรับผู้พลัดถิ่นภายในประเทศที่เมืองทันดอนจี ทางตะวันออกของรัฐกะเหรี่ยง ต้องหนีเอาชีวิตรอดจากค่ายผู้พลัดถิ่นหลังน้ำทะลักเข้าท่วมจนเสียหายหนัก เพิงหลายหลังถูกน้ำพัดหายไป ถือเป็นภับพิบัติที่ซ้ำเติมผู้คนที่เดิมต้องสูญเสียบ้านจากการสู้รบ ซึ่งน้ำท่วมทำให้ไม่เหลือทรัพย์สินใดๆ ติดตัว
ก่อนหน้านี้ โฆษกรัฐบาลทหารเมียนมาระบุว่า มีประชาชนไม่ต่ำกว่า 320,000 คนต้องอพยพหนีน้ำท่วม ซึ่งความเสียหายรุนแรงที่เกิดขึ้นในหลายพื้นที่ ทำให้ พล.อ.อาวุโสมิน อ่อง หล่าย ผู้นำรัฐบาลทหารเมียนมาสั่งการให้เจ้าหน้าที่รัฐติดต่อนานาชาติ เพื่อขอรับความช่วยเหลือ และนำสิ่งของบรรเทาทุกข์ไปช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วมให้ได้โดยเร็วที่สุด
ซึ่งเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นไม่บ่อยนัก หลังจากกองทัพเมียนมาเคยขัดขวางการนำส่งสิ่งของบรรเทาทุกข์จากต่างประเทศไปยังพื้นที่ทุรกันดารและประสบภัยพิบัติต่างๆ มาเป็นเวลานาน เพราะปัญหาความขัดแย้งภายในประเทศ
พิษยางิทำ "เวียดนาม" ตายเพิ่มเป็น 292 คน
ส่วนที่เวียดนาม ล่าสุดมีรายงานผู้เสียชีวิตเพิ่มเป็น 292 คน สูญหาย 38 คน โดยเจ้าหน้าที่พบว่าบุคคลที่มีรายงานว่าสูญหายจากเหตุดินถล่ม 18 คนก่อนหน้านี้ใน จ.หล่าวกาย และกาวบั่ง ยังมีชีวิตอยู่
หลายพื้นที่ระดับน้ำเริ่มลดลง อย่างในกรุงฮานอย ประชาชนทำความสะอาดบ้านเรือน เช่นเดียวกับอีกหลายเมืองใน จ.ท้ายเงวียน ที่ขณะนี้ร้านรับซ่อมเครื่องใช้ไฟฟ้าและจักรยานยนต์งานล้นมือ
ด้านนายกรัฐมนตรีเวียดนาม เรียกร้องให้หน่วยงานต่างๆ ส่งของบรรเทาทุกข์ให้กับครัวเรือนที่ได้รับผลกระทบ พร้อมทั้งเรียกร้องให้ตรวจตราราคาอาหาร น้ำมันและสิ่งของจำเป็นอื่นๆ เช่น ยาและของใช้ในชีวิตประจำวันอย่างใกล้ชิด เพื่อป้องกันการกักตุนสินค้า ซึ่งอาจส่งผลให้สินค้าขาดตลาดและมีราคาสูงขึ้น
"ลาว" เตือนประชาชนรับมือฝนตกหนัก-น้ำท่วม
ขณะที่กรมอุตุนิยมวิทยาและอุทกวิทยาของลาว ประกาศเตือนภัยน้ำท่วมในพื้นที่ตอนเหนือและตอนกลาง เนื่องจากหย่อมความกดอากาศต่ำกำลังเคลื่อนตัวผ่านทางตอนเหนือของประเทศ ก่อนเคลื่อนตัวต่อเข้าสู่ภาคกลาง ซึ่งคาดว่าจะทำให้ฝนตกระดับปานกลางจนถึงหนักทั่วประเทศ
คาดว่าฝนจะตกต่อเนื่องไปอีก 2 วันในวันที่ 16-17 ก.ย.นี้ ซึ่งอาจส่งผลให้ระดับน้ำในแม่น้ำสายหลัก โดยเฉพาะแม่น้ำโขงเพิ่มสูงขึ้น และอาจเกิดน้ำท่วมต่อเนื่องในหลายพื้นที่ นอกจากนี้ยังแนะนำให้หน่วยงานท้องถิ่นเตรียมพร้อมรับมือสถานการณ์ฉุกเฉิน พร้อมทั้งร้องขอให้ประชาชนเฝ้าติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิดเพื่อความปลอดภัย
อ่านข่าว
ของเสียหาย-ยังเข้าอยู่บ้านไม่ได้ ชาวเชียงรายเร่งทำความสะอาด
เวียดนามเร่งฟื้นฟูหลัง "ยางิ" คร่า 220 ชีวิต เมียนมา-จีนเผชิญน้ำท่วม