- "พายุยางิ" อ่อนกำลังลง แต่เหนือ-อีสานเสี่ยงฝนตกอีก 1-2 วัน
- "แพทองธาร" ขนชุดโต๊ะทำงานมาเอง ปรับฮวงจุ้ยตั้งทิศใหม่
ต้นโพธิ์ขนาดใหญ่อายุกว่าร้อยปี บนทางหลวงหมายเลข 11 ใกล้กับแยกรินคำ อ.เมืองเชียงใหม่ ถูกนำมาพูดถึงอีกครั้ง หลังแขวงทางหลวงเชียงใหม่ที่2 นำคำสั่งศาลปกครองเชียงใหม่ มาติดตั้งไว้
โดยมีคำพิพากษาให้กรมทางหลวง ขุดล้อมต้นโพธิ์ต้นนี้ออกไปจากถนน นำไปไว้ในสถานที่ที่เหมาะสม และปรับสภาพพื้นผิวถนนให้มีสภาพพื้นผิว เช่นเดียวกับทางหลวง ตามรูปแบบเดิม โดยให้ดำเนินการภายใน 90 วัน นับตั้งแต่วันที่ 2 ก.ค.2567 ซึ่งเป็นวันที่คดีถึงที่สุด
ต้นโพธิ์ต้นนี้กลายเป็นข้อพิพาท ตั้งแต่ปี 2561 ชาวบ้านบางส่วนที่อาศัยอยู่ในย่านดังกล่าว เรียกร้องให้ขุดย้ายต้นโพธิ์ออกไปจากถนน โดยให้เหตุผลว่า ได้รับผลกระทบต่อการใช้ชีวิต เนื่องจากทำให้ถนนคับแคบกว่าปกติ เสี่ยงเกิดอุบัติเหตุ และจุดดังกล่าวยังกลายเป็นแหล่งทิ้งขยะและแหล่งมั่วสุมยามค่ำคืน อีกทั้งต้นไม้ขนาดใหญ่ต้นนี้ ยังเสี่ยงต่อการหักโค่นลงมาทับผู้ใช้รถใช้ถนน
โดยในขณะนั้น มีกลุ่มนักวิชาการอิสระ ในนามคณะกรรมการประสานงานอนุรักษ์แม่ปิงและสิ่งแวดล้อมหรือ คปอส. และโครงการสนับสนุนนโยบายถนนปลอดภัยและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ได้ออกมาชุมนุมคัดค้าน
พร้อมร้องเรียนไปยังคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ และแขวงทางหลวงเชียงใหม่ที่ 2 เรียกร้องห้ามทำลาย และขุดย้ายต้นโพธิ์ออกจากพื้นที่โดยเด็ดขาด โดยให้เหตุผลว่า เป็นต้นไม้ที่ควรค่าแก่การอนุรักษ์
ทำให้แขวงทางหลวงเชียงใหม่ที่ 2 ตั้งคณะทำงาน เพื่อหาทางออกร่วมกันระหว่างจังหวัดเชียงใหม่ กรมทางหลวง และ กลุ่มผู้คัดค้าน แต่ก็ไม่สามารถหาข้อยุติได้ ทำให้แขวงทางหลวงเชียงใหม่ที่ 2 ไม่สามารถขุดล้อมย้ายต้นโพธิ์ออกจากพื้นที่ได้ จึงต้องพิจารณาตัดงานผิวจราจรในพื้นที่ลานต้นโพธิ์ออกไปก่อน เพราะไม่สามารถก่อสร้างได้
โดยยกเว้นพื้นที่พิพาทบริเวณนี้ ที่จะต้องก่อสร้างผิวจราจรทั้งสองช่องจราจรออกไปก่อน ซึ่งจะมีพื้นที่ที่เว้นว่างไว้ คิดเป็นพื้นที่ 130 ตารางเมตร และให้ใช้ไหล่ทางเพื่อการเดินรถชั่วคราวเพื่อรอเจรจายุติหาทางแก้ปัญหา
ชาวบ้านที่อาศัยอยู่บริเวณใกล้กับต้นโพธิ์ และผู้ใช้เส้นทางบอกว่า ต้นโพธิ์ที่อยู่บนถนนนอกจากทำให้เส้นทางจราจรแคบลง ยังส่งผลให้การค้าขายในย่านนี้ไม่สามารถดำเนินต่อไปได้เหมือนปกติ ก่อนที่จะมีการขยายเส้นทาง ทำให้ประสบปัญหาขาดทุน บางคนต้องปิดร้านไป และบางคนต้องประกาศขายอาคารพาณิชย์บริเวณดังกล่าว
ขณะที่ นายวสันต์ จอมภักดี ผู้ทรงคุณวุฒิด้านสิ่งแวดล้อมและพัฒนาชุมชนท้องถิ่นจังหวัดเชียงใหม่ นำภาพถ่ายบริเวณทางหลวงหมายเลข 11 ใกล้กับแยกรินคำ อ.เมืองเชียงใหม่ ที่ถ่ายโดย นายบุญเสริม ศาสตราภัย เมื่อปี 2512 ที่มีภาพต้นโพธิ์ อยู่ใกล้กับถนน ซึ่งขณะนั้นบริเวณดังกล่าว ยังไม่มีบ้านเรือนประชาชนและอาคารพานิชย์อยู่
โดยระบุว่า ภาพดังกล่าวเป็นหลักฐาน ในการคัดด้านการดำเนินการรื้อถอนต้นโพธิ์ดังกล่าว เนื่องจากเป็นต้นโพธิ์เก่าแก่ที่สืบต่อมา ซึ่งเปรียบเสมือนสัญลักษณ์ของพระพุทธเจ้า ที่คนสมัยก่อนเชื่อว่า ต้นโพธิ์เป็นต้นไม้นำทางไปสู่พระพุทธศาสนา และถือเป็นต้นไม้หมายเมืองที่จะต้องอนุรักษ์ไว้ จึงได้ยื่นคำร้องต่อศาลขอให้พิจารณาคดีใหม่
ต้นโพธิ์บนทางหลวงหมายเลข 11 กลายเป็นข้อพิพาท โดยชาวบ้านบางส่วนที่อาศัยอยู่ในย่านดังกล่าวต้องการให้ขุดย้ายต้นโพธิ์ออกไปจากถนน โดยให้เหตุผลว่า ได้รับผลกระทบต่อการใช้ชีวิต เนื่องจากทำให้ถนนคับแคบกว่าปกติ เสี่ยงเกิดอุบัติเหตุและจุดดังกล่าวยังกลายเป็นแหล่งทิ้งขยะและแหล่งมั่วสุมยามค่ำคืน อีกทั้งต้นไม้มีขนาดใหญ่ เสี่ยงต่อการหักโค่นลงมาทับผู้ใช้รถที่ผ่านไปมา และมีกลุ่มคัดค้านการขุดย้าย โดยให้เหตุผลด้านการอนุรักษ์
จนกระทั่งศาลปกครองเชียงใหม่ มีคำพิพากษาให้กรมทางหลวง ขุดล้อมต้นโพธิ์ออกจากถนน นำไปไว้ในสถานที่ที่เหมาะสม และปรับสภาพพื้นผิวถนน ให้มีสภาพพื้นผิวเช่นเดียวกับทางหลวงตามรูปแบบเดิม โดยให้ดำเนินการภายใน 90 วัน นับตั้งแต่วันที่ 2 ก.ค.2567
ล่าสุดแขวงทางหลวงเชียงใหม่ที่ 2 ยังอยู่ระหว่างเตรียมแผนดำเนินการขุดย้ายต้นไม้ไปปลูกในพื้นที่เหมาะสม ในกรอบระยะเวลาที่ศาลได้กำหนดไว้ ขณะที่กลุ่มต่อต้านการย้ายได้ยื่นคำร้องขอให้ศาลพิจารณาคดีใหม่
รายงาน : สมคราญ เครือบุญ ผู้สื่อข่าวไทยพีบีเอส ศูนย์ข่าวภาคเหนือ
อ่านข่าว : ยิงปะทะกลุ่มขบวนการขนยาเสพติดตาย 6 คน ยึดยาบ้า 1.3 ล้านเม็ด