วันนี้ (6 ก.ย.2567) น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี และคณะรัฐมนตรี (ครม.) เดินทางกลับเข้าทำเนียบรัฐบาล ภายหลังเข้าเฝ้าฯ ถวายสัตย์ปฏิญาณ โดยได้เข้าไปตึกสันติไมตรี หลังนอก พร้อมถ่ายรูปเซลฟี่กับรัฐมนตรีอย่างอารมณ์ดีจากนั้นออกจากตึกสันติไมตรีเพื่อเดินทางกลับ
ทั้งนี้นายกฯ ยังได้ทักทายสื่อมวลชนที่มารอว่า “ทำไมยังไม่กลับกันอีก ทานข้าวกันหรือยัง ไปทานข้าวกัน พรุ่งนี้ยังมีอีก” ก่อนขึ้นรถเดินทางออกจากทำเนียบรัฐบาล
"ภูมิธรรม" ซาบซึ้งในหลวงพระราชทานกำลังใจ ครม.
นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม ให้สัมภาษณ์ภายหลังเข้าถวายสัตย์ปฏิญาณว่า พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ได้ทรงให้พร เป็นสิริมงคล เป็นพระมหากรุณาธิคุณเป็นอย่างมาก ให้กำลังใจคณะรัฐมนตรีทำงานอย่างเต็มที่ ตนซาบซึ้งในสิ่งที่พระองค์ท่านได้ตรัส
ผู้สื่อข่าวถามว่า จะเข้ากระทรวงกลาโหมเมื่อไหร่ นายภูมิธรรม กล่าวว่า หากไม่ก่อนวันแถลงนโยบายรัฐบาลต่อรัฐสภาก็หลังจากนั้น
อ่านข่าว : นายกฯ เข้าทำเนียบครั้งแรก นำ รมต.ถวายสัตย์ - ครม.ใหม่คึก
"อนุทิน" ยังไม่แบ่งงาน รมช.
นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.มหาดไทย ได้เดินทางออกมาจากตึกสันติไมตรี พร้อม น.ส.ซาบีดา ไทยเศรษฐ์ รมช.มหาดไทย หลังเข้าเฝ้าถวายสัตย์ปฏิญาณฯ ซึ่งผู้สื่อข่าวสอบถามว่าได้มีการแบ่งงานให้ น.ส.ซาบีดา หรือยัง นายอนุทิน กล่าวว่า “ตอนนี้ให้กินยาแก้ โควิด-19 ก่อน”
ขณะที่ น.ส.ซาบีดา ได้ตอบกลับมาทันทีว่า “ตอนนี้หายแล้วค่ะตรวจไม่ขึ้นแล้ว ที่เจอเป็นเพียงแค่ซากเชื้อ
นายอนุทิน ยังกล่าวถึงการแบ่งงานรัฐมนตรีใหม่ว่า ขอรอแถลงนโยบายรัฐบาลให้เรียบร้อยก่อน ในวันที่ 12-13 ก.ย.นี้ เมื่อแถลงนโยบายเสร็จรัฐมนตรีก็จะได้ทำงานเต็มรูปแบบ การแบ่งงานก็จะเริ่มขึ้นทันทีหลังจากนั้น
ส่วนที่มีรัฐมนตรีช่วยผู้หญิงมาอยู่ในกระทรวงถึงสองคนนั้นจะทำให้การทำงานสดใสขึ้นหรือไม่ นายอนุทิน ระบุว่า น่าจะมีความซอฟต์ๆ เหมือนนโยบายซอฟต์พาวเวอร์ของนายกรัฐมนตรี
“กระทรวงมหาดไทยเป็นกระทรวงที่มีความเกี่ยวข้อง กับวิถีชีวิตของประชาชน เราได้สุภาพสตรีมากำกับดูแลในฐานะรัฐมนตรีช่วยถึงสองท่าน คงจะใช้การขับเคลื่อนที่เต็มไปด้วยพลัง ที่มีความซอฟต์ละมุน”
"สมศักดิ์" รมต.สมัย 17 เตรียมดันโรค NCDs นโยบายธงใหญ่ของรัฐบาล
นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รมว.สาธารณสุข กล่าวถึงนโยบายที่จะขับเคลื่อนหลังจากนี้ในส่วนของกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) ว่า NCDs หรือกลุ่มโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง อาทิ โรคหัวใจ โรคหลอดเลือดสมอง โรคเบาหวาน โรคความดันโลหิตสูง โรคอ้วนเป็นต้น ซึ่งที่ผ่านมากลุ่มโรคเหล่านี้ต้องเสียค่าใช้จ่ายในการรักษามากมายมหาศาล เราจึงต้องทำเรื่องนี้ และจะผลักดันให้เป็นธงใหญ่ของ สธ. โดยแนวทางดำเนินการนั้นเราจะให้ความรู้กับคนทั่วประเทศ เพื่อป้องกันโรคเหล่านี้ อาทิ การกิน การประพฤติตัว การออกกำลังกาย โดยจะใช้ อสม.เป็นแกนหลักในการดำเนินการ
ส่วนการเป็นรัฐมนตรีครั้งนี้ ถือเป็นสมัยที่ 17 แล้วส่วนการแบ่งงานรัฐมนตรีช่วยว่าการนั้น นายสมศักดิ์ กล่าวว่า เดี๋ยวค่อยคุยกัน
"พิชัย" เผยนั่งเก้าอี้พาณิชย์เตรียมภารกิจเร่งด่วนแก้ราคาสินค้าแพง
นายพิชัย นริพทะพันธุ์ รมว.พาณิชย์ กล่าวภายหลังจากเข้าเฝ้าถวายสัตย์ปฏิญาณฯ ว่าในการทำงานของกระทรวงพาณิชย์จะเร่งรัดการทำงานในหลายเรื่องที่เป็นปัญหากระทบกับประชาชน เรื่องแรกคือการแก้ปัญหาสินค้าราคาแพงโดยต้องไปดูในเรื่องของต้นทุนสินค้าว่า สินค้านั้นมีต้นทุนสินค้าที่เหมาะสมหรือไม่ ถ้าไม่เหมาะสมต้องเรียกผู้ประกอบการมาคุยกันว่าจะลดราคาสินค้าลงอย่างไรเพื่อให้ประชาชนไม่เดือดร้อน
เรื่องต่อมาคือเรื่องของสินค้าจีน ซึ่งทะลักเข้ามาในประเทศไทยมากก็ต้องดูว่าเรื่องนี้จะแก้ปัญหาอย่างไร โดยตอนนี้มีหลายมาตรการที่ออกมาแล้ว ก็ต้องมาดูว่ามาตรการที่ออกมาแล้วสามารถแก้ไขได้หรือไม่ ถ้าไม่ได้ก็ต้องออกมาตรการเพิ่มและจะออกมาตรการอย่างไร
นอกจากนั้นในเรื่องต่างประเทศต้องเร่งเรื่องของการเจรจาความตกลงเขตเสรีการค้ากับต่างประเทศ (FTA) ซึ่งถ้าประเทศไทยมีข้อตกลง FTA มากขึ้นเท่าไหร่ ก็จะทำให้เรามีการลงทุนเข้ามาในประเทศไทยมากขึ้น
ทั้งนี้ในการลงทุนของต่างประเทศที่เป็นโอกาสของไทยก็ต้องมีการเร่งรัดให้มีการค้าและการลงทุนมากขึ้น โดยเฉพาะธุรกิจแผงวงจรอิเล็กทรอนิกส์หรือ “PCB” (Print Circuit Board) ซึ่งเป็นส่วนประกอบพื้นฐานที่สำคัญของวงจรอิเล็กทรอนิกส์ซึ่งถือว่าเป็นธุรกิจที่มีการลงทุนอย่างมากและจะเป็นการเติบโตที่เป็นนิวเอสเคิร์ฟใหม่ของประเทศไทย โดยปีที่ผ่านมามีการลงทุนกว่า 1.5 แสนล้านบาท และหากมีการส่งเสริมที่ดีจะมีการลงทุนเพิ่มขึ้นเป็นล้านล้านบาทได้เลยเนื่องจากมีธุรกิจที่เกี่ยวข้องเป็นคลัสเตอร์ที่จะมีการลงทุนเข้ามาต่อเนื่อง ซึ่งการลงทุนใหม่ๆนี้จะช่วยเปลี่ยนโครงสร้างการส่งออกของประเทศไทยได้ในอนาคต
“สินค้าเหล่านี้จะช่วยเพิ่มการส่งออกที่เป็นสินค้าใหม่ๆที่มีมูลค่าสูง การจ้างงานก็จะดีขึ้นและค่าแรงของคนไทยก็จะดีขึ้น เพราะอุตสาหกรรมเหล่านี้จ้างงานได้กว่า 40,000 บาทต่อเดือน หรือถ้าเป็นวิศวกรในสาขานี้ก็สามารถที่จะมีเงินเดือนเป็นแสนๆบาทได้เลย” นายพิชัย กล่าว
"สรวงศ์" พร้อมออก "มาตรการกระตุ้นท่องเที่ยว" ปลายปี
นายสรวงศ์ เทียนทอง รมว.การท่องเที่ยวและกีฬา รับพร้อมมอบนโยบาย ออกมาตรการกระตุ้นการท่องเที่ยว ปลายปี 2567 รับช่วงไฮซีซัน ส่วนกีฬา ขอโฟกัสการเตรียมความพร้อมไทยเป็นเจ้าภาพซีเกมส์ 2025
นายสรวงศ์ เทียนทอง รมว.การท่องเที่ยวและกีฬา กล่าวว่า คาดว่าในวันที่ 9 ก.ย.จะเดินทางเข้ากระทรวงการท่องเที่ยวฯ และน่าจะหารือกับผู้บริหารของกระทรวง จากนั้นจึงมีการมอบนโยบายการทำงานอย่างเป็นทางการต่อไป
ทั้งนี้มองว่า สิ่งสำคัญที่สุดคือการออกมาตรการกระตุ้นการท่องเที่ยวในช่วงปลายปี 2567 โดยจะขอหารือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อพิจารณารายละเอียดอีกครั้งว่า จะต้องมีเรื่องอะไรที่ต้องผลักดันอีกบ้าง โดยขอเวลาพิจารณาข้อมูลเก่าก่อนว่า มีมาตรการอะไรที่ทำแล้วจะสามารถกระตุ้นการท่องเที่ยวได้มากขึ้น
“นักท่องเที่ยวต่างชาติที่เข้ามาช่วงเวลานี้ก็ใกล้เข้าสู่ช่วง High Season หรือฤดูกาลท่องเที่ยวแล้ว ก็ต้องเร่งทำเพื่อรองรับช่วงนี้ให้ดีที่สุด เช่นเดียวกับการกระตุ้นไทยเที่ยวไทยด้วย”
อย่างไรก็ตามงานเร่งด่วนของกระทรวงการท่องเที่ยวฯ จะต้องเน้นดูเรื่องการเปิดตลาดการท่องเที่ยวใหม่ ๆ เพื่อดึงดูดรายได้เข้าประเทศ โดยเฉพาะการสานต่อนโยบายของรัฐบาลเดิมที่ได้มีการเปิดตลาดเอาไว้เบื้องต้นแล้วหลายประเทศ พร้อมกันนี้ยังต้องเพิ่มศักยภาพของการท่องเที่ยวในประเทศ หรือกระตุ้นไทยเที่ยวไทยมากขึ้นกว่าเดิม เพราะหากทำได้จะช่วยกระจายรายได้ไปยังชุมชน และประชาชนในหลาย ๆ พื้นที่
ส่วนการกำกับดูแลงานด้านกีฬาของรัฐบาลนั้น ในระยะสั้นจะให้ความสำคัญกับการแข่งขันกีฬาซีเกมส์ 2025 ซึ่งประเทศไทยเป็นเจ้าภาพในปี 2568 โดยรัฐบาลจะให้ความสำคัญกับการเข้าไปขับเคลื่อนการเตรียมตัวรองรับการเป็นเจ้าภาพการแข่งขันกีฬาซีเกมส์ของไทย
อ่านข่าว :
นโยบายเพื่อไทย จาก "เศรษฐา" ถึง "แพทองธาร"
"ทรงศักดิ์-ซาบีดา" ติดโควิด "อนุทิน" แจงนายกฯ ยังไม่แบ่งงานรองนายกฯ