กลืนเลือดหรือไม่ ไม่มีใครให้คำตอบได้ แต่ที่แน่ ๆ วันนี้ "ลุงป้อม" พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ พร้อมรบ นัดกินข้าวพร้อมเพรียง "ลุงป๊อด" พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ ประธานที่ปรึกษา พปชร. , สันติ พร้อมพัฒน์ รมช.สาธารณสุข และ รองหัวหน้าพรรค, ชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รองหัวหน้าพรรค, ไพบูลย์ นิติตะวัน รองหัวหน้าพรรค, และรองประธานคณะกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญ ตรีนุช เทียนทอง รองหัวหน้าพรรค
พล.อ.กฤษณ์โยธิน ศศิพัฒนวงษ์ เหรัญญิกพรรค และนายทะเบียนพรรค นายวราเทพ รัตนากร ผอ.พรรค ในฐานะกรรมาธิการวิสามัญ นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ ประธานกรรมการด้านการขับเคลื่อนยุทธศาสตร์ พล.ต.ท.ปิยะ ต๊ะวิชัย โฆษกพรรค ทุกคนที่มาบอก พร้อมทำงานเคียงข้าง "ลุงป้อม" พล.อ.ประวิตร โดยมีการต้อนรับและพูดคุยกับทุกคนอย่างเป็นกันเอง
รายงานข่าวแจ้งว่า "ลุงป้อม" พล.อ.ประวิตร มีสีหน้ายิ้มแย้มแจ่มใสตลอดเวลา และฝากการทำงานให้กับ สส.ลงพื้นที่อย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะสถานการณ์ภัยน้ำท่วมในภาคเหนือที่ต้องติดตาม
และแน่นอนแล้วว่า สส.เพื่อไทยส่วนใหญ่ มีมติไม่เอา "วงษ์สุวรรณ" และ พปชร. ร่วมรัฐบาล แต่เอา ประชาธิปัตย์ โดยโยนให้ กรรมการบริหารพรรคเพื่อไทย เป็นผู้เคาะ ถือเป็นปิดฉากการเมืองของตระกูล "วงษ์สุวรรณ" ไปโดยปริยาย
เป็นการตอกย้ำความจริง หลังก่อนหน้านี้ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส หัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย ออกมายืนยันว่า "ทักษิณ พูดกับผมว่า ต้องไม่มีวงษ์สุวรรณกับผม" ... ล่าสุด พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ ได้ประกาศถอนตัวจากเป็นพรรคร่วมรัฐบาลแล้ว ทั้ง ๆ ที่มี สส.เพียงหนึ่งคนเท่านั้น
ฉากการเมืองของพรรคพลังประชารัฐ ในฝั่งของ "ลุงป้อม" พล.อ.ประวิตร ที่จะถูกปิดสวิตช์ลงและถูกลบภาพออกจากพรรคการเมืองร่วมรัฐบาล ยังน่าติดตามไม่น้อย นับจากนี้จะต้องจับตาดูว่า จะมีลีลาหรือไม้เด็ดอะไรในมือ เพื่อใช้เด็ดปีก ขั้วตรงข้าม อีกหรือไม่ หรืออาจจะกลับคืนสู่บ้านป่าแบบหงอย ๆ
ต่างจาก "ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า" เลขาธิการพรรคฯ แม้จะไม่ได้ส่งชื่อตนเองให้กับพรรคเพื่อไทย แต่ส่งชื่อ "คนนอก" อัครา พรหมเผ่า น้องชาย เพื่อแก้เกมหลีกเลี่ยงกฎหมายพรรคการเมือง จะเป็นอย่างไรในอนาคต เพราะเส้นทางข้างหน้าก็ใช่ว่าจะง่าย แม้ แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี จะออกมาคอนเฟิร์มว่า เห็นรายชื่อในซีกนี้แล้วก็ตาม
ช็อก! กลางวันแสก ๆ เมื่อ กกต.มีมติเอกฉันท์ให้ใบเหลือง ลุงชาญ หรือ "ชาญ พวงเพ็ชร์" โดยสั่งให้มีการเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดปทุมธานี หรือ นายก อบจ. ปทุมธานี ใหม่ตามมาตรา 106 วรรคสี่ พ.ร.บ.การเลือกตั้งสมาชิกสภาท้องถิ่นหรือผู้บริหารท้องถิ่น 2562 หลังพิจารณาเรื่องการประกาศรับรองผล และพยานหลักฐานของสำนวนเรื่องร้องเรียนตามมาตรา 65 (3) แล้วเห็นว่า กรณีกล่าวหาว่านายชาญ ผู้ได้รับเลือกตั้ง จัดเลี้ยงและมหรสพเพื่อจูงใจให้ผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งลงคะแนนให้ตัวเองนั้น เป็นเหตุอันควรเชื่อได้ว่า
การเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดปทุมธานีเมื่อวันที่ 30 มิ.ย2567 มิได้เป็นไปโดยสุจริตหรือเที่ยงธรรม
โดยมติสั่งเลือกตั้งใหม่ของ กกต. ดังกล่าวเป็นการให้ใบเหลือง ดังนั้นการแข่งขันก็จะเป็นการใช้ผู้สมัครชุดเดิมโดยนายชาญ ซึ่งได้รับเลือกมาด้วยคะแนนสูงสุดในการเลือกตั้งคราวก่อน ยังคงสามารถลงแข่งขันได้ ส่วนวันเลือกตั้งผู้อำนวยการการเลือกตั้งประจำองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น โดยความเห็นชอบของผู้อำนวยการการเลือกตั้งประจำจังหวัดจะเป็นผู้ประกาศต่อไป
ขณะที่ "บิ๊กแจ๊ส" พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง อดีตผู้สมัครนายก อบจ.ปทุมธานี การเลือกตั้งครั้งล่าสุด ยืนยันว่าหาก กกต. มีมติให้มีการเลือกตั้ง อบจ.ปทุมธานี ใหม่ ก็พร้อมที่จะลงสู้ศึกเลือกตั้งอีกครั้งแน่นอน โดยอ้างอิงตามกฎหมายว่าผู้สมัครชุดเดิมสามารถลงสมัครรับเลือกตั้งได้ โดยการเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดปทุมธานีเมื่อวันที่ 30 มิ.ย.2567 พบว่า มีผู้มีสิทธิ์เลือกตั้ง 949,421 คน มาแสดงตนขอรับบัตรเลือกตั้ง 472,536 คน
ผลการเลือกตั้ง ผู้สมัครหมายเลข 1 ลุงชาญ ได้ 203,032 คะแนน ส่วน "บิ๊กแจ็ส" พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ได้ไป 201,212 คะแนน โดยคะแนนผู้ชนะการเลือกตั้งอันดับหนึ่ง 1,820 คะแนน
ค่ายพระแม่ธรณีบีบมวยผม ยังแทงกั๊กจะอยู่หรือไป แต่ข้อเท็จจริงคือ ไปแล้ว สำหรับกลุ่มของนายกฯ ชาย "เดชอิศม์ ขาวทอง" เลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ และ "เฉลิมชัย ศรีอ่อน" หัวหน้าพรรคค่ายสีฟ้า ที่คาดว่า ได้รับเทียบเชิญจากพรรคเพื่อไทยแล้ว
เบื้องต้นและมีรายชื่อนั่งเก้าอี้รัฐมนตรีช่วย 1 ตำแหน่ง คาดว่าตำแหน่ง รมว.ทส. จะเป็นของ "เฉลิมชัย" ส่วนช่วยว่าการสาธารณสุขอีก 1 ตำแหน่ง จะเป็นของ "เดชอิศม์" อย่างไรก็ตาม ก่อนหน้านี้ "นิวัติไชย เกษมมงคล" เลขาธิการสำนักงานป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ออกมา ยอมรับว่ากรณีของ "เดชอิศม์" มีเรื่องถูกร้องเรียนอยู่ใน ป.ป.ช. จริง และอยู่ระหว่างการตรวจสอบ ยังไม่ได้มีมติชี้มูลความผิดแต่อย่างใด
ไม่มีวัฒนธรรมขับสมาชิกที่เห็นต่าง "อลงกรณ์ พลบุตร" รองประธานคณะกรรมการยุทธศาสตร์ พรรค ปชป. ออกมาปัดข่าวลือเป็นพัลวัน หลังมีกระแสข่าวระบุว่า "ชวน หลีกภัย" อาจจะถูกขับออกจากพรรคประชาธิปัตย์ หากไม่ร่วมรัฐบาลเพื่อไทย ว่า เป็นเฟกนิวส์ไม่มีมูลความจริง และไม่มีวัฒนธรรมขับสมาชิกที่เห็นต่าง เพราะอยู่กับพรรคประชาธิปัตย์มากว่า 30 ปี ยังไม่เคยเห็นพรรคขับสมาชิกกรณีมีความคิดเห็นทางการเมืองไม่ตรงกัน
"ท่านชวน เป็นถึงอดีตหัวหน้าพรรคและเป็นสมาชิกอาวุโสคนหนึ่งของพรรคเช่นเดียวกับ นายบัญญัติ บรรทัดฐาน นายเอนก ทับสุวรรณ นายเทอดพงษ์ ไชยนันทน์ นายไพฑูรย์ แก้วทอง นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฐ์ ฯลฯ ทุกคนยังทำงานให้พรรค และสมาชิกทุกคนให้ความความเคารพตลอดมา อาจมีความคิดต่างกันบ้างในบางเรื่องบางนโยบาย รวมทั้งมติการร่วมรัฐบาลหรือไม่ร่วมก็เคยมีมาหลายครั้งถือเป็นเรื่องปกติ แต่เมื่อพรรคมีมติอย่างใดทุกคนก็เคารพและไม่เคยมีการลงโทษหรือขับไล่สมาชิกที่เห็นต่างจากพรรค" รองประธานคณะกรรมการยุทธศาสตร์ พรรคปชป.ระบุ
การเมืองยังเข้มข้น แม้จะยังไม่มีครม.ถาวร แต่แรงกระเพื่อมที่เกิดขึ้น มองข้ามไม่ได้แม้แต่น้อย
อ่านข่าวเพิ่ม :
ไม่เอา "พลังประชารัฐ" พท. เดินหน้าเทียบเชิญกลุ่มผู้กอง-ปชป.
เคาะเพิ่มเงินอุดหนุนบุตร อายุ 0-6 ปี จาก 800 บาท เป็น 1,000 บาท
ออเดอร์เรือพลาสติกพุ่ง ห่วงน้ำท่วมใหญ่ลุ่มเจ้าพระยา