วันนี้ (26 ส.ค.2567) นายไชยวัฒน์ จุนถิระพงศ์ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) กล่าวว่า กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) ได้รับแจ้งจากกรมชลประทานว่า ในช่วงวันที่ 24-30 ส.ค.นี้ ประเทศไทยยังคงมีฝนตกต่อเนื่อง และมีฝนตกหนักบางพื้นที่ บริเวณภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน ภาคกลาง และภาคใต้
จากการคาดการณ์ปริมาณน้ำล่วงหน้า 1-3 วันข้างหน้า พบว่าปริมาณน้ำมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น โดยวันที่ 26 ส.ค.นี้ สถานี C.2 อ.เมืองนครสวรรค์ จ.นครสวรรค์ มีปริมาณน้ำไหลผ่าน 1,000 ลบม.ต่อวินาที และคาดการณ์ปริมาณน้ำจากลำน้ำสาขาอีด 200 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ทำให้ปริมาณน้ำที่เหนือเขื่อนเจ้าพระยามีปริมาณ 1,200 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที
นอกจากนี้จะรับน้ำเข้าระบบกรมชลประทานทั้ง 2 ฝั่ง ในอัตรา 300 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที จึงมีความจำเป็นต้องระบายน้ำผ่านท้ายเขื่อนเจ้าพระยา ในอัตราระหว่าง 700-900 ลบ.ม.ต่อวินาที

ระดับน้ำยมที่เพิ่มสูงขึ้นหลังจากมวลน้ำจากจ.แพร่ ไหลมาถึงในเขตเมือง
ระดับน้ำยมที่เพิ่มสูงขึ้นหลังจากมวลน้ำจากจ.แพร่ ไหลมาถึงในเขตเมือง
อ่านข่าว "เขื่อนเจ้าพระยา" ปรับเพิ่มการระบายน้ำ วันนี้ 25 ส.ค.
ทำให้พื้นที่ลุ่มต่ำนอกคันกั้นน้ำบริเวณคลองโผงเผง จ.อ่างทอง คลองบางบาล จ.พระนครศรีอยุธยา และต.หัวเวียง อ.เสนา ต.ลาดชิด ต.ท่าดินแดง อ.ผักไห่ จ.พระนครศรีอยุธยา (แม่น้ำน้อย) มีระดับน้ำเพิ่มสูงขึ้นอีก 40-80 เมตร ตั้งแต่วันที่ 26 ส.ค.นี้ โดยไม่ส่งผลกระทบต่อพื้นที่ชุมชน
นายไชยวัฒน์ กล่าวว่า ขณะนี้ได้ประสาน 10 จังหวัดภาคกลาง ได้แก่ อุทัยธานี ชัยนาท สิงห์บุรี อ่างทอง สุพรรณบุรี พระนครศรีอยุธยา ลพบุรี ปทุมธานี นนทบุรี และสมุทรปราการ รวมถึงกทม. เฝ้าระวังติดตามสถานการณ์น้ำอย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะพื้นที่ลุ่มต่ำนอกคันกั้นน้ำ

พร้อมประชาสัมพันธ์แจ้งเตือนหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ภาคเอกชนที่ประกอบกิจการในแม่น้ำ เช่น งานก่อสร้างเขื่อนป้องกันตลิ่ง แพร้านอาหาร และประชาชนที่อาศัยอยู่ริมสองฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยา จุดเสี่ยงที่ลุ่มต่ำริมแม่น้ำให้เฝ้าระวังระดับน้ำที่เพิ่มสูงขึ้น และเตรียมพร้อมรับมือสถานการณ์น้ำ ตรียมพร้อมในการขนย้ายสิ่งของขึ้นที่สูงให้พ้นจากแนวน้ำท่วม
นอกจากนี้ ยังได้ประสานองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในพื้นที่ ตรวจสอบแนวคันกั้นน้ำ และแนวป้องกันน้ำท่วมให้มีความแข็งแรง เพื่อป้อง กันระดับน้ำล้นข้ามแนวคันกั้นน้ำ อีกทั้งจัดเตรียมวัสดุอุปกรณ์ เครื่องจักรกลด้านสาธารณภัย เพื่อเตรียมความพร้อมปฏิบัติการให้ความช่วยเหลือประชาชนตลอด 24 ชั่วโมง
อ่านข่าว เตือนทั่วไทยฝนตกหนักบางแห่ง 26-28 ส.ค.นี้
เขื่อนเจ้าพระยาปรับระบายน้ำ 700-900 ลบ.ม.
ขณะที่สถานการณ์น้ำเขื่อนเจ้าพระยา จ.ชัยนาท กุญแจสำคัญในการบริหารจัด การน้ำลุ่มภาคกลาง ขณะนี้มีปริมาณน้ำเหนือที่ไหลลงเขื่อนเจ้าพระยาเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยที่จุดวัดน้ำ C2 หน้าค่ายจิรประวัติ จ.นครสวรรค์ ล่าสุดวัดได้ 1,068 ลบ.ม.ต่อวินาที
ทำให้ระดับน้ำเหนือเขื่อนเจ้าพระยายกมีปริมาณน้ำ 16.19 ม.รทก.(เมตรจากระดับน้ำทะเลปานกลาง) ซึ่งเขื่อนเจ้าพระยาปรับเพิ่มการระบายน้ำจากเดิม 650 ลบ.ม.วินาทีขึ้นไปที่ 700 ลบ.ม.ต่อวินาที ส่งผลระดับน้ำท้ายเขื่อนเพิ่มสูงขึ้นวัดได้ 9.64 ม.รทก.

เกณฑ์การระบายน้ำของเขื่อนเจ้าพระยา เพื่อบริหารจัดการน้ำเข้าสู่แม่น้ำเจ้าะพระยา
เกณฑ์การระบายน้ำของเขื่อนเจ้าพระยา เพื่อบริหารจัดการน้ำเข้าสู่แม่น้ำเจ้าะพระยา
โดยกรมชลประทานได้ออกหนังสือแจ้งเตือนสถานการณ์น้ำฉบับที่ 4 ถึงผู้ว่าราชการจังหวัด 10 จังหวัดลุ่มภาคกลาง โดยระบุว่าช่วงวันที่ 26 ส.ค.นี้ มวลน้ำเหนือปริมาณกว่า1,000 ลบ.ม.ต่อวินาที จะไหลผ่าน จ.นครสวรรค์ เข้าสู่เขื่อนเจ้าพระยา
ทำให้เขื่อนเจ้าพระยามีความจำเป็นต้องปรับเพิ่มการระบายน้ำขึ้นไปอยู่ในเกณฑ์ 700-900 บ.ม.ต่อวินาที ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อพื้นที่ลุ่มนอกคันกั้นน้ำมีระดับน้ำที่สูงขึ้นจากเดิมได้อีก 40-80 ซม.
อ่านข่าว
สภาพอากาศวันนี้ ไทยมีฝนเพิ่ม "เหนือ - ใต้" ฝนตกหนักมากบางพื้นที่