วันนี้ ( 21 ส.ค.2567) กลุ่มงานโกลบอลมาร์เก็ตส์ ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) เผยถึงผลการประชุมคณะกรรมการ นโยบายการเงิน (กนง.) มีมติ 6 ต่อ 1 เสียงให้คงอัตราดอกเบี้ยนโยบายอยู่ที่ 2.50% ต่อปี โดย กนง. ประเมินเศรษฐกิจไทยจะขยายตัวตามที่คาดการณ์ไว้ โดยได้แรงหนุนจากภาคการท่องเที่ยว
ขณะที่การส่งออกกำลังฟื้นตัวอย่างค่อยเป็นค่อยไป แม้การบริโภคภาคเอกชนจะชะลอตัวลง นอกจากนี้ ยังให้ความสำคัญกับการเฝ้าระวังคุณภาพสินเชื่อ สำหรับอัตราเงินเฟ้อทั่วไปอยู่ในระดับต่ำ เช่นเดียวกับอัตราเงินเฟ้อพื้นฐานที่คงอยู่ในระดับต่ำ
ส่วนหนึ่งมาจากปัจจัยเชิงโครงสร้างและการแข่งขันที่เพิ่มขึ้นจากสินค้านำเข้า อย่างไรก็ตาม กนง. คาดว่าอัตราเงินเฟ้อทั่วไปจะกลับเข้ากรอบเป้าหมายที่ 1-3% ภายในสิ้นปีนี้
ทั้งนี้ ค่าเงินบาทอ่อนค่าลงเล็กน้อยมาอยู่ที่ระดับ 34.30 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ หลังการประกาศผลการประชุม ขณะที่ค่าเงินบาทในปี 2567 อ่อนลงเพียง 0.2% โดย กนง. ระบุว่าเงินบาทแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับดอลลาร์ในช่วงหลัง ส่วนอัตราผลตอบแทนพันธบัตรไทยปรับตัวลงตามทิศทางของสหรัฐฯ
สำหรับการประชุม กนง. ในครั้งต่อไปจะเกิดขึ้นวันที่ 16 ต.ค. 2567 แม้ เสียงส่วนใหญ่ของที่ประชุม ในรอบนี้จะเห็นว่าอัตราดอกเบี้ยนโยบายในปัจจุบันมีความเหมาะสมเอื้อต่อการรักษาเสถียรภาพทางการเงิน
กรุงศรีประเมินท่าทีของคณะกรรมการกนง.วันนี้บ่งชี้สัญญาณที่ระมัดระวังมากขึ้นมีการระบุว่า ในอนาคตจำเป็นต้องติดตามความเสี่ยงด้านขาลงของการลงทุนและการบริโภคภาคเอกชน รวมถึงคุณภาพสินเชื่อที่ลดลง ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อกิจกรรมทางเศรษฐกิจ
กรุงศรียังคงเห็นว่า กนง.จะคงอัตราดอกเบี้ยในการประชุมครั้งต่อไป แต่ยอมรับว่ามีปัจจัยเสี่ยงเรื่องความไม่แน่นอนด้านนโยบายของรัฐบาลใหม่เพิ่มเข้ามาเช่นกัน
ด้านเว็บไซต์ "ฮั่วเซ่งเฮง" วิเคราะห์ภาพรวมเคลื่อนไหววันนี้ ว่า ราคาทองคำเคลื่อนไหวในกรอบแคบมาก โดยช่วงเช้าราคาทองคำปรับตัวลงเล็กน้อย หลังจากที่ดีดตัวขึ้นทำ All-Time High ใหม่ จากแรงหนุนดอลลาร์อ่อนค่ามาก ซึ่งดอลลาร์อ่อนค่ามากสุดในปีนี้เมื่อเทียบยูโร
ทั้งนี้ราคาทองคำปรับตัวเพิ่มขึ้น 22% ในปีนี้ จากความตีงเครียดทางภูมิรัฐศาสตร์ ความไม่แน่นอนที่เกิดขึ้นจากการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐ และการคาดการณ์การปรับลดดอกเบี้ย
อย่างไรก็ตาม จากที่ตลาดได้คาดการณ์ไว้แล้วว่าจะมีการปรับลดดอกเบี้ยในระดับหนึ่ง แต่การที่ราคาทองคำพุ่งสูงขึ้นอีกครั้งเป็นการสะท้อนให้เห็นว่าตลาดคาดว่าเฟดจะมีการปรับลดดอกเบี้ยเพิ่มขึ้นอีก
โดยราคาทองคำแท่ง 96.5%แนวรับ : 40,600 และ 40,500 บาท แนวต้าน : 40,850 และ 40,950 บาทเงินบาทกลับมาอ่อนค่าราว ๆ 34.20 บาท หลังจากกนง มีมติ 6:1 คงดอกเบี้ย 2.5% ตามตลาดคาด ซึ่งหนุนราคาทองคำแท่งในประเทศเล็กน้อย
อย่างไรก็ตาม ทิศทางเงินบาทยังแข็งค่า จากความเชื่อมั่นของตลาดเพิ่มขึ้น ทำให้มีเงินทุนไหลเข้ามาจากต่างประเทศมากขึ้น จึงอาจส่งผลกดดันราคาทองคำแท่งในประเทศระยะสั้น ทำให้ความน่าสนใจลดลงได้ สำหรับเข้าซื้อทองคำแท่งให้ Wait & See
อ่านข่าว:
“ทองคำ” ลงต่อ 150 บาท “ทองรูปพรรณ” ขายออก 39,870 บาท