กมธ.เรียก "กรมประมง-11 บริษัท" ส่งออก "ปลาหมอคางดำ" แจง

สิ่งแวดล้อม
8 ส.ค. 67
19:41
1,216
Logo Thai PBS
กมธ.เรียก "กรมประมง-11 บริษัท" ส่งออก "ปลาหมอคางดำ" แจง
อ่านให้ฟัง
00:00อ่านข่าวให้ฟังโดย Botnoi Voice เว็บแอปพลิเคชันสำหรับสร้างเสียงจากข้อความด้วย AI (Text to Speech)
กมธ.เรียก "กรมประมง" -11 บริษัท มีชื่อส่งออก "ปลาหมอคางดำ" มาชี้แจง แต่มีเพียง 5 บริษัทที่มา กมธ.ระบุเป็นข้อมูลคลาดเคลื่อน อ้างชิปปิ้นกรอกชื่อผิด กมธ.เตรียมสรุปส่งนายกฯ - ก.เกษตร เร่งเยียวยาประชาชนที่ได้รับผลกระทบ

วันนี้ (8 ส.ค.2567) ที่รัฐสภา นายฐากร ตัณฑสิทธิ์ ประธานคณะกรรมาธิการการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัย และนวัตกรรม ( กมธ.อว.) สภาผู้แทนราษฎร เป็นประธานการประชุม กมธ.อว.

โดยพิจารณากรณีการส่งออกปลาหมอคางดำ (Blackchin tilapia) ตั้งแต่ปี 2556-2559 เชิญตัวแทนกรมประมง และบริษัทเอกชนที่สำแดงการส่งออกปลาคางดำ 11 แห่ง เข้าชี้แจง

ปรากฏว่า มี 5 บริษัท ประกอบด้วย 1.บริษัท ไทย เฉียน หวู่ จำกัด 2.บริษัท แอดวานซ์ อควาติก จำกัด 3.ห้างหุ้นส่วนจำกัด สมิตรา อแควเรียม 4.บริษัท พี.แอนด์.พี อควาเรียม เวิลด์ เทรดดิ้ง จำกัด และ 5.บริษัท เอเชีย อะควาติคส์ จำกัด ที่เข้าชี้แจง

ขณะที่ ห้างหุ้นส่วนจำกัด วี อควอเรียม ทำหนังสือแจ้ง กมธ.อว.ว่า ไม่สามารถเข้าชี้แจงได้

ส่วนอีก 3 บริษัท ไม่ตอบรับ ประกอบด้วย หจก.ฉาง ซิน เอ็นเตอร์ไพร์, หจก.ซีฟู๊ดส์ อิมปอร์ต - เอ็กซ์ปอร์ต จำกัด และ บริษัท นิว วาไรตี้ จำกัด และ บริษัท หมีขาว จำกัด ปิดกิจการไปแล้วไม่สามารถติดต่อได้

ขณะที่กรมประมง มีนายประพันธ์ ลีปายะคุณ รองอธิบดีกรมประมง เป็นผู้แทน โดยกรมประมง ทำเอกสารชี้แจงว่า เคยมีการตรวจสอบการส่งออกในปี 2560 ใจความว่า สรุปข้อเท็จจริง ประเด็นการส่งออกปลาหมอคางดำ ในช่วงปี 2556-2559 ยังไม่มีพระราชกำหนดการประมง พ.ศ.2558 และที่แก้ไขเพิ่มเติม ใช้อำนาจตามพระราชบัญญัติโรคระบาดสัตว์ พ.ศ.2499

เป็นกฎหมายในการควบคุมการส่งออก ผู้ส่งออกสัตว์น้ำ ต้องมาขออนุญาตก่อนการส่งออกกับด่านตรวจประมง ที่ต้องการส่งออก ใช้เพียงเอกสารใบกำกับสินค้า หรือ Invoice เป็นเอกสารประกอบการส่งออก หรืออาจมีใบรับรองสุขภาพสัตว์น้ำ (Health Certificate ) ประกอบในกรณีที่ประเทศปลายทางร้องขอ ไม่ต้องแสดงแหล่งที่มาของสัตว์น้ำในการส่งออก

กระทั่งปี พ.ศ.2561 กรมประมงได้มีการออกประกาศกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เรื่อง กำหนดชนิดสัตว์น้ำที่ห้ามนำเข้า ส่งออก นำผ่าน หรือ เพาะเลี้ยง พ.ศ.2561 มีผลบังคับใช้ในวันที่ 18 มี.ค.2561

ในช่วงปี พ.ศ.2556-2559 มีข้อมูลการส่งออกปลาหมอคางดำ เป็นการส่งออกในลักษณะปลาสวยงามมีชีวิต จำนวน 326,240 ตัว เฉลี่ยปีละประมาณ 80,000 ตัว ส่งออกไปยัง 17 ประเทศ ได้แก่ ปากีสถาน ตุรกี คูเวต อาเซอร์ใบจาน ออสเตรเสีย รัสเซีย โปแลนด์ อิหร่าน ซิมบับเว แคนาดา อียิปต์ เลบานอน ญี่ปุ่น อิสราเอล สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ มาเลเซีย สหรัฐอเมริกา โดยผู้ส่งออก 11 ราย

นายประพันธ์ รองอธิบดีกรมประมง ชี้แจงว่า จากการตรวจสอบพบว่าการกรอกข้อมูลในระบบมีความผิดพลาดคลาดเคลื่อน ในการกรอกข้อมูลการส่งออก 212 ครั้ง จากการส่งออกปลาสวยงามในช่วงดังกล่าวกว่า 24,000 ครั้ง

เช่น บริษัทต้องการกรอกข้อมูลการส่งออกปลา Sardine แต่กรอกเป็น Sarotherodon Melanotheron หรือ ปลาหมอคางดำ ในเบื้องต้นพบว่าในช่วงดังกล่าว ไม่มีการส่งออกปลาหมอคางดำ เพียงแต่มีการกรอกข้อมูลผิดพลาดเท่านั้น ซึ่งเป็นผลการตรวจสอบเมื่อปี 2560

นายฐากร กล่าวว่า ยังติดใจการชี้แจง การดำเนินการของกรมประมง ในกรณีที่เกษตรกรร้องเรียนการแพร่ระบาดของปลาหมอคางดำ กลับไม่ตรวจสอบความเดือดร้อนของประชาชน แต่กลับไปตรวจสอบการส่งออก แล้วได้ข้อสรุปว่า เป็นการกรอกเอกสารผิด ซึ่งเป็นประเด็นที่ทางกรมประมงยังตอบไม่ชัดเจน ทาง กมธ.อว.คงตั้งข้อสังเกตไว้

วันนี้ผู้แทน 5 บริษัท ยืนยันว่า ไม่เคยส่งออกปลาหมอคางดำ พร้อมนำเอกสารใบกำกับสินค้า และใบสั่งซื้อสินค้ามาแสดง พร้อมชี้แจงในทิศทางเดียวกันว่า มอบหมายให้บริษัทส่งออก หรือชิปปิ้ง ดำเนินการกรอกเอกสารส่งออกกับกรมประมง ไม่ทราบว่าเกิดความผิดพลาด ในการกรอกข้อมูลของชิปปิ้งในจุดใด

ขณะที่บางบริษัทระบุว่า มอบหมายชิปปิ้งดำเนินการการกรอกข้อมูลการส่งออกปลาหมอคางดำ เกินไว้ แต่ไม่มีการส่งออกจริง โดยยืนยันจากใบสั่งซื้อสินค้า

ประธาน กมธ.อว.ระบุว่า ที่ประชุมมีมติมอบหมายให้คณะอนุกรรมธิการพิจารณาศึกษาสาเหตุและแนวทางการแก้ไขปัญหา รวมถึงผลกระทบจากการนำเข้าปลาหมอคางดำ เพื่อการวิจัยและพัฒนาสายพันธุ์ในราชอาณาจักรไทย ที่มี นพ.วาโย อัศวรุ่งเรือง สส.บัญชีรายชื่อ เป็นประธาน ไปจัดทำรายกงานผลการศึกษา เสนอต่อ กมธ.อว.

เพื่อพิจารณาสรุป โดยเฉพาะในประเด็นความเสียหาย ที่เกิดขึ้นกับประชาชน และสิ่งแวดล้อม ซึ่งรัฐบาลประเมินไว้กว่า 450 ล้านบาท ซึ่งกมธ.อว.ได้มีมติไปแล้วเมื่อ 1 ส.ค.ที่ผ่านมา ว่ารัฐบาลสามารถนำเงินทดรองราชการ เพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉินมาใช้ได้ จากนั้น กมธ.อว.จะส่งรายงานให้นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี รวมทั้ง กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เพื่อประโยชน์ในการบริหารจัดการปัญหาปลาหมอคางดำต่อไป ขณะเดียวกันหากหน่วยงานใดต้องการข้อมูลสามารถขอมาที่ กมธ.อว.ได้

อ่านข่าว : ญี่ปุ่นแผ่นดินไหว 7.1 เตือน "คนไทย" ทำตามคำสั่งอย่างเคร่งครัด

ป.ป.ช.รอไต่สวน 44 สส.ก้าวไกล ผิดจริยธรรมแก้ 112 ยันไร้ใบสั่ง

"พิธา" ยันไม่คิดเลิกเล่นการเมือง สอบ 44 สส.ไม่กระทบพรรคใหม่

ข่าวที่เกี่ยวข้อง