วันนี้ (14 ก.ค.2567) ตามเวลาในประเทศไทยหรือตรงกับวันที่ 13 ก.ค.2567 ตามเวลาท้องถิ่นสหรัฐฯ นาทีเกิดเหตุการณ์ "ทรัมป์" รีบเอามือป้องหูก่อนที่จะหมอบลงใต้โพเดียม หลังมีเสียงปืนดังขึ้นหลายนัด ท่ามกลางความตื่นตระหนกของผู้ที่อยู่ในเหตุการณ์
เจ้าหน้าที่หน่วยอารักประธานาธิบดีเข้าคุ้มกันทรัมป์ทันทีและช่วยนำตัวลงจากเวที ก่อนที่ทรัมป์ซึ่งมีเลือดไหลออกจากบริเวณหูจะชูกำปั้นซ้ำ ๆ พร้อมตะโกนคำว่า USA ท่ามกลางเสียงเชียร์จากกลุ่มผู้สนับสนุน
หลังเกิดเหตุ ทรัมป์ใช้ "ทรูธ โซเชียล" สื่อสังคมออนไลน์ของตัวเอง กล่าวขอบคุณเจ้าหน้าที่หน่วยอารักประธานาธิบดีและเจ้าหน้าที่ทุกภาคส่วนที่ตอบสนองต่อเหตุการณ์ดังกล่าวอย่างรวดเร็ว พร้อมทั้งแสดงความเสียใจต่อครอบครัวของผู้เข้าร่วมการปราศรัยคนหนึ่งที่เสียชีวิตจากเหตุการณ์นี้ รวมถึงครอบครัวของผู้ได้รับบาดเจ็บ อีก 2 คน
นอกจากนี้ทรัมป์ ยังระบุด้วยว่า กระสุนเจาะเข้าที่ปลายหูด้านบนข้างขวา เจ้าหน้าที่กล่าวในการแถลงข่าวที่เมืองบัตเลอร์ รัฐเพนซิลเวเนีย ว่าสามารถระบุตัวตนของเหยื่อจากการยิงได้แล้ว แต่รายละเอียดดังกล่าวยังไม่ได้เปิดเผยต่อสาธารณะ
เจ้าหน้าที่สหรัฐฯ ยังคงอยู่ในระหว่างการสืบสวนเพื่อระบุตัวตนของผู้ก่อเหตุและแรงจูงใจในการก่อเหตุครั้งนี้ ขณะที่สำนักข่าวบีบีซีรายงานอ้างพยานในเหตุการณ์ว่าเห็นชายคนหนึ่งถือปืนไรเฟิลมอบคลานอยู่บนหลังคาของอาคาร ที่อยู่ห่างจากสถานที่จัดการปราศรัยและพยายามแจ้งเจ้าหน้าที่แล้ว ก่อนที่จะมีเสียงปืนดังขึ้น 5 นัด
พยานเห็น "มือปืน" บนหลังคาใกล้จุดปราศรัย
เกร็ก สมิธ พยานในเหตุการณ์บอกกับสำนักข่าวบีบีซีว่า เห็นชายพร้อมกับปืนไรเฟิลปีนขึ้นไปบนชั้นบนสุดของอาคารที่อยู่นอกพื้นที่ปราศรัยซึ่งอยู่ห่างไปประมาณ 50 ฟุต (กว่า 15 เมตร) ก่อนจะได้ยิงเสียงปืนดังขึ้น
เขามีปืนไรเฟิล เราเห็นปืนชัดเจนมาก
สมิธยังบอกด้วยว่าเขาพยายามแจ้งเตือนเจ้าหน้าที่อยู่ 3-4 นาที แต่เขาคิดว่าเจ้าหน้าที่อาจมองไม่เห็นมือปืนเนื่องจากความลาดเอียงของหลังคา สมิธตั้งข้อสังเกตว่า ทำไมไม่มีหน่วยรักษาความปลอดภัยประธานาธิบดีบนหลังคาเพราะสถานที่จัดงานไม่ได้ใหญ่อะไรมากขนาดนั้น
ผู้นำทั่วโลกประณามเหตุลอบยิง
ด้านนายโจ ไบเดน ปธน.สหรัฐฯ และคู่แข่งชิงตำแหน่งประธานาธิบดีจากพรรคเดโมแครต ออกแถลงการณ์สั้น ๆ หลังเกิดเหตุลอบยิงทรัมป์ว่า "ทุกคนต้องประณามเหตุรุนแรงครั้งนี้" เหตุรุนแรงที่เกิดขึ้นในรัฐเพนซิลวาเนีย
เราไม่สามารถปล่อยให้สิ่งนี้เกิดขึ้นได้ เราไม่สามารถเป็นเช่นนี้ได้ เราไม่สามารถให้อภัยสิ่งที่เกิดขึ้นได้
มีรายงานข่าวว่าประธานาธิบดีไบเดนได้พูดคุยกับนายทรัมป์แล้ว แต่ทางเจ้าหน้าที่ทำเนียบขาวไม่ได้บอกว่าทั้ง 2 คนพูดคุยเกี่ยวกับอะไร นอกจากนี้ นายไบเดนยังต่อสายหานายจอซ ซาปิโร ผู้ว่าการรัฐเพนซิลเวเนีย รวมถึงนายบ็อบ แดนดอย นายกเทศมนตรีเมืองบัตเลอร์ด้วย
ด้าน กมลา แฮริส รองประธานาธิบดีสหรัฐฯ กล่าวว่าโล่งใจที่ทรัมป์ไม่ได้รับบาดเจ็บสาหัส รวมถึงประณามการกระทำที่น่ารังเกียจนี้ และทำงานในส่วนของเราเพื่อให้เกิดความแน่ใจว่าเหตุการณ์นี้จะไม่นำไปสู่เหตุที่รุนแรงกว่าเดิม
ด้านสมาชิกพรรครีพับลิกันและเดโมแครตต่างออกมาประณามความรุนแรงที่เกิดขึ้น เช่นเดียวกับผู้นำโลกทยอยออกมาเคลื่อนไหวหลังทราบเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น รวมถึงเบนจามิน เนทันยาฮู นายกรัฐมนตรีอิสราเอล เคียร์ สตาร์เมอร์ นายกรัฐมนตรีอังกฤษ และ จัสติน ทรูโด ผู้นำแคนาดา โดยได้กล่าวประณามเหตุรุนแรงทางการเมือง พร้อมทั้งส่งกำลังใจให้ทรัมป์ ผู้ที่อยู่ในเหตุการณ์ และชาวอเมริกันทุกคน
ทางด้านนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีของไทย กล่าวถึงเหตุการณ์นี้ว่า เป็นเรื่องที่น่าเศร้า และน่าตกใจ เนื่องจากเพิ่งจะเริ่มการแข่งขันและรัฐเพนซิลเวเนียถือเป็นฐานเสียงของพรรครีพับลิกัน จึงเป็นสิ่งที่น่าตกใจพอสมควร และไม่อยากให้เกิดขึ้นอีก พร้อมทั้งหวังให้นายทรัมป์ปลอดภัย
ล่าสุด มีรายงานว่าทรัมป์เดินทางออกจากโรงพยาบาลท้องถิ่นแล้ว หลังเข้ารับการตรวจร่างกายหลังเกิดเหตุ โดยทรัมป์จะเข้าร่วมการประชุมใหญ่ของพรรครีพับลิกัน ที่จะเริ่มขึ้นในวันพรุ่งนี้ตามเวลาท้องถิ่นตามกำหนดการเดิม
อ่านข่าวเพิ่ม : "ทรัมป์" ถูกนำตัวลงจากเวที หลังเสียงปืนดังขั้นหลายนัดในเวทีหาเสียง
ที่มา : BBC