"คูมันน์" ยืนยัน การคว้าแชมป์ยูโรในยุคนี้ ยากกว่า ปี 1988

กีฬา
3 ก.ค. 67
07:49
188
Logo Thai PBS
"คูมันน์" ยืนยัน การคว้าแชมป์ยูโรในยุคนี้ ยากกว่า ปี 1988
อ่านให้ฟัง
00:00อ่านข่าวให้ฟังโดย Botnoi Voice เว็บแอปพลิเคชันสำหรับสร้างเสียงจากข้อความด้วย AI (Text to Speech)
"โรนัลด์ คูมันน์" ยืนยันว่า การคว้าแชมป์ยูโรในยุคนี้ ยากกว่า ปี 1988 ที่เนเธอร์แลนด์คว้าแชมป์ เพราะฟุตบอลยุคใหม่มีการเปลี่ยนแปลงไปมาก

หลังจากที่ เนเธอร์แลนด์ ทำผลงานยอดเยี่ยมผ่านเข้ารอบ 8 ทีมด้วยการชนะ โรมาเนีย ขาดลอย 3-0 ในรอบ 16 ทีมสุดท้าย ที่สนามอลิอันซ์ อารีนา ในเมืองมิวนิค ซึ่ง เนเธอร์แลนด์ เล่นได้เหนือกว่า โรมาเนีย ทั้ง 90 นาที และได้ประตูจาก โกดี้ คักโป และ ดอนเยลล์ มาเลน ทำคนเดียว 2 ประตูในช่วงท้ายเกม

เนเธอร์แลนด์ ทำผลงานยอดเยี่ยมผ่านเข้ารอบ 8 ทีมด้วยการชนะ โรมาเนีย ขาดลอย 3-0 ในรอบ 16 ทีมสุดท้าย

เนเธอร์แลนด์ ทำผลงานยอดเยี่ยมผ่านเข้ารอบ 8 ทีมด้วยการชนะ โรมาเนีย ขาดลอย 3-0 ในรอบ 16 ทีมสุดท้าย

เนเธอร์แลนด์ ทำผลงานยอดเยี่ยมผ่านเข้ารอบ 8 ทีมด้วยการชนะ โรมาเนีย ขาดลอย 3-0 ในรอบ 16 ทีมสุดท้าย

หลังการแข่งขัน โรนัลด์ คูมันน์ เฮดโค้ชทีมชาติเนเธอร์แลนด์ พอใจฟอร์มโดยรวมที่เล่นได้อย่างยอดเยี่ยม และสร้างโอกาสทำประตูมากมาย แต่สิ่งที่ยังไม่ดีพอคือการที่ทีมใช้เวลานานมากกว่าจะได้ประตูที่สอง

นักข่าวยังได้ถาม คูมันน์ ถึงการวิพากษ์วิจารณ์ผลงานของทีมชุดนี้ ไปเปรียบเทียบกับทีมชุดคว้าแชมป์ยูโร ปี 1988 ซึ่ง คูมันน์ บอกว่า ทีมชุดนี้เต็มไปด้วยนักเตะฝีเท้าดี แน่นอนว่าเมื่อทีมต้องการคว้าแชมป์ ผู้คนจะนำไปเปรียบเทียบกับทีมในปี 1988 แต่ตอนนี้ฟุตบอลเปลี่ยนไปมาก จะเห็นได้ว่าใน 2-3 เกมที่ผ่านมาทุกทีมต่างก็มีปัญหาของตัวเอง และหากฟอร์มไม่ดีก็มีสิทธิ์ไปไม่ถึงรอบชิงชนะเลิศ

เนเธอร์แลนด์ ทำผลงานยอดเยี่ยมผ่านเข้ารอบ 8 ทีมด้วยการชนะ โรมาเนีย ขาดลอย 3-0 ในรอบ 16 ทีมสุดท้าย

เนเธอร์แลนด์ ทำผลงานยอดเยี่ยมผ่านเข้ารอบ 8 ทีมด้วยการชนะ โรมาเนีย ขาดลอย 3-0 ในรอบ 16 ทีมสุดท้าย

เนเธอร์แลนด์ ทำผลงานยอดเยี่ยมผ่านเข้ารอบ 8 ทีมด้วยการชนะ โรมาเนีย ขาดลอย 3-0 ในรอบ 16 ทีมสุดท้าย

สำหรับ เนเธอร์แลนด์ เคยคว้าแชมป์ยูโรสมัยเดียวคือปี 1988 ซึ่งในยุคนั้นมีนักเตะระดับตำนานอย่าง มาร์โก้ ฟาน บาสเท่น, รุด กุลลิท, แฟร้งค์ ไรการ์ด รวมถึง โรนัลด์ คูมันน์ ด้วย

ส่วนคู่สุดท้ายของรอบ 16 ทีม ออสเตรียภายใต้การคุมทีมของ ราล์ฟ รังนิก พบกับ ตุรกี เกมนี้ ตุรกี ขึ้นนำเร็วตั้งแต่ 57 วินาทีแรก จาก เมรีห์ เดมิรัล

ตุรกี ชนะ ออสเตรีย 2-1 ได้ผ่านเข้าไปพบ เนเธอร์แลนด์ ในรอบ 8 ทีมสุดท้าย

ตุรกี ชนะ ออสเตรีย 2-1 ได้ผ่านเข้าไปพบ เนเธอร์แลนด์ ในรอบ 8 ทีมสุดท้าย

ตุรกี ชนะ ออสเตรีย 2-1 ได้ผ่านเข้าไปพบ เนเธอร์แลนด์ ในรอบ 8 ทีมสุดท้าย

ครึ่งหลัง จากลูกเตะมุม อาร์ด้า กือแลร์ เปิดเข้ามาให้ เดมิรัล คนเดิม ทำประตูที่สองของตัวเอง นาที 59 แต่ ออสเตรีย ไม่ยอมแพ้ มาได้ประตูตีไข่แตกไล่มาเป็น 1-2 ในนาทีที่ 66 จาก มิชาเอล เกรกอริตช์

เข้าสู่ช่วงนาทีสุดท้ายของการทดเจ็บคริสโตฟ เบาม์การ์ตเนอร์ โหม่งบอลตกพื้นกำลังจะเข้าประตูอยู่แล้ว แต่แมร์ต กูน็อค พุ่งปัดออกไปได้อย่างน่าเหลือเชื่อ จบเกม ตุรกี ชนะ ออสเตรีย 2-1 ได้ผ่านเข้าไปพบ เนเธอร์แลนด์ ในรอบ 8 ทีมสุดท้าย

ราล์ฟ รังนิก เฮดโค้ชออสเตรีย

ราล์ฟ รังนิก เฮดโค้ชออสเตรีย

ราล์ฟ รังนิก เฮดโค้ชออสเตรีย

หลังการแข่งขัน ราล์ฟ รังนิก เฮดโค้ชออสเตรีย ยอมรับว่า โชคไม่เข้าข้างทีม โดยเฉพาะลูกโหม่งของ เบาม์การ์ตเนอร์ ที่น่าจะตีเสมอได้สำเร็จ และทีมก็ไม่สามารถป้องกันลูกตั้งเตะได้ดีพอในเกมนี้

ส่วน วินเซนโซ่ มอนเตลลา เฮดโค้ชตุรกี ชื่นชมสปิริตของลูกทีมตั้งแต่นาทีแรก จนถึงนาทีสุดท้าย และเชื่อว่าทีมชุดนี้กำลังเทียบได้กับทีมชุดปี 2008 ที่เข้าถึงรอบรองชนะเลิศฟุตบอลยูโร

สำหรับ รอบ 8 ทีมสุดท้าย จะเริ่มแข่งวันที่ 5 ก.ค. ประเดิมด้วยคู่บิ๊กแมตช์ สเปน พบ เจ้าภาพ เยอรมนี ต่อด้วยคู่ดึกเวลาตีสอง โปรตุเกส พบ ฝรั่งเศส

อ่านข่าว : ใครจะเป็น "ดาวซัลโว" ศึกยูโร 2024 

เนเธอร์แลนด์ ชนะ โรมาเนีย 3-0 ผ่านเข้ารอบ 8 ทีมสุดท้าย ฟุตบอลยูโร 2024 

เปิดทำเนียบแชมป์ ฟุตบอลยูโร ตั้งแต่ 1960-2020

 

 

 

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง