ตรวจความพร้อม "เรือพระราชพิธี" ขบวนพยุหยาตราทางชลมารค

ศิลปะ-บันเทิง
21 มิ.ย. 67
13:49
866
Logo Thai PBS
ตรวจความพร้อม "เรือพระราชพิธี" ขบวนพยุหยาตราทางชลมารค
อ่านให้ฟัง
00:00อ่านข่าวให้ฟังโดย Botnoi Voice เว็บแอปพลิเคชันสำหรับสร้างเสียงจากข้อความด้วย AI (Text to Speech)
"สุดาวรรณ" ตรวจเยี่ยมการซ่อมแซม-ตกแต่งเรือพระราชพิธี และชมการฝึกซ้อมฝีพาย เตรียมความพร้อมขบวนพยุหยาตราทางชลมารคเสด็จพระราชดำเนินถวายผ้าพระกฐิน พ.ศ.2567

วันนี้ (วันที่ 21 มิ.ย.2567) เวลา 09.00 น. น.ส.สุดาวรรณ หวังศุภกิจโกศล รมว.วัฒนธรรม ตรวจเยี่ยมการซ่อมแซมและตกแต่งเรือพระราชพิธี และเยี่ยมชมการฝึกซ้อมฝีพาย ณ พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ เรือพระราชพิธี และ แผนกเรือราชพิธี กองเรือเล็ก กรมการขนส่งทหารเรือ กองทัพเรือ เขตบางกอกน้อย กรุงเทพฯ

ทั้งนี้ นางยุพา ทวีวัฒนะกิจบวร ปลัดกระทรวงวัฒนธรรม นายพนมบุตร จันทรโชติ อธิบดีกรมศิลปากร พล.ร.ต.ฉัตรชัย ศุกระศร เสนาธิการกรมยุทธศึกษาทหารเรือ ผู้แทนเจ้ากรมยุทธศึกษาทหารเรือ กองทัพเรือ พล.ร.ต.สมบัติ จูถนอม เจ้ากรมการขนส่งทหารเรือ กองทัพเรือ พล.ร.ต.ไพฑูรย์ ปัญญสิน ที่ปรึกษาคณะกรรมการจัดเตรียมความพร้อมขบวนเรือพระราชพิธี (คตร.) พร้อมด้วยผู้บริหารกระทรวงวัฒนธรรม กรมศิลปากร ให้การต้อนรับ

น.ส.สุดาวรรณ กล่าวว่า กรมศิลปากร ได้รับมอบหมายภารกิจสำคัญในการเตรียมความพร้อมสำหรับการจัดขบวนพยุหยาตราทางชลมารคเสด็จพระราชดำเนินถวายผ้าพระกฐิน พ.ศ.2567 เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 28 ก.ค.2567 ได้แก่ การอนุรักษ์ ซ่อมแซมเรือพระราชพิธี และอาภรณ์ภัณฑ์เครื่องประกอบ จำนวน 52 ลำ โดยกรมศิลปากร ได้มอบหมายให้กลุ่มวิทยาศาสตร์เพื่อการอนุรักษ์ สำนักพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ และสำนักช่างสิบหมู่ ดำเนินการอนุรักษ์เรือพระราชพิธี ซึ่งมีสถานะเป็นโบราณวัตถุ

การประดับตกแต่งเรือพระราชพิธี ด้วยการลงรัก ปิดทองประดับกระจกตามแบบศิลปะไทยโบราณ รวมทั้งการซ่อมแซม และจัดสร้างอาภรณ์ภัณฑ์เครื่องประกอบเรือพระราชพิธี โดยได้รับจัดสรรงบกลางจากรัฐบาล เพื่ออนุรักษ์และตกแต่งเรือพระราชพิธี จำนวน 52 ลำ เป็นเงินทั้งสิ้น 47,301,800 บาท ซึ่งกรมศิลปากรยึดหลักการในการอนุรักษ์เรือพระราชพิธี ให้มีความปลอดภัย พร้อมใช้งาน คงความเป็นของแท้ดั้งเดิม งดงามตามแบบฝีมือช่างไทยโบราณ สมพระเกียรติ และเป็นการสืบสานประเพณีการจัดขบวนเรือพระราชพิธี ซึ่งปัจจุบันมีเพียงประเทศไทยประเทศเดียวในโลก

กระทรวงวัฒนธรรม ตระหนักถึงความสำคัญของภารกิจดังกล่าว จึงทุ่มเทแรงกาย แรงใจ เพื่อให้การปฏิบัติงานดังกล่าวลุล่วงด้วยความสมบูรณ์พร้อม

น.ส.สุดาวรรณ กล่าวว่า นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี เดินทางมาตรวจเยี่ยมเมื่อวันที่ 13 มิ.ย.ที่ผ่านมา โดยกล่าวว่า พระราชพิธีถวายผ้าพระกฐินโดยขบวนพยุหยาตราทางชลมารค เป็นพระราชธีสำคัญที่ประชาชนชาวไทยและชาวต่างชาติต่างรอคอยที่จะเฝ้าชม ถือเป็นความภาคภูมิใจของพสกนิกรชาวไทย และความภาคภูมิใจในศิลปวัฒนธรรมของชาติที่มีเอกลักษณ์อันโดดเด่น จนเป็นที่กล่าวขานไปทั่วโลก จึงควรเตรียมความพร้อมสำหรับรองรับผู้ที่จะเข้าชมความงามของเรือพระราชพิธี ณ พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ เรือพระราชพิธี ภายหลังพระราชพิธีฯ ด้วย

เรือพระราชพิธีที่จัดแสดงอยู่ ณ พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ เรือพระราชพิธี จำนวน 8 ลำ ประกอบด้วย เรือพระที่นั่ง 4 ลำ ได้แก่ เรือพระที่นั่งสุพรรณหงส์ เรือพระที่นั่งนารายณ์ทรงสุบรรณ รัชกาลที่ 9 เรือพระที่นั่งอนันตนาคราช เรือพระที่นั่งอเนกชาติภุชงค์ และเรือรูปสัตว์ 4 ลำ ได้แก่ เรือเอกไชยเหิรหาว เรืออสุรวายุภักษ์ เรือครุฑเหิรเห็จ เรือกระบี่ปราบเมืองมาร

นับเป็นพิพิธภัณฑ์ที่จัดแสดงเรือพระราชพิธีแห่งเดียวของโลก จึงได้รับนโยบายดังกล่าว และมอบให้กรมศิลปากรจัดทำแผนการประชาสัมพันธ์และเผยแพร่ข้อมูลทางวิชาการเรื่องเรือพระราชพิธี และการจัดกระบวนเรือ ในเว็บไซต์พิพิธภัณฑ์เสมือนจริง (Virtual Museum) ของกรมศิลปากร และสื่อสังคมออนไลน์ต่าง ๆ

รวมทั้งการนำความสำเร็จของการจัดกิจกรรมชมพิพิธภัณฑ์ยามราตรี (Night Museum) มาประยุกต์ใช้กับพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ เรือพระราชพิธี โดยจะเริ่มดำเนินการปรับปรุงการจัดแสดงเรือพระราชพิธี ทั้ง 8 ลำ ในเดือน ต.ค.2567 ด้วยการติดตั้งไฟจัดแสดงเพิ่มเติม เพื่อเน้นความงามของเรือพระราชพิธี ให้สอดรับกับบรรยากาศยามค่ำคืนริมคลองบางกอกน้อย อันเป็นที่ตั้งของพิพิธภัณฑ์ โดยให้ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้านการจัดแสดง แสง สี สำหรับการจัดแสดง และการจัดบรรยากาศภายในพิพิธภัณฑ์ออกแบบเป็นพิเศษ คาดว่าจะดำเนินการแล้วเสร็จภายในเดือน ธ.ค.นี้ เพื่อเป็นของขวัญปีใหม่ให้นักท่องเที่ยว และเป็นการสนับสนุนนโยบาย Soft Power ของรัฐบาล

ทั้งนี้ จากการวิเคราะห์สถิติจำนวนนักท่องเที่ยวในปีที่ผ่านมา นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่เป็นชาวต่างชาติและเดินทางเข้าชมทางเรือ คาดว่าการปรับปรุงและพัฒนาพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ เรือพระราชพิธีครั้งนี้จะทำให้จำนวนนักท่องเที่ยวเพิ่มขึ้นไม่น้อยกว่าร้อยละ 50 พร้อมทั้งจะเพิ่มเวลาให้เข้าชมได้ถึงเวลา 20.00 น. จากเดิม 16.00 น.

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง