วันนี้ (20 มิ.ย.2567) นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รมว.สธ. ลุกขึ้นชี้แจงประเด็นที่เกี่ยวกับสาธารณสุข ที่สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรได้ลุกขึ้นอภิปราย โดยกล่าวว่ารัฐบาลพยายามผลักดันให้ กระทรวงสาธารณสุขได้รับงบประมาณเพิ่มมากขึ้นแต่คงยังไม่เพียงพอ เพราะความจำกัดในเรื่องของงบประมาณ แต่ก็เป็นเรื่องการบริหารจัดการเพื่อให้มีประสิทธิภาพมากที่สุด
และจากข้อสังเกตที่บอกว่าบางกรมได้งบประมาณน้อย จึงชี้แจงว่ามีการบูรณาการของกระทรวง ร่วมกันดำเนินการ เช่น กระทรวงมหาดไทย กระทรวงการคลัง กระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์และ สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) ได้ดูแลเรื่องความสมบูรณ์ของทารกแต่ละปีมีการเด็กเกิด 450,000 คน แต่การใช้บริการตรวจเพื่อเจาะดูยีนส์ความสมบูรณ์ของทารกเพียง 180,000 คน และมีนับเหมือนคนเด็กเกิดมาไม่สมบูรณ์ ซึ่ง สปสช. ใช้งบตรงนี้ดูแล
ส่วนเรื่องยาเสพติดมีการปรับเปลี่ยนประกาศเกี่ยวกับยาเสพติดที่สันนิษฐานว่า ครอบครอง 1 เม็ด ให้เป็นผู้เสพ และมติ ครม. เพิ่มเติมว่าจะต้องมีการสอบสวนและพิสูจน์ได้ว่าเป็นผู้เสพถึงจะมีสิทธิ์ได้รับการบำบัด ซึ่งกฎหมายก็ให้ความสำคัญเกี่ยวกับการปราบปรามยาเสพติด
ขณะเดียวกันก็ได้พิจารณาเรื่องของรถกู้ภัยที่ยังมีไม่ครอบคลุมทุกตำบลในประเทศไทย และส่วนหนึ่งเป็นความร่วมมือกับศูนย์แพทย์ฉุกเฉินกับ อบต. ที่มีความพร้อมจะจัดรถฉุกเฉิน และจากที่ได้ไปตรวจเยี่ยมพบว่ามีปัญหารถปลอมแทรกเข้ามา จึงขอให้กรมขนส่งทางบกแก้ไขปัญหาทำทะเบียนพิเศษ
ส่วนการฉีดวัคซีนมะเร็งปากมดลูกรับที่จะพิจารณาวีคซีนการฉีดรองรับสายพันธุ์มากขึ้น ขณะเดียวกันมีแผนรองรับกรณี แพทย์ขาดแคลนในอนาคตด้วยทั้งแพทย์ ต้องเพิ่มให้ถึงเป้าหมายอีก 10 ปีข้างหน้าแพทย์จะมีเพิ่มขึ้น 41,000 คน และทันตแพทย์ 4,100 คน ส่วนพยาบาล 57,800 คน และเภสัชกรมีเพียงพอ
รมว.สธ. กล่าวว่า มีแนวคิดที่จะนำกระทรวงสาธารณสุขออกจากระบบ กพ. โดยสั่งให้ดำเนินการเรื่องกฎหมายเพราะจะต้องร่างกฎหมายถึง 3 ฉบับ ขณะเดียวกัน ต้องการให้ อสม. มีที่ยืนอย่างมั่นคงมีกฎหมายรองรับ พร้อมกล่าวว่ากระทรวงสาธารณสุขได้รับการจัดสรรงบงบประมาณปี 2568 วงเงิน 341,210 ล้านบาท มี 16 หน่วยงานรับงบประมาณในกำกับ และมี 3 กองทุน
นายสมศักดิ์ ชี้แจงว่า มีนโยบายเร่งรัด 5 ด้าน 1.ยกระดับ 30 บาทรักษาทุกที่ด้วยบัตรประชาชนใบเดียว 2.แก้ไขปัญหาสุขภาพจิตและยาเสพติดดังบูรณาการ 3. การแพทย์ปฐมภูมิและ อสม. 4. เมดิคอลแอนด์เวลเนสฮับ และ 5.เพิ่มการเข้าถึงบริการสุขภาพยกระดับการใช้เทคโนโลยีการศึกษาวิจัย
อ่านข่าว : "ทนายตั้ม" ขอโทษประชาชนหลัง "บิ๊กต่อ" กลับนั่ง ผบ.ตร.