จากกรณีผู้เสียหายใช้แอปพลิเคชันเฟซบุ๊ก ต่อมามีหญิงสาวใช้ภาพโปรไฟล์เป็นผู้สื่อข่าวสำนักหนึ่งทำทีมาตีสนิทจนเกิดความเชื่อใจและแลกไลน์กัน ซึ่งมิจฉาชีพได้ชวนผู้เสียหายให้ทดลองเทรดเหรียญคริปโตเคอรันซี่ ซึ่งได้เล่นเป็นประจำและได้รับเงินมาโดยตลอด จึงหลงเชื่อและให้มิจฉาชีพเป็นผู้สอนวิธีการดาวน์โหลดและติดตั้งแอปพลิเคชัน
ผู้เสียหายโอนเงินไปทั้งสิ้น 33 ครั้ง 25 บัญชี จนกระทั่งต่อมาเมื่อผู้เสียหายจะขอทำการถอนเงินจากการลงทุนนั้น ก็ไม่สามารถดำเนินการได้ จึงเชื่อว่าตนเองนั้นได้ถูกมิจฉาชีพหลอกลวงให้ลงทุน สูญเสียเงินกว่า 20 ล้านบาท
พล.ต.ท.วรวัฒน์ วัฒน์นครบัญชา ผู้บัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บช.สอท.) จึงสั่งการให้ พล.ต.ต.ชัชปัณฑกาณฑ์ คล้ายคลึง ผบก.สอท.1 เร่งสืบสวนสอบสวนหาตัวผู้กระทำความผิดมาลงโทษตามกฎหมาย จนเจ้าหน้าที่ตำรวจรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อขออำนาจศาลออกหมายจับผู้กระทำความผิด
ต่อมาวันที่ 17 มิ.ย.2567 เวลาประมาณ 11.30 น. พ.ต.อ.พิเชียรยศ อรุณพันธกุล ผกก.กก.1 บก.สอท.1 ส่งกำลังชุดสืบสวน นำโดย พ.ต.ท.กฤชณัท เหล่ากอ รอง ผกก.กก.1 บก.สอท.1 เข้าจับกุมตัว น.ส.กัญญาณัฐ อายุ 23 ปี ตามหมายจับศาลอาญา
ในข้อหาร่วมกันฉ้อโกงโดยแสดงตนเป็นบุคคลอื่น และร่วมกันโดยทุจริตหรือโดยหลอกลวงนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือนหรือปลอมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จโดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่บุคคลใดบุคคลหนึ่ง
และหรือเปิดหรือยินยอมให้บุคคลอื่นใช้บัญชีเงินฝากบัตรอิเล็กทรอนิกส์ หรือบัญชีเงินอิเล็กทรอนิกส์ของตน โดยมิได้มีเจตนาใช้เพื่อตน หรือเพื่อกิจการที่ตนเกี่ยวข้อง
ทั้งนี้ที่ผ่านมาจับกุมได้แล้วไป 17 บัญชีจาก 25 บัญชี เจ้าหน้าที่เร่งสืบสวนขยายผลเพื่อติดตามผู้กระทำผิดทั้งหมดมารับโทษให้ครบทั้งขบวนการ พร้อมเตือนประชาชนอย่าหลงเชื่อการชักชวนลงทุนโดยลำพังโดยเฉพาะการชักชวนลงทุนกับคนในโลกออนไลน์ซึ่งไม่เคยพบหน้ากันมาก่อน
อ่านข่าว : "บิ๊กโจ๊ก" ยื่น 2 หมื่นชื่อถอด กรรมการ ป.ป.ช.ทุจริต-รวยผิดปกติ