เดือนเดือด! มิ.ย.นี้ นอกจากตลาดหุ้น ต้องเผชิญสภาวะหุ้นดิ่งต่อเนื่องแล้ว ปฏิเสธไม่ได้ว่า เสถียรภาพทางการเมืองที่สั่นคลอนจาก 3 เหตุการณ์คดีการเมืองสำคัญ ซึ่งศาลรัฐธรรมนูญจะนัดพิจารณาในวันที่ 18 มิ.ย.นี้ หลังมีคำสั่งให้ กกต.ยื่นพยานหลักฐานเพิ่มเติมกรณียุบ "พรรคก้าวไกล", ให้ 40 สว.ยื่นหลักฐานเพิ่มเติมเรื่องถอดถอนนายกรัฐมนตรี และรับวินิจฉัยการได้มาซึ่ง สว.ชุดที่ 13 โดยทั้งหมดจะมาประดังในวันเดียวกัน
ระหว่างทางยังไม่สามารถทำนายได้ว่า เหตุการณ์จะเป็นอย่างไร แต่ปัญหาที่เกิดขึ้นแล้วแน่ ๆ คือ การเลือกตั้ง สว.รอบ 2 ในระดับจังหวัด ซึ่งกำลังเดินหน้าต่อไปในวันที่ 16 มิ.ย.นี้ ที่อาจทำให้คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) เกิดอาการสะดุดและมีเสียวสันหลังได้ หากเกิดมีผู้ร้องเรียน หลังโลกออนไลน์ มีการแชร์ข้อมูลส่วนบุคคลรั่วไหล โดยมีการเปิดเผยรายชื่อและเลขบัตรประจำตัวประชาชนของผู้ผ่านการคัดเลือก สว.ระดับอำเภอ จำนวนกว่า 20,000 ราย
อ่านข่าว : ศาลรัฐธรรมนูญ นัดชี้ขาด 4 มาตราเลือก สว. ขัด รธน.หรือไม่ 18 มิ.ย.นี้
ล่าสุดสำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (สคส.) หรือ PDPC ได้แจ้งไปยัง กกต. ให้ตรวจสอบเหตุการณ์ดังกล่าวและชี้แจงข้อเท็จจริง และให้ประสานผู้ที่ได้เผยแพร่ข้อมูลดังกล่าวให้ระงับการเผยแพร่ทันที เพื่อประชาสัมพันธ์ไม่ให้นำข้อมูลดังกล่าวไปแชร์ต่อ
และขอให้ กกต.งดเว้นการเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลที่อาจเกินความจำเป็นต่อภารกิจที่เกี่ยวข้อง เช่น การเปิดเผยเลขบัตรประจำตัวประชาชนทั้ง 13 หลัก และคุมเข้มไม่ให้ข้อมูลส่วนบุคคลของผู้มาใช้สิทธิเลือกตั้งและผู้สมัครรับการเลือกตั้งเกิดการรั่วไหลหรือเผยแพร่โดยไม่ได้รับอนุญาต
อย่างไรก็ตาม จากสถิติการทำงานเชิงรุกโดยศูนย์ PDPC Eagle Eye ตามมติ ครม. ซึ่งได้ทำการตรวจสอบติดตามเฝ้าระวังการละเมิดและการรั่วไหลของข้อมูลส่วนบุคคล จำนวน 26,301 หน่วยงาน พบว่าจากเดือนพฤศจิกายน 2566 ถึงเดือนพฤษภาคม 2567 การรั่วไหลของข้อมูลส่วนบุคคลลดลงจาก 31.40% เหลือ 1.21%
ยังไม่จบ แม้เจ้าพ่อลุ่มน้ำสะแกกรัง "ชาดา ไทยเศรษฐ์" มท.3 จะยอมรับระหว่างเดินทางไปทำพิธีฮัจย์ ที่ประเทศซาอุดีอาระเบีย ว่า "นรเศรษฐ์ ไทยเศรษฐ์" ผู้ต้องหาที่ถูกจับข้อหามั่วสุมเสพยาติดและความผิดอาวุธปืน เป็นหลานจริง เมื่อคืนวันที่ 10 มิ.ย.ที่ผ่านมา แต่แม้จะเป็นหลานรัฐมนตรีก็ขอให้เจ้าหน้าที่ดำเนินการได้เต็มที่ ไม่เกี่ยวอะไรกับตน และที่ผ่านมาก็เป็นคนเกเร มีเรื่องมาตลอด
ขณะที่ "มท.หนู" อนุทิน ชาญวีรกูล รองนายก และ รมว.มหาดไทย ก็ออกมาการันตีว่า "ชาดา" มีญาติเป็นร้อยเป็นพัน ใครทำผิดก็ว่าไปตามกฎหมาย ไม่มีการช่วยเหลือ ขณะนี้ เดินทางไปแสวงบุญ อย่าไปทำให้เขากังวลใจ ในชีวิตของนายชาดาไม่เคยพูดถึงบุคคลนี้ เขาเติบโตมาได้เพราะ 2 คน คือ ตัวของ นายชาดา และ นางสาวมนัญญา ไทยเศรษฐ์ น้องสาวเพียงเท่านั้น
หากพลิกเส้นทางการเติบโตของ "ชาดา-มนัญญา" จากนักการเมืองท้องถิ่น ก่อนจะผงาดมาเป็น "บ้านใหญ่" คุม "อุทัยธานี" ทั้งจังหวัด และกลายเป็น "แม่ทัพ" คนหนึ่งของพรรคภูมิใจไทย ก็ฝ่าฟันมรสุมการเมืองมิใช่น้อย ก่อนจะเดินทางไปประกอบพิธีฮัจย์ "ชาดา" ได้จัดงานครบรอบวันเกิดวัย 63 ปี ที่บ้านดอนหมื่นแสน อ.เมือง จ.อุทัยธานี และถือเป็นกำลังหลักสำคัญของพรรคภูมิใจไทยในพื้นที่ภาคกลางอีกคนหนึ่ง
อ่านข่าว : ฝากขัง “หลานชาดา” แจ้งข้อหาเพิ่ม “เสพยาเสพติด”
ส่วนควันหลงหลังการพ่ายเลือกตั้ง สว.ในระดับอำเภอ ของ "อุษณีย์" หรือ "อุชษณีย์ ชิดชอบ" ที่ จ.บุรีรัมย์ เมื่อวันที่ 9 มิ.ย.ที่ผ่านมา แม้จะมี "กูรู" ทางการเมืองฟังธงว่า "เนวิน ชิดชอบ" หรือ พรรคภูมิใจไทย สิ้นมนต์ขลังเสียแล้ว เหตุว่า "อุชษณีย์" พี่สาว "เนวิน" แพ้โหวตสมัคร สว. และได้รับการโหวตเพียง 3 คะแนน ทำให้ร่วงตั้งแต่รอบแรก
นางอุชษณีย์ ชิดชอบ
ว่ากันว่าการตกรอบของ "อุชษณีย์" ไม่ได้เกินความคาดหมายของคนบุรีรัมย์ แม้จะเป็นพี่สาวของ "เนวิน" แต่เป็นที่รับรู้กันในพื้นที่มานานว่า การต่อสู้ในสนามการเมืองท้องถิ่นระหว่างพี่น้องในตระกูลชิดชอบ มีความขัดแย้งกันมานานแล้ว ดังนั้น "เนวิน-อนุทิน-ภูมิใจไทย" จึงไม่ได้ส่งประกวด
นพ.ประพนธ์ ตั้งศรีเกียรติกุล
แต่ นพ.ประพนธ์ ตั้งศรีเกียรติกุล อดีตผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี และที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ของ "มท.หนู" อนุทิน เมื่อสมัยเป็น รมว.สธ. ผ่านฉลุยเข้าไปรอในรอบ 16 มิ.ย.นี้ พร้อม "ประเสริฐ เลิศยะโส" อดีต สส.บุรีรัมย์ อดีตผู้สมัครนายก อบจ.บุรีรัมย์
ดีลยังไม่นิ่ง เทพไท เสนพงษ์ อดีต สส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ โพสต์เฟซบุ๊ก ขอบคุณ 3 อดีตอัยการสูงสุด คือ "นายตระกูล วินิจนัยภาค, ร.ต.ต.พงษ์นิวัฒน์ ยุทธภัณฑ์บริการ และ นายอำนาจ เจตน์เจริญรักษ์ ที่ได้ปฏิบัติหน้าที่ต่อคดี ม.112 ของนายทักษิณอย่างตรงไปตรงมา เพื่อรักษาไว้ซึ่งความยุติธรรม
นายตระกูล วินิจนัยภาค อดีตอัยการสูงสุด
หลังก่อนหน้านี้ นายตระกูล ออกมาขอยืนยันผ่านข้อเขียนบนเฟสบุ๊กส่วนตัวว่า "ด้วยเกียรติของลูกผู้ชายว่า ในฐานะเป็น อสส. ในขณะนั้น ซึ่งเป็นพนักงานสอบสวนผู้รับผิดชอบคดีอาญานอกราชอาณาจักรตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญามาตรา 20 ไม่เคยมีใครข่มขู่ โน้มน้าว ชักจูง ให้ปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบในการสอบสวน "
"...นับเป็นการตอบข้อกล่าวหาของนายทักษิณอย่างแรง จึงอยากรู้ว่านายทักษิณมีลูกเล่นอะไรออกมากล่าวหาสำนักงานอัยการสูงสุดอีก... การออกมาเปิดโปงเรื่องขบวนการไม่ชอบมาพาคนในการสั่งฟ้องคดีมาตรา 112 น่าจะมีวัตถุประสงค์เพื่อเปิดทางให้ทนายความ ยื่นคำร้องขอความเป็นธรรมต่อสำนักงานอัยการสูงสุดได้อย่างชอบธรรม หวังที่จะให้อัยการสูงสุดกลับคำสั่งฟ้อง และยื้อเวลาคดีนี้ออกไป เพื่อจะได้มีเวลาต่อรอง ล็อบบี้ และทำดีลใหม่กับกลุ่มอนุรักษ์นิยม" เทพไท ระบุ
อ่านข่าว : ศร.ให้ กกต.ส่งหลักฐานเพิ่มคดียุบ "ก้าวไกล" นัดพิจารณาครั้งหน้า 18 มิ.ย.
ยังไม่หมดหวัง "ต๋อม" ชัยธวัช ตุลาธน สส.บัญชีรายชื่อ และหัวหน้าพรรคก้าวไกล บอกวันนี้ศาลยังไม่ได้มีการพิจารณาเรื่องการเปิดไต่สวน หรือเรียกพยานตามที่พรรคก้าวไกลในฐานะผู้ถูกร้องยื่นไป แต่มีมติสั่งให้ กกต. ส่งพยานหลักฐานเพิ่มเติม ซึ่งคาดการณ์ว่าน่าจะเกี่ยวข้องกับข้อโต้แย้งของพรรคก้าวไกล เรื่องการยื่นของ กกต.ไม่ชอบด้วยกฎหมาย ซึ่งฝ่ายกฎหมายพรรคก้าวไกลก็จะไปยื่นบัญชีเอกสารเพิ่มเติมเหมือนกัน
"...หวังว่าศาลจะเปิดโอกาสให้ต่อสู้คดีอย่างเต็มที่ มีการไต่สวนพยาน มีการพิจารณาข้อเท็จจริงใหม่ ส่วนประเมินว่า ศาลจะเปิดให้ไต่สวนเต็มรูปแบบ หรือ สั่งให้ปากคำแบบปิด ไม่ทราบ แต่การเปิดไต่สวนอย่างเปิดเผยย่อมดีที่สุดกับทุกฝ่าย เพื่อให้สุดท้ายคำวินิจฉัยออกมาเป็นที่ยอมรับ..."
อ่านข่าว :
รู้หรือไม่ ? เงินเหรียญชำระหนี้ตามกฎหมาย "ได้แต่ไม่ทั้งหมด"
"ชัยธวัช" จ่อเรียก "เชตวัน" แจงปมผู้ช่วย สส.อ้างเป็น กมธ.รีดทรัพย์