วันนี้ (6 มิ.ย.2567) ตำรวจ สภ.ปากคลองรังสิต จ.ปทุมธานี คุมตัวผู้ก่อเหตุฆ่าแฟนสาวออกจากโรงพยาบาล ไปสอบปากคำที่โรงพัก หลังจากแพทย์ลงความเห็นว่าอาการเป็นปกติแล้ว
ก่อนหน้านี้ตำรวจเข้าไปอ่านหมายจับ ซึ่งเจ้าตัวยังอยู่ในท่าทีนอนนิ่ง แต่ระหว่างการอ่านหมายจับมีพี่ชายของผู้ก่อเหตุอยู่ด้วย ก่อนที่ตำรวจจะนำตัวขึ้นรถตู้ โดยพบว่ามีหน่วยกำลังปฏิบัติการพิเศษพร้อมอาวุธครบมือคุมกัน เพื่อนำตัวไปสอบปากคำโดยละเอียด
เมื่อตำรวจนำตัวผู้ก่อเหตุถึง สภ.ปากคลองรังสิต ผู้สื่อข่าวพยายามตะโกนสอบถามถึงสาเหตุที่ฆ่าแฟนสาว ขณะที่ผู้ก่อเหตุไม่ได้ตอบคำถามใดๆ โดยมีท่าทีอ่อนแรงและหลับตาตลอดเวลา
อ่านข่าว : ด่วน! เจอถุงชิ้นส่วน "ข้อมือ 2 ข้าง" นศ.หญิงถูกแฟนฆ่า
ก่อนหน้านี้ พ.ต.อ.ณรงค์ เอี่ยมระหงษ์ ผกก.สภ.ปากคลองรังสิต เปิดเผยว่า หลังจากพบศพใต้ทางด่วนบางพูน พบว่าสภาพร่างกายของศพมีพยานหลักฐานไม่ครบ ซึ่งตำรวจพยายามซักถามผู้ต้องหาและญาติผู้ต้องหา แต่ไม่ได้รับความร่วมมือในการให้ข้อมูลเพื่อติดตามหาชิ้นส่วนข้อมือของผู้เสียชีวิต
กระทั่งตำรวจตรวจสอบภาพจากวงจรปิดและพบว่าผู้ก่อเหตุนำถุงไปทิ้งที่คลองเชียงราก ในเวลาประมาณ 04.40 น. ก่อนที่จะกลับไปที่บ้านและนำศพขึ้นรถจักรยานยนต์ขี่ออกไปใต้ทางด่วนบางพูนเพื่อทิ้งศพ ซึ่งวัตถุพยานที่พบในถุงต้องสอบปากคำผู้ต้องหาอย่างละเอียดอีกครั้ง คาดว่าจะมีความชัดเจนมากยิ่งขึ้น
ผกก.สภ.ปากคลองรังสิต กล่าวอีกว่า การพบชิ้นส่วนข้อมือของผู้เสียชีวิตไม่ได้รับความร่วมมือจากผู้ต้องหา เพราะก่อนหน้านี้ตำรวจพยายามสอบถามว่านำไปทิ้งไว้ที่ไหน แต่ผู้ก่อเหตุไม่ยอมเปิดปาก ขณะที่ผู้ปกครองพยายามระบุว่าลูกชายยังมีอาการวิกฤตและไม่ได้สติ แต่แพทย์ระบุว่าอาการดีขึ้นตามลำดับ
ตร.เชื่อผู้ต้องหาไม่ป่วยทางจิตขณะก่อเหตุ
ขณะที่ พล.ต.ต.ยุทธนา จอนขุน ผบก.ภ.จว.ปทุมธานี ระบุว่า นำตัวผู้ต้องหามาที่ สภ.ปากคลองรังสิต เพื่อควบคุมตัว 48 ชั่วโมง ซึ่งในการสอบปากคำทุกอย่างมีการปรึกษาทีมแพทย์ที่รักษาอาการของผู้ต้องหาแล้ว โดยแพทย์ระบุว่าอาการปกติ สามารถกลับมาใช้ชีวิตได้และครอบครัวก็อยู่สังเกตอาการตลอดเวลา
ส่วนอาการที่ผู้ต้องหาแสดงออกเหมือนไร้เรี่ยวแรง เดินไม่ไหว จนตำรวจต้องหิ้วปีกและขาเข้าห้องคุมขังนั้น อาจเป็นเพราะยังอายุน้อยจึงสับสนกับสิ่งที่เกิดขึ้น แต่เชื่อว่าหลังจากนี้ครอบครัวจะช่วยพูดจนสามารถสอบปากคำรายละเอียดทั้งหมดได้ว่าสาเหตุที่ลงมือเกิดจากเรื่องใด เพราะที่ผ่านมาหลังจากคุมตัวได้และนำตัวส่งโรงพยาบาล ผู้ก่อเหตุยังไม่ยอมเปิดปาก
ส่วนอาการป่วยทางจิตจะสามารถนำมาหักล้างการก่อเหตุได้หรือไม่นั้น ผบก.ภ.จว.ปทุมธานี ยืนยันว่า จากข้อมูลที่ผ่านมาพบว่าผู้ต้องหามีการทำงานเป็นหลักแหล่ง ใช้ชีวิตปกติ จึงเชื่อว่าน่าจะมีสติขณะก่อเหตุ และการอำพรางศพนั้นอาจเป็นเพราะมีความคิดฟุ้งซ่านหลังก่อเหตุ เพื่อหวังว่าจะไม่ถูกดำเนินคดี ส่วนอาวุธที่ใช้ก่อเหตุพบว่าเป็นมีดที่มีอยู่แล้วภายในบ้าน
อ่านข่าว
ตร.แจ้งข้อหา "หนุ่มฆ่าแฟนสาว" พบเคยต้องคดี-มีประวัติรักษาจิตเวช
ศาลตัดสินประหารชีวิต "อดีตรอง ผกก." ยิงครอบครัวพ่อค้ารับซื้อน้ำยาง