วันนี้ (29 พ.ค.2567) น.ส.พิมพ์ภัทรา วิชัยกุล รมว.อุตสาหกรรม พร้อมด้วย นางนลินี ทวีสิน ผู้แทนการค้าไทย เปิดบูธศูนย์อุตสาหกรรมฮาลาลไทย ภายในงาน THAIFEX-Anuga Asia 2024
ภารกิจของศูนย์อุตสาหกรรมฮาลาลไทย คือ การขับเคลื่อนงานตามนโยบาย และแผนปฏิบัติการพัฒนาอุตสาหกรรมฮาลาลไทยให้บรรลุเป้าหมาย รวมถึงติดตามและประเมินผล ส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศผ่านการขยายตลาดการค้า สินค้าและบริการฮาลาล ทั้งในและต่างประเทศ
โดยเร่งเปิดตลาดสินค้า ฮาลาลในภูมิภาคต่างๆประชาสัมพันธ์ จัดแสดงสินค้า จัดทำบันทึกความเข้าใจกับประเทศหรือกลุ่มประเทศที่มีศักยภาพ ตลอดจนแก้ไขปัญหา บูรณาการการดำเนินงาน ยกระดับความสามารถในการแข่งขัน ของผู้ประกอบการฮาลาลไทย
อ่านข่าว : อคส.ชี้แจง TOR ประมูลข้าว 10 ปี เปิดให้ผู้สนใจดูข้าว 31 พ.ค.-7 มิ.ย.
โดยแนวทางการดำเนินงานของศูนย์อุตสาหกรรมฮาลาลไทย ในระยะแรกจะดำเนินงานภายใต้สถาบันอาหาร โดยโครงสร้างขององค์กร จะแบ่งเป็นฝ่ายส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ และฝ่ายพัฒนาการผลิตและมาตรฐาน ทั้งนี้กิจกรรมที่จะดำเนินการภายใต้ศูนย์อุตสาหกรรมฮาลาลไทย คือ การจัดทำระบบข้อมูลสารสนเทศอัจฉริยะอุตสาหกรรมฮาลาล รวมไปถึงส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศพัฒนาการผลิตและมาตรฐานอุตสาหกรรมฮาลาลไทย
น.ส.พิมพ์ภัทรา กล่าวว่า อยากเห็นหน่วยงานของกระทรวงอุตสาหกรรมรวบรวมหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับฮาลาลเข้ามาอยู่ด้วยกัน วันนี้ได้ขับเคลื่อนจนอุตสาหกรรมฮาลาลเป็นสถาบันฮาลาล
ด้วยคาดหวังให้ผู้ประกอบการทั้งผู้ผลิต ไม่ใช่แค่เปิดตลาดแต่ต้องขยายตลาดเพิ่มมากขึ้น เพราะวันนี้เรามีโอกาสมาก และไม่ใช่โอกาสเพียงอาหารแต่กระบวนการทั้งหมดสินค้าและบริการ ที่ฮาลาลมีโอกาสเติบโตมาก
ทางสำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม (สศอ.) เคยคาดการณ์เอาไว้ปัจจุบันมีกำลังอยู่ที่ 2.3 ล้านล้านเหรียญสหรัฐ อยากเห็นเติบโตถึง 7.5 ล้านล้านเหรียญสหรัฐ เพราะตลาด eec และเอเชียหรือตลาดเพื่อนบ้านและจีนยังมีโอกาสในการขยายอีกมาก
อ่านข่าว : 29 พ.ค.ปรับขึ้นราคา "ไข่ไก่คละ" เป็นฟองละ 4 บาท
น.ส.พิมพ์ภัทรา กล่าวอีกว่า วันนี้สิ่งที่ต้องทำคือต้องปรับมาตรฐานให้ตรงกัน หลายประเทศมีมาตรฐาน ที่ไม่เหมือนกันเราจะส่งออกประเทศไหนต้องปรับให้มาตรฐานเป็นที่ยอมรับของประเทศนั้น โดยปัจจุบันมีหลายประเทศสนใจและยังมีโอกาสอันดีที่รัฐบาลไทยจะจับเอาเรื่องของอุตสาหกรรมฮาลาลเป็นอีกส่วนหนึ่ง ในการนำรายได้เข้าประเทศ
ด้าน นางนลินี กล่าวว่า คาดการณ์ 5 ปีข้างหน้าตลาดอาหารฮาลาลโลก จะมีมูลค่าทางการตลาดเพิ่มขึ้นเป็น 2 เท่า หรือมูลค่าตลาด 4.70 ล้านล้านเหรียญสหรัฐ ภายในปี 2572 และในระยะยาวมีแนวโน้มขยายตัวเร็วกว่าอาหารทั่วไป ด้วยปัจจัยประชากรมุสลิมโลกเพิ่มขึ้น
เศรษฐกิจในกลุ่มประเทศมุสลิมขยายตัว ความไม่มั่นคงทางอาหารในกลุ่มประเทศมุสลิมผลักดันให้เกิดความต้องการนำเข้าอาหารมากขึ้น และหลายประเทศให้ความสำคัญ มีนโยบายสนับสนุนอุตสาหกรรมฮาลาลอย่างเป็นรูปธรรม
นอกจากนี้ตลาดฮาลาลโลกไม่ได้ผูกขาดเฉพาะประเทศมุสลิม แต่เปิดกว้างสำหรับทุกประเทศที่มีศักยภาพ และประเทศไทยมีโครงสร้างพื้นฐานที่เอื้อต่อการก้าวไปสู่การเป็นประเทศผู้นำ ในตลาดฮาลาลโลกได้ เนื่องจากมีวัตถุดิบทางการเกษตรที่หลากหลาย มีการแปรรูปผลิตภัณฑ์ สินค้า ที่มีคุณภาพปลอดภัยได้มาตรฐานสากล
ปัจจุบันไทยมีผู้ประกอบการที่ผ่านการรับรองมาตรฐานฮาลาล ยอดสะสมกว่า 6,400 แห่ง กว่า 170,000 ผลิตภัณฑ์ ด้วยการส่งออกสินค้าอาหารฮาลาลของไทยในปี 2566 มูลค่า 222,287 ล้านบาทขยายตัวในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา เฉลี่ย 2-3 เปอร์เซ็นต์ต่อปีเท่านั้น จึงจำเป็นที่ต้องได้รับการบริหารจัดการในแบบบูรณาการ เพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของสินค้าฮาลาลไทยในตลาดโลก
ดร.ศุภวรรณ ตีระรัตน์ ผู้อำนวยการสถาบันอาหาร กล่าวถึงศูนย์อุตสาหกรรมฮาลาลว่า ช่วงปีแรกหรือปีที่ 2 จะดูแลเรื่องโครงสร้างและการบริหารจัดการ 2 เรื่องหลัก คือการขับเคลื่อนทำตลาดต่างประเทศและบูรณาการความร่วมมือ กลุ่มฮาลาลที่มีทั้งอาหาร สิ่งทอ และ wellness และควบคุมมาตรฐานการผลิต ในอนาคตต้องการให้ศูนย์พัฒนาฮาลาลเป็นตัวขับเคลื่อนให้ประเทศไทยเป็นหนึ่งในอาเซียนหรือฮับด้านฮาลาล โดยตั้งเป้าว่าเพิ่มผู้ประกอบการให้มากขึ้น คาดหวังว่าภายใน 5 ปีนอกจากตัว GDP และผลิตภัณฑ์การส่งออกจะเพิ่มขึ้นปีละ 1.2% แล้ว ยังหวังเรื่องการจ้างงานในกลุ่มฮาลาล product ทั้งหลายประมาณแสนกว่าคนต่อปี
อ่านข่าว : ครม.เคาะเพิ่ม 36 ประเทศ-ดินแดน "วีซาฟรี" ดึงรายได้เข้าประเทศ
สถาบันวิจัยเศรษฐกิจป๋วยฯ ชี้ "Climate change" กระทบมิติเศรษฐกิจ