เมื่อวันที่ 27 พ.ค.2567 ทีมงานเพจสายไหมต้องรอดพร้อมด้วย น.ส.ทัศนีย์ อายุ 52 ปี เดินทางมาที่ สภ.ประตูน้ำจุฬาลงกรณ์ อ.ธัญบุรี จ.ปทุมธานี เพื่อลงบันทึกประจำวันพร้อมให้ข้อมูลกับตำรวจและศูนย์ดำรงธรรม อ.ธัญบุรี
หลังกู้เงินมาจำนวน 10,000 บาท เมื่อประมาณ 12 ปีก่อน แต่จ่ายดอกเบี้ยไปกว่า 2,600,000 บาท แต่ต้นไม่ลดลง หากไม่มีเงินส่งดอกเบี้ย ยอดหนี้ก็จะทบต้นไปเรื่อย จนทำให้ส่งไม่ไหว และเข้าร้องขอความช่วยเหลือจากเพจ สายไหมต้องรอด
ผู้กู้ เปิดเผยว่า ที่ผ่านมายอมรับว่าลำบากมาก หาเงินมาได้เท่าไหร่ก็ต้องโอนจ่ายให้เขา ถึงเขาไม่ได้มาดุด่า แต่ก็โทรมากระตุ้นตลอด ที่ผ่านมาเป็นการส่งดอกเบี้ยทั้งสิ้น แต่ต้นยังอยู่เท่าเดิม โดยดอกเบี้ยยอดเพิ่มขึ้นมาเรื่อย ๆ โดย 3 ปี หลังมานี้ ตนส่งดอกเบี้ยวันละ 1,000 บาท ปัจจุบันยังค้างต้นอยู่ 280,000 บาท วันไหนที่ไม่มีเงินส่งดอกเบี้ยต้องไปกู้มาใหม่ เพื่อส่งดอกเบี้ย
จากการสอบถามข้อมูล ทราบว่า เจ้าหนี้ยอมยกหนี้ให้ และทางตำรวจจะติดต่อเจ้าหนี้มาไกล่เกลี่ยกัน โดยจะให้ความเป็นธรรมทั้ง 2 ฝ่าย สำหรับการปล่อยกู้เกินกว่าที่อัตราที่กฏหมายกำหนด เจ้าหน้าที่ตำรวจจะหาพยานหลักฐานมาประกอบหากเข้าข่าย ความผิดใดก็จะดำเนินการทางกฏหมายต่อไป
นายสมยศ พลสว่าง ปลัดอำเภอธัญบุรี เปิดเผยว่า ที่ผ่านมากระทรวงมหาดไทย เปิดระบบรับลงทะเบียน ขอความช่วยเหลือแก้หนี้นอกระบบ เมื่อลงทะเบียนแล้วจะมีการเรียกผู้ลงทะเบียนมาให้ข้อมูลเพิ่มเติม เพื่อเชิญทั้ง 2 ฝ่ายมาทำการไกล่เกลี่ยกันที่ศูนย์ดำรงธรรม หากมีการตกลงกันได้ลงลายลักอักษรไว้เป็นหลักฐาน
ส่วนกรณีนี้ ผู้เสียหายได้เข้าลงทะเบียนไว้ และ ทางอำเภอได้ทำหนังสือเชิญมาให้ข้อมูลเพิ่มเติมกับทางอำเภอ แต่ผู้เสียหายไม่มา ทำให้ไม่ได้มีการดำเนินการต่อ สำหรับ อ.ธัญบุรี มีผู้ลงทะเบียนขอความช่วยเหลือแก้หนี้นอกระบบกว่า 400 ราย เจรจาไกล่เกลี่ยไปแล้ว 17 ราย
อ่านข่าวอื่น : "ริมาล" ถล่มอินเดีย-บังกลาเทศกระทบนับล้านตายอย่างน้อย 16 คน