วันนี้ (23 พ.ค.2567) จากกรณีช่วงกลางดึกที่ผ่านมา ร.ต.อ.จักรกฤกษ์ โดรณ รอง สว.(สอบสวน) สภ.บางใหญ่ จ.นนทบุรี พร้อมเจ้าหน้าที่มูลนิธิร่วมกตัญญู เดินทางเข้าตรวจสอบหลังจากได้รับแจ้งมีเด็กชาย 3 คน ถูกไฟคลอกเสียชีวิต เหตุเกิดภายในวัดสวนแก้ว ต.บางเลน อ.บางใหญ่ จากนั้นจึงประสานแพทย์เวรจากสถาบันนิติวิทยาศาสตร์เข้าตรวจสอบ
เจ้าหน้าที่ตรวจสอบพบกุฏิทั้งหลังถูกเพลิงไหม้ได้รับความเสียหาย ภายในกุฏิพบร่างเด็กชายเสียชีวิต 3 คน สภาพนอนกอดกันอยู่ตรงประตูทางออก และไฟไหม้ร่าง เป็นเด็กชายฝาแฝดอายุ 11 ปี 2 คน คือ น้องเอ็มและน้องเอส และเด็กชายอายุ 9 ปี 1 คน รวม 3 คน โดยเป็นเด็กที่ทางวัดอุปการะและส่งเรียนหนังสือ
จากการตรวจสอบเบื้องต้นพบว่า ที่โคนเสากุฏิเป็นเหล็ก มีปลั๊กไฟติดตั้ง และมีกระแสไฟฟ้ารั่ว เจ้าหน้าที่การไฟฟ้าจึงได้ทำการตัดกระแสไฟ ขณะที่การสอบถามเจ้าหน้าที่ของทางวัด ทราบว่าปกติแล้ว 2 พี่น้องฝาแฝดจะพักอาศัยอยู่กุฏิหลังเก่านี้ ก่อนเกิดเหตุมีเด็กชายอีก 3 คน ลงมาเล่นกับพี่น้องฝาแฝด จากนั้นเด็ก 2 คนกลับไปก่อน หนึ่งในนั้นเป็นแฝดอีกคู่กับเด็กชาย 9 ขวบที่เสียชีวิตพร้อมกับแฝดอายุ 11 ปี โดยกลับไปนอนบนตึกที่อยู่ใกล้กันก่อนที่จะเกิดไฟไหม้ขึ้น เบื้องต้นอยู่ระหว่างสอบสวนหาสาเหตุในครั้งนี้
ล่าสุดเมื่อเวลา 09.00 น. นายชุ้น ณัฐเดช กังสุกุล ปลัดจังหวัดนนทบุรี พร้อมด้วยป้องกันจังหวัดนนทบุรี นายอำเภอบางใหญ่ และหัวหน้าส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง ลงพื้นที่ตรวจสอบบริเวณจุดเกิดเหตุภายในวัดสวนแก้ว ประตู 3 หลัง ซึ่งทางคณะได้สอบถามเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจากเจ้าหน้าที่ของวัดโดยละเอียด เพื่อรายงานผู้ว่าราชการจังหวัดนนทบุรี และหาแนวทางช่วยเหลือต่อไป
ขณะที่พระลูกวัด เล่าว่า เมื่อช่วงกลางดึกที่ผ่านมา ได้จำกุฏิใกล้กับศาลาที่เกิดเหตุ และได้ยินเสียงเด็กเล่นกันตามปกติ กระทั่งเห็นแสงไฟ คิดว่าเด็กเอาไฟฉายมาส่องเล่น แต่เห็นว่าเป็นเวลาดึกมากแล้ว จึงเดินไปที่ศาลาดังกล่าวเพื่อตักเตือนให้เด็กเข้านอน แต่เมื่อไปถึงพบว่าเป็นแสงเพลิงลุกไหม้อยู่ภายในศาลา จึงรีบวิ่งไปบอกให้เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยของวัดนำถังมาช่วยดับเพลิง หลังเพลิงสงบจึงพบว่ามีเด็กถูกไฟคลอกเสียชีวิต 3 คน จึงรู้สึกสลดใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
นางจำลอง อินยาศีร อายุ 64 ปี ย่าของเด็กชายฝาแฝดอายุ 11 ปี พร้อมด้วยนายชัยเดช ลุง อายุ 60 ปี รวมทั้งนางต้อยผู้เป็นป้าของเด็ก เดินทางมาที่วัดและร้องไห้เศร้าโศกเสียใจ
ย่าของเด็กชาย เล่าทั้งน้ำตา ว่า หลานชายทั้งสองคนเพิ่งบวชสามเณรภาคฤดูร้อน เป็นเวลา 1 เดือน ก่อนที่จะสึกเพื่อกลับไปเรียนหนังสือ ทางหลวงพ่อพระพยอม เจ้าอาวาสวัดรักใคร่เอ็นดูเนื่องจากเป็นเด็กชายฝาแฝด พูดกับตนเองเสมอว่า ที่วัดมีโรงเรียนหากต้องการมาเรียนก็ได้ ตนเองจึงนำหลาน 2 คน ซึ่งปกติก็เป็นเด็กร่าเริ งนิสัยดี มาฝากไว้ที่วัดได้ 2 สัปดาห์ ไม่คิดว่าหลานจะเสียชีวิตในสภาพแบบนี้ จึงรู้สึกเสียใจอย่างมาก
ต่อมาเมื่อเวลา 11.00 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจจากกองพิสูจน์หลักฐานภูธรจังหวัดนนทบุรี เข้าตรวจสอบยังจุดเกิดเหตุเพลิงไหม้ โดยเก็บหลักฐานการพิสูจน์ในครั้งนี้ คาดว่าใช้เวลา 2 สัปดาห์ถึงจะทราบผล ซึ่งในวันนี้ เจ้าหน้าที่จากสำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัดนนทบุรี เจ้าหน้าที่กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ เดินทางมาตรวจสอบหาข้อมูลหลักฐานที่วัดสวนแก้ว
ด้านพระพยอม กัลยาโณ เจ้าอาวาสวัดสวนแก้ว แถลงข่าวต่อสื่อมวลชน โดยกล่าวว่า เป็นครั้งแรกที่เกิดเหตุเพลิงไหม้กุฏิวัด ซึ่งเป็นเรื่องบังเอิญที่เกิดเหตุตรงกับวันวิสาขบูชา เมื่อเทศน์แล้วเสร็จจึงไปเวียนเทียนและแยกย้ายกัน เด็กจึงคิดว่าไม่มีผู้ใหญ่อยู่แล้ว จึงไปเล่นกัน ทำให้เกิดเหตุไม่คาดฝันขึ้น โดยก่อนหน้านี้มีเด็กรุ่นแรก ๆ ที่อยู่ในวัดถึง 100 คน ขณะนี้จำนวนเด็กที่อยู่ในวัดลดลง
เป็นเรื่องคาดไม่ถึง เด็ก 2 คน เพิ่งได้ 2 วันแล้วหยุดเรียนในวันวิสาขบูชา เพราะเด็กน้อยลงไปเล่นกัน 5 คน หากเด็กไม่ขึ้นมาก่อนอาจจะมีถึง 5 ศพก็เป็นได้
พระพยอม กล่าวว่า วัดสวนแก้วมีนโยบายให้ทุนการศึกษาเด็ก และรับฝากเด็กที่ไม่มีญาติ หรือไม่มีกำลังจะส่งลูกหลานเรียน โดยตั้งงบประมาณสนับสนุนทุนการศึกษาเด็กปีละ 3,000,000-4,000,000 บาท ซึ่งเด็กเพิ่งกลับไปได้ 8 วัน และมารอบใหม่ 280 คน โดยมานอนพักที่วัด และก่อนหน้านี้ไม่เคยเกิดเหตุเพลิงไม้ ส่วนค่าใช้จ่ายต่าง ๆ ใช้เงินจากมูลนิธิวัดสวนแก้วดูแล โดยยืนยันว่าไม่มีอะไรแอบแฝงกับเด็ก และเหตุการณ์ครั้งนี้เป็นเหตุรุนแรงที่สุดที่เกิดขึ้นในวัดสวนแก้ว
อ่านข่าว ไฟไหม้กุฏิเก่าวัดสวนแก้ว เด็กวัดเสียชีวิต 3 คน