วันนี้ (16 พ.ค.2567) พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร. เข้ายื่นหนังสือถึงประธานรัฐสภา แสดงความประสงค์ริเริ่มรวบรวมรายชื่อประชาชน 20,000 ชื่อ เพื่อให้ประธานรัฐสภายื่นต่อประธานศาลฎีกาให้ตั้งกรรมการตรวจสอบไต่สวน และนำไปสู่การถอดถอนคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) 1 คน แต่ไม่ขอเปิดเผยชื่อ ซึ่งสงสัยว่ามีพฤติกรรมร่ำรวยผิดปกติ ทุจริตต่อหน้าที่ ฝ่าฝืนไม่ปฏิบัติตามมาตรฐานทางจริยธรรมอย่างร้ายแรง
ซึ่งนายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานรัฐสภา มอบหมายให้นายคัมภีร์ ดิษฐากรณ์ โฆษกประธานสภาผู้แทนราษฎร และนายมุข สุไลมาน เลขานุการประธานสภาฯ เป็นผู้รับหนังสือแทน
พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ กล่าวว่า การยื่นตรวจสอบ ป.ป.ช.เป็นปรากฏการณ์ใหม่ที่แสดงถึงพลังของประชาชน นับตั้งแต่มีการร่างกฎหมายรัฐธรรมนูญปี 2560 ซึ่งครั้งแรกที่มีการใช้สิทธิ์ตามรัฐธรรมนูญในการยื่นถอดถอนกล่าวหาเจ้าหน้าที่ของรัฐ องค์กรอิสระ ถือเป็นเป็นมิติใหม่ของประเทศไทย เพราะที่ผ่านมามีแต่ประชาชนยื่นแก้ไขกฎหมายต่างๆ แต่ยังไม่เคยมีการรวบรวมรายชื่อแสดงพลังถอดถอนองค์กรอิสระ
พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ กล่าวอีกว่า ได้ลงชื่อเป็นชื่อแรกและจากวันนี้ (16 พ.ค.) ไปจะใช้เวลาประมาณ 2 สัปดาห์รวบรวมรายชื่อเพิ่มเติม โดยจะเริ่มเปิดให้ลงชื่อที่ จ.สงขลา ในวันที่ 17 พ.ค. ตั้งแต่เวลา 08.00น. ซึ่งเป็นจังหวัดของบ้านเกิดตนเองเป็นที่แรกในช่วงเช้า ส่วนช่วงบ่ายจะตั้งโต๊ะรวบรวมรายชื่อที่ จ.พัทลุง
และในวันถัดไปจะตั้งโต๊ะรวบรวมรายชื่อที่ จ.นครศรีธรรมราช จากนั้นจะไป จ.เชียงใหม่ อุดรธานี ชลบุรี และขอนแก่น ซึ่งเป็นไปตามกฎหมายหากพบเจ้าหน้าที่มีพฤติกรรมดังกล่าว ประชาชนสามารถรวบรวมรายชื่อ 20,000 ชื่อยื่นต่อประธานรัฐสภา เพื่อให้ยื่นต่อประธานศาลฎีกา และประธานศาลฎีกาจะตั้งคณะกรรมการอิสระขึ้นมาไต่สวนตรวจสอบตามขั้นตอน
สาเหตุที่มาเพราะประชาชนส่งข้อมูลมามากสำหรับคณะกรรมการ ป.ป.ช.คนนี้ แต่ไม่ขอเปิดเผยรายชื่อ เชื่อว่าสังคมทราบอยู่แล้ว นอกจากนี้ยังมีเจ้าหน้าที่ ป.ป.ช.ส่งข้อมูลมาให้ตนด้วย
พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ กล่าวว่า ดูข้อมูลจากประชาชนและเจ้าหน้าที่รัฐที่ถูกกระทำ จากการทำหน้าที่ของกรรมการ ป.ป.ช.คนดังกล่าวที่น่าสงสัยว่าร่ำรวยผิดปกติ ทุจริตต่อหน้าที่ หลังจากวันนี้ (16 พ.ค.) ขอให้สื่อไปสอบถามจากเจ้าหน้าที่ ป.ป.ช.เพราะหากอยากรู้ข้อมูลในองค์กรก็ต้องถามเจ้าหน้าที่ในองค์กร ซึ่งจะเป็นอุทาหรณ์ว่าองค์กรอิสระ เมื่อมาทำหน้าที่แล้วจะต้องเป็นหลักประกันด้านความยุติธรรมให้ประชาชน รวมถึงเจ้าหน้าที่รัฐทุกคน
พร้อมย้ำว่าไม่ขอเปิดเผยชื่อกรรมการ ป.ป.ช.ที่ยื่นถอดถอน โดยระบุเพียงว่าได้ส่งหลักฐานในหนังสือหมดแล้วและเป็นการยื่นกรรมการเพียงคนเดียว ซึ่เชื่อว่าจะมีผู้ร่วมลงชื่อมากกว่า 20,000 คน ยืนยันไม่มีความขัดแย้งส่วนตัวและขณะนี้ยังอยู่ในสถานะรอง ผบ.ตร. เพียงแต่ ผบ.ตร.ไม่ได้มอบงาน ส่วนเรื่องการลงสมัคร สว.ยังไม่ได้คิดเพราะยังเป็นข้าราชการ แต่จะดูอีกที
“บิ๊กโจ๊ก” เชื่อศาลยกฟ้อง จนท.ค้นบ้านไม่กระทบคืนตำแหน่ง
นอกจากนี้ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ยังกล่าวถึงกรณียกฟ้องเจ้าหน้าที่ที่บุกค้นบ้านว่าจะส่งผลต่อความเชื่อมั่นต่อกรณีที่ได้ยื่นร้องสำนักงานตำรวจแห่งชาติและ ป.ป.ช.หรือไม่นั้น
พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ระบุว่า ตนไม่ทราบว่าลูกน้องไปยื่นฟ้องอย่างไร แต่สำหรับตนยังไม่ได้ยื่นฟ้องอะไรทั้งสิ้น มีเพียงการยื่นต่อ ป.ป.ช. ซึ่งเป็นคนละส่วนกันและเป็นคนละเรื่องกับการกลับคืนสู่ตำแหน่ง เพราะการกลับคืนตำแหน่งเป็นเรื่องคำสั่งทางปกครอง ส่วนการฟ้องร้องเป็นเรื่องทางอาญาและใช้กฎหมายคนละฉบับ ส่วนความมั่นใจที่จะกลับเข้าไปสู่ตำแหน่งขอยังไม่ตอบ เพราะขณะนี้อยู่ในกระบวนการทั้งหมดแล้ว
ขณะที่การคัดเลือก ผบ.ตร.ที่ใกล้จะมาถึง พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ กล่าวว่า เป็นเรื่องของผู้บังคับบัญชา
ส่วนที่มีกระแสข่าวว่าทั้ง พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล และ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ จะกลับไปรับตำแหน่งที่สำนักงานตำรวจแห่งชาตินั้น พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ กล่าวว่า เป็นเรื่องของผู้บังคับบัญชาทั้งหมด โดยต้องถามนายกรัฐมนตรีในฐานะเป็นผู้บังคับบัญชาสูงสุดของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ แต่ในส่วนของตนยังทำหน้าที่ตามปกติ
อ่านข่าว
"รุ้ง-มายด์" บุกทำเนียบจี้รัฐบาลสอบ "บุ้ง ทะลุวัง" เสียชีวิต
“ขุนคลัง-ผู้ว่าแบงก์ชาติ” หนีสื่อวุ่น หลังนัดถกประเด็นเศรษฐกิจ
กกต.ไขคำตอบ สว.กลุ่มอาชีพ "สตรี" ความหมาย "กลุ่มอัตลักษณ์ และ ชาติพันธุ์"