ลีลาพญามังกร "ลุงป้อม" พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ เบอร์หนึ่งพรรคพลังประชารัฐ ขยับตัวครั้งใด ก็เรียกเสียงฮือฮา วันนี้นั่งแป้นเป็นประธานการประชุมใหญ่สามัญพรรคพลังประชารัฐ ครั้งที่ 1 ประจำปี 2567 โดยมี สมาชิกพรรคเข้าร่วมโดยพร้อมเพรียงกัน
ทั้ง “ผู้กองธรรมนัส “ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รมว.เกษตรและสหกรณ์ เลขาธิการพรรค นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รองหัวหน้าพรรค และ นายวราเทพ รัตนากร ผู้อำนวยการพรรคฯ สส.และ สมาชิกพรรคเข้าร่วม
พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ เดินทางเข้าร่วมประชุมใหญ่สามัญพรรคพลังประชารัฐ ครั้งที่ 1 ประจำปี 2567
ไฮไลต์ในการประชุมย่อมหนีไม่พ้น กระแสข่าวการปรับ "ครม.เศรษฐา 2" ซึ่งในส่วนของพรรคเพื่อไทยเกือบจะได้ข้อยุติแล้ว ส่วนโควต้าของพรรคพลังประชารัฐ ที่ส่งไปแล้ว 4 รายชื่อ
ประกอบด้วย “เบ็นซ์” นายอรรถกร ศิริลัทธยากร สส.ฉะเชิงเทรา, นายอนันต์ ผลอำนวย สส.กำแพงเพชร เขต 3 และนายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ อดีต รมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม และนายไผ่ ลิกค์ สส.กำแพงเพชร ที่หลุดจากการแต่งตั้ง ครม.ครั้งแรก แต่ก็มีกระแสข่าวมีชื่อติดโผในครั้งนี้อีกครั้ง
อ่านข่าว : ครม.เศรษฐา 1 / 2 สะเด็ดน้ำ “นายใหญ่” เคาะ-เคลียร์ลงตัว
ก่อนการประชุม นักข่าวไล่บี้ "ลุงป้อม" ถึงความเหมาะสมของ 4 รายชื่อ ซึ่งก็ถูกย้อนถามกลับมาว่า อยาก "รู้ไปทำไม" จนเมื่อประชุมเสร็จสิ้น เตรียมจะเดินทางกลับ "ลุงป้อม" ก็บอกว่า 4 รายชื่อเป็นเพียงกระแสข่าว
จนนักข่าวถามต่อว่า ชื่อเดียวหรือไม่ “บิ๊กป้อม” ย้ำว่า “ชื่อเดียว ๆ” และเมื่อถูกถามย้ำว่าใช่นายอรรถกร หรือไม่ "บิ๊กป้อม" ก็เผลอตอบว่า "ไม่ใช่" ก่อนที่จะแก้ว่า "ไม่รู้ ไม่รู้ ไม่บอก"
พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ เป็นประธานการประชุมใหญ่สามัญพรรคพลังประชารัฐ ครั้งที่ 1 ประจำปี 2567 โดยมี สมาชิกพรรคเข้าร่วมโดยพร้อมเพรียงกัน
ผ่านไปไม่ถึงครึ่งวัน "ไผ่ ลิกค์" สส.กำแพงเพชร ได้ตอบคำถามนักข่าวในลักษณะยอมรับว่าปรับ ครม.เที่ยวนี้ อาจไม่ทัน และน่าจะยังไม่มีชื่อของเขาในฐานะ รมช.เกษตรฯ แต่เจ้าตัวก็ไม่นอยด์ เพราะว่า กรณีคุณสมบัติของยังต้องส่งกฤษฎีกาชุดใหญ่ตีความ
อ่านข่าว : "อนันต์" รับ "บิ๊กป้อม"ชงชื่อเข้าโผ ปรับครม.เศรษฐา2
รวมถึง ในรายของ "อนันต์ ผลอำนวย" ที่อาจไม่ได้เป็นรัฐมนตรี ซึ่งอยู่ในสายของ สส.กำแพงเพชร ที่หากหลุดอาจทำให้พรรคแตกหรือไม่ ซึ่ง "ไผ่"ก็บอกว่า "ไม่มีหรอก" พรรคยังเหนียวแน่นดี
ส่วนอีกความเคลื่อนไหวในแวดวงการเมือง ที่น่าสนใจก็คือ อีกหนึ่งนักร้อง (เรียน) ชื่อดัง อย่าง "สนธิญา สวัสดี" ที่ถูกออกหมายจับในคดีหมิ่นประมาท พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส หัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย หลังไม่มาตามหมายเรียก
นายไผ่ ลิกค์ สส.กำแพงเพชร พรรคพลังประชารัฐ
แต่ตกบ่าย "สนธิญา" ก็เดินทางไปศาล โดยอ้างว่า "จำผิดวัน" ไม่ได้มีพฤติการณ์หลบหนี และคดีนี้ในศาลชั้นต้นได้ศาลพิพากษาไปแล้ว โดยถูกสั่งปรับไป 50,000 บ. จำคุก 8 เดือน และให้รอลงอาญา แต่ต่อมา "พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์" ได้ยื่นอุทธรณ์เพื่อเพิ่มโทษในคดีนี้
อ่านข่าว : "สนธิญา" รายงานตัวศาล หลังถูกออกหมายจับ คดีหมิ่นฯ "เสรีพิศุทธ์"
ขณะที่ แอ็กชั่นล่าสุดของ "สมาคมธนาคารไทย" ที่ถูกใจ "นายกฯนิด" เศรษฐา ทวีสิน นายกฯ และ รมว.คลัง หลังออกมาประกาศลดดอกเบี้ย MRR 0.25 % โดยเน้นลูกค้ากลุ่มเปราะบาง ลูกค้าบุคคล และ SME เป็นเวลา 6 เดือน เพื่อลดภาระดอกเบี้ย ตามที่ก่อนหน้านี้ "นายกฯนิด" ได้พูดคุยกับ 4 แบงก์ใหญ่ให้ช่วยปรับลดดอกเบี้ย
นายสนธิญา สวัสดี ที่ถูกออกหมายจับในคดีหมิ่นประมาท พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส หัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย หลังไม่มาตามหมายเรียก
"นายกฯ เศรษฐา" จึงได้โพสต์ขอบคุณที่ช่วยลดภาระให้ประชาชนและผู้ประกอบการที่หาเช้ากินค่ำ ได้ต่อลมหายใจให้สามารถนำกำไรไปต่อยอดในชีวิตได้
ล่าสุด ธนาคารรัฐทั้ง 6 แห่ง ต่างพาเหรดกันลดอัตราดอกเบี้ยทั้ง ธ.ออมสิน ธ.อาคารสงเคราะห์ ธ.พัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย ธ.เพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย และบรรษัทประกันสินเชื่ออุตสาหกรรมขนาดย่อม (บสย.) รวมถึงธนาคารอิสลามแห่งประเทศไทย
ธนาคารและสถาบันการเงิน ทั้ง 6 แห่ง พร้อมใจลดอัตราดอกเบี้ยลูกค้ารายย่อยทุกกลุ่มลง 0.25 % โดยมีผลตั้งแต่วันที่ 1 พ.ค.2567 เป็นระยะเวลา 6 เดือน ขณะที่ ธ.ก.ส.ได้ร่วมลดอัตราดอกเบี้ยสำหรับลูกค้ากลุ่มเปราะบางลง 0.25 % เป็นระยะเวลา 6 เดือนด้วยเช่นกัน เนื่องจากได้มีการพักชำระหนี้เกษตรกรไปแล้วก่อนหน้านี้
อ่านข่าว : แห่ลดดอกเบี้ย 0.25% นาน 6 เดือน แบงก์รัฐขานรับนโยบายรัฐบาล
ฟากของ "แบงก์พาณิชย์" ก็นำโดย "ธ.กรุงเทพ" ที่เป็นเจ้าแรกในการประกาศลดดอกเบี้ยลูกค้ารายย่อยชั้นดี (MRR) ลง 0.25 % มีผลตั้งแต่ 29 เม.ย.นาน 6 เดือน เช่นกัน
เรียกได้ว่า ท่าทีของธนาคารรัฐและธนาคารพาณิชย์ต่าง ๆ ต่างก็เด้งรับนโยบายของ "นายกฯนิด" แต่ในมุมของ ธนาคารแห่งประเทศไทย (แบงก์ชาติ) กลับมีท่าทีที่สวนทางกับรัฐบาลมาอย่างต่อเนื่อง ทั้งการยืนหยัดไม่ลดอัตราดอกเบี้ยนโยบาย แม้นายกฯจะส่งสัญญาณมาแล้วหลายครั้ง แต่ก็ไม่มีสัญญาณตอบรับจาก "ผู้ว่าการฯแบงก์ชาติ" ในการปรับลดดอกเบี้ยแต่อย่างใด
อ่านข่าว : ส.ธนาคารไทย ช่วยกลุ่มเปราะบาง ลดดอกเบี้ย MRR 0.25 %
กรณีล่าสุดอย่างการออกหนังสือด่วนให้ รัฐบาลทบทวนนโยบายดิจิทัลวอลเล็ต แจกเงิน 10,000 บ.วงเงินรวม 500,000 ล้านบาท
ทำให้ขณะนี้เริ่มมีการตั้งข้อสังเกตกันมากขึ้นว่า ความขัดแย้งระหว่างรัฐบาลและแบงก์ชาติ จะนำไปสู่การ ปลด "เศรษฐพุฒิ สุทธิวาทนฤพุฒิ" ผู้ว่าการแบงก์ชาติหรือไม่
อย่างไรก็ตามแม้ว่า อำนาจในการปลดผู้ว่าฯแบงก์ชาติจะอยู่ที่ "รมว.คลัง" ซึ่ง ก็คือ "นายกฯนิด" ที่ดูแลอยู่ในปัจจุบัน แต่ตามขั้นตอนก็จะต้องเสนอสู่ที่ประชุม ครม. และ ที่สำคัญคือ ต้องมีความประพฤติเสื่อมเสียอย่างร้ายแรงหรือทุจริตต่อหน้าที่ หรือ บกพร่องในหน้าที่อย่างร้ายแรงหรือ หย่อนความสามารถ จึงจะสามารถปลดผู้ว่าฯแบงก์ชาติได้
หากย้อนไปในอดีต มีคำสั่งปลดผู้ว่าการฯแบงก์ชาติมาแล้ว 4 ครั้ง คือ 1.การปลดนายโชติ คุณะเกษม ผู้ว่าแบงก์ชาติคนที่ 6 ในสมัยจอมพลสฤษดิ์ ธนะรัชต์ เหตุผลคือ กรณีพัวพันกรณีจ้างต่างชาติพิมพ์ธนบัตร
นายเศรษฐา ทวีสิน นายกฯ และ รมว.คลัง
2.การปลดนายนุกูล ประจวบเหมาะ ผู้ว่าแบงก์ชาติคนที่ 10 ในยุคที่นายสมหมาย ฮุนตระกูล เป็น รมว.คลัง ในรัฐบาล พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ด้วยเหตุผลว่า เนื่องจากนายนุกูล อยู่ในตำแหน่งมาครบ 4 ปีแล้ว จึงเห็นสมควรให้ผู้เหมาะสมมาดำรงตำแหน่งสืบแทน”
3.การปลดนายกำจร สถิรกุล ผู้ว่าฯแบงก์ชาติคนที่ 11 ในยุคของนายประมวล สภาวสุ เป็น รมว.คลัง ซึ่งขณะนั้นมีความขัดแย้งเรื่องอัตราดอกเบี้ย
4.การปลด ม.ร.ว.จัตุมงคล โสณกุล ผู้ว่าฯแบงก์ชาติคนที่ 16 ในสมัยของนายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ เป็น รมว.คลัง ในสมัยรัฐบาล "ทักษิณ ชินวัตร" ซึ่งครั้งนั้นไม่มีการ ระบุเหตุผล ท่ามกลางกระแสข่าวความขัดแย้งเชิงนโยบายเรื่องการกำกับดูแลค่าเงินบาท และการผ่อนคลายเกณฑ์การปล่อยสินเชื่อของธนาคารพาณิชย์ และเรื่องอัตราดอกเบี้ย ทำให้ยังต้องจับตาดูว่า ในรัฐบาล "นายกฯนิด" จะมีการปลดผู้ว่าฯแบงก์ชาติคนที่ 5 หรือไม่
มงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์ อดีต สส.บัญชีรายชื่อ และอดีตหัวหน้าพรรคไทยศรีวิไลย์ เข้าพบ นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ก่อนเดินทางเข้าสมัครเป็นสมาชิกพรรคประชาธิปัตย์
ทิ้งทวนปิดท้ายที่ "พี่เต้" มงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์ อดีต สส.บัญชีรายชื่อ และอดีตหัวหน้าพรรคไทยศรีวิไลย์ เดินทางเข้าสมัครเป็นสมาชิกพรรคประชาธิปัตย์ เพราะต้องการเข้ามาช่วยพรรคพระแม่ธรณีบีบมวยผม ทวงคืนความนิยมและต้องการทดแทนบุญคุณ "เสี่ยต่อ" เฉลิมชัย ศรีอ่อน หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ เพราะได้เป็น สส.ครั้งแรก ก็เพราะได้รับความช่วยเหลือจากนายเฉลิมชัย และประกาศพร้อมมาเป็นแขนเป็นขาให้ "ประชาธิปัตย์" เดินไปข้างหน้า
ต้องจับตาดูว่า "พี่เต้" มาเที่ยวนี้ จะทำให้ "เสี่ยต่อ" เฉลิมชัย ได้แต้มเพิ่มหรือลดลงจากบรรดาแฟนคลับค่ายสีฟ้า
นายแบงก์ มอง ปรากฏการณ์นายกฯ สั่งแบงก์พาณิชย์ลดดอกเบี้ย หวังการเมืองทำลายเครดิตแบงก์ชาติ พร้อมจับตาแบงก์พาณิชย์ยอมลดกำไรตัวเองหรือไม่#แบงก์ #ธนาคาร #ลดดอกเบี้ย #แบงก์ชาติ #ธนาคารแห่งประเทศไทย #ข่าวไทยพีบีเอส #ข่าวที่คุณวางใจ #ThaiPBSnews #ThaiPBS pic.twitter.com/lDzJToLVwa
— Thai PBS News (@ThaiPBSNews) April 26, 2024
อ่านข่าว : ครม.เศรษฐา 1 / 2 สะเด็ดน้ำ “นายใหญ่” เคาะ-เคลียร์ลงตัว