ค้นหา
ทีวีออนไลน์
เว็บไซต์ในเครือ
เว็บไซต์บริการ

จ่อประกาศ 2 ตำบลพื้นที่ประสบสาธารณภัย ไฟไหม้ "วิน โพรเสส"

สิ่งแวดล้อม
23 เม.ย. 67
11:03
3,288
Logo Thai PBS
จ่อประกาศ 2 ตำบลพื้นที่ประสบสาธารณภัย ไฟไหม้ "วิน โพรเสส"
อ่านให้ฟัง
00:00อ่านข่าวให้ฟังโดย Botnoi Voice เว็บแอปพลิเคชันสำหรับสร้างเสียงจากข้อความด้วย AI (Text to Speech)
เร่งระดม "โฟม" ดับไฟไหม้สารเคมีกากของเสีย "วิน โพรเสส" หลังไฟไหม้มาราธอน 20 ชม.ยังเอาไม่อยู่เหตุเชื้อเพลิงในโกดังเยอะ คพ.ตรวจพบ VOCs แต่ยังไม่เกินมาตรฐาน-ยังไม่วางใจคุมรัศมี 7 กม.ตรวจมลพิษ จ่อประกาศ 2 ตำบลพื้นที่ประสบสาธารณภัย

ความคืบหน้ากรณีไฟไหม้โกดังเก็บกากของเสียอุตสาหกรรมและสารเคมีอันตราย ในพื้นที่บริษัท วิน โพรเสส จำกัด ต.บ้านค่าย จ.ระยอง

วันนี้ (23 เม.ย.2567) น.ส.ผานิต รัตสุข ผอ.กองจัดการกากของเสียและสารอันตราย กรมควบคุมมลพิษ (คพ.) ให้สัมภาษณ์ไทยพีบีเอสออนไลน์ ว่า จากการติดตามสถานการณ์ไฟไหม้โกดังเก็บกากของเสียอุตสาหกรรมผ่านมาถึง 20 ชั่วโมงยังไม่สามารถควบคุมเพลิงได้ทั้งหมด มีรายงานว่าทั้ง 5 โกดังที่เป็นจุดเก็บถังใส่น้ำมันดำ กากของเสียและโวเว้นท์ถูกไฟไหม้ไปเกือบทั้งหมด ทำให้ยังต้องติดตามมลพิษทางอากาศอย่างต่อเนื่องทั้งก่อนและหลังดับไฟ 

ภาพไฟไหม้โกดังกากอุตสาหกรรมและสารเคมี ของบ.วิน โพรเสส จำกัด  ต.บางบุตร อ.บ้านค่าย จ.ระยอง

ภาพไฟไหม้โกดังกากอุตสาหกรรมและสารเคมี ของบ.วิน โพรเสส จำกัด ต.บางบุตร อ.บ้านค่าย จ.ระยอง

ภาพไฟไหม้โกดังกากอุตสาหกรรมและสารเคมี ของบ.วิน โพรเสส จำกัด ต.บางบุตร อ.บ้านค่าย จ.ระยอง

น.ส.ผานิต กล่าวอีกว่า เมื่อวานนี้ (22 เม.ย.) หลังไฟไหม้ช่วงแรกและมีเสียงระเบิดจากน้ำมันดำที่อยู่ในโรงงาน ทางคพ.ประสานอพยพคนกลุ่มเสี่ยงในรัศมีใกล้โรงงานดังกล่าว เนื่องจากจะมีผลกระทบจากกลิ่นไฟไหม้ และมลพิษทางอากาศเนื่องจากโซเวนท์ที่ถูกไฟไหม้อาจทำให้ค่าสารอินทรีย์ระเหยง่าย (VOCs) เกินมาตรฐานได้ 

คพ.ลงพื้นที่ตรวจสอบมลพิษทางอากาศ 2 รอบช่วงเช้า-บ่ายตรวจเรื่องแก๊สพิษโดยตีวงรัศมี 10 กม.ท้ายลมจรอบโรงงาน เบื้องต้นตรวจพบ VOCs แต่ยังไม่เกินเกณ์มาตรฐาน ห่างจากโรงงานไปทางด้านทิศเหนือ 4 กม. และได้รับกลิ่นเหม็นไหม้ด้านท้ายลม

ทั้งนี้ทางคพ.จะยังติดตามสถานการณ์มลพิษอย่างต่อเนื่อง จนกว่าเหตุการณ์จะเข้าสู่สภาวะปกติ รวมทั้งต้องติดตามผลกระทบทางสิ่งแวดล้อมอื่นๆ ทั้งดิน น้ำและอากาศจากการเกิดไฟไหม้ครั้งนี้

อ่านข่าว "มหาดไทย" แจงเหตุอำเภองดทำบัตรประชาชน แค่รอทดสอบมาตรฐาน

ระดมโฟมไม่พอดับไฟ-เทียบเคสหมิงตี้  

เมื่อถามว่าทำไมถึงดับเพลิงได้ช้าใช้เวลานานข้ามคืน นางผานิต กล่าวว่า เนื่องจากโรงงานแห่งนี้รับกำกจัดกากของเสียและมีการเก็บของเสียอันตรายไว้ใน 5 อาคาร เช่่น ถัง 200 ลิตรที่เก็บน้ำมันดำ น้ำเสียปนเปื้อน

และตะกอนปนเปื้อน เศษวัสดุ ยางรถยนต์ พลาสติก แผงวงจรอิเล็กทรอนิกส์ เศษพลาสติก กองยิปซัม เถ้าลอย รวมทั้งการจัดเก็บน้ำเสียปนเปื้อน น้ำกรด และกากตะกอน จำนวนมาก ปัจจุบันถูกเพลิงไหม้ทั้งหมด ทำให้เกิดควันดำและมีแก๊สพิษซึ่งการดับต้องระดมใช้โฟมมาจัดการดับ 

ไฟไหม้ครั้งนี้มีลักษณะเดียวกับหมิงตี้ จ.สมุทรปราการ ต้องใช้โฟมปริมาณมากเพื่อคุมไฟจากสารเคมี จึงต้องติดตามมลพิษทางอากาศและกระทบสิ่งแวดล้อมหลังจากดับไฟ ขอให้ประชาชนติดตามทางศูนย์บัญชาการอย่าเพิ่งรีบอพยพกลับบ้าน   
แผนที่ตรวจสอบมลพิษทางอากาศ (ภาพกรมควบคุมมลพิษ)

แผนที่ตรวจสอบมลพิษทางอากาศ (ภาพกรมควบคุมมลพิษ)

แผนที่ตรวจสอบมลพิษทางอากาศ (ภาพกรมควบคุมมลพิษ)

นอกจากนี้ คพ.มีคำแนะนำการป้องกันตนเองของประชาชน ที่ได้รับผลกระทบอพยพออกจากพื้นที่ไปอยู่ในบริเวณทิศทางเหนือลมหรือพื้นที่ศูนย์อพยพที่หน่วยงานราชการกำหนด ในกรณีที่ไม่จำเป็นต้องอพยพให้ปฏิบัติตามแนวทางที่หน่วยงานราชการกำหนด

ส่วนการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ เจ้าหน้าที่หน่วยปฏิบัติการฉุกเฉินสารเคมีและเจ้าหน้าที่ดับเพลิง ในพื้นที่จุดเกิดเหตุและพื้นที่อันตราย (Hot zone) ให้สวมใส่ชุดป้องกันอันตรายส่วนบุคคลระดับสูงสุดในระดับ A หรือระดับ B ขึ้นอยู่กับชนิดและปริมาณสารเคมี โดยป้องกันระบบทางเดินหายใจ ดวงตาและผิวหนังทุกส่วนของผู้ปฏิบัติงาน

เจ้าหน้าที่ปฏิบัติงานในพื้นที่ปนเปื้อนสารเคมี และบริเวณควบคุมและขจัดสารเคมีที่มีความเสี่ยงระดับกลาง - ต่ำ (Warm Zone) ให้สวมใส่อุปกรณ์ป้องกันอันตรายส่วนบุคคลในระดับการปกป้องที่น้อยกว่าพื้นที่จุดเกิดเหตุและอันตราย เช่น ชุดป้องกันส่วนบุคคลระดับ C

เจ้าหน้าที่ปฏิบัติงานในพื้นที่ที่ไม่มีสารเคมีปนเปื้อน และเป็นที่ตั้งของศนย์บัญชาการในพื้นที่เกิดเหตุ(Support Zone) ให้สวมใส่ชุดป้องกันอันตรายส่วนบุคคลที่ไม่มีความเสี่ยง และคล่องตัวในการปฏิบัติงาน เช่น ชุดป้องกันส่วนบุคคลระดับ D

กรมควบคุมมลพิษ เข้าตรวจสอบสาร VOCs  และมลพิษทางอากาศในท้ายลมโรงงานไฟไหม้

กรมควบคุมมลพิษ เข้าตรวจสอบสาร VOCs และมลพิษทางอากาศในท้ายลมโรงงานไฟไหม้

กรมควบคุมมลพิษ เข้าตรวจสอบสาร VOCs และมลพิษทางอากาศในท้ายลมโรงงานไฟไหม้

เก็บกากของเสียอันตรายเพียบ

ข้อมูลจากกรมควบคุมมลพิษ ระบุว่า โกดังเก็บกากของเสียอุตสาหกรรมและสารเคมีอันตราย ในพื้นที่บริษัท วิน โพรเสส จำกัด มีทั้งหมด 5 อาคาร ประกอบด้วย อาคาร 1 จัดเก็บน้ำเสียปนเปื้อนและตะกอนปนเปื้อน อาคาร 2 บ่อตะกอนน้ำมัน อาคาร 3 เศษวัสดุ ยางรถยนต์ พลาสติก แผงวงจรอิเล็กทรอนิกส์

อาคาร 4 เก็บถัง IBC 1000 ลิตร และถัง 200 ลิตร และอาคาร 5 ส่วนหน้าอาคาร เศษวัสดุ ถัง IBC 1000 ลิตร เศษพลาสติก กองยิปซัม เถ้าลอย ส่วนกลางอาคาร ถัง 200 ลิตร และขยะทั่วไป ส่วนหลังอาคาร บ่อของเสีย และพื้นที่ระหว่างอาคาร 3 กับอาคาร 5 มีการจัดเก็บน้ำเสียปนเปื้อน น้ำกรด และกากตะกอน จำนวนมาก ปัจจุบันถูกเพลิงไหม้ทั้งหมด

อ่านข่าว เชื้อเพลิง 3 หมื่นถัง ขยายรัศมี 1 กม.อพยพหนีไฟไหม้ "วิน โพรเสส"

จ่อประกาศ 2 ตำบลพื้นที่ประสบสาธารณภัย

นายกัฬชัย เทพวรชัย รองผู้ว่าราชการจังหวัดระยอง ในฐานะผู้บัญชาการเหตุ การณ์ พร้อมด้วยส่วนราชการที่เกี่ยวข้องและ อปท.วางแผนเผชิญเหตุการควบ คุมพื้นที่เพลิงไหม้และลดความรุนแรง เพื่อจำกัดวงความเสียหายของพื้นที่อาคารเก็บกักวัสดุทั้ง 5 อาคาร

ขณะนี้ควบคุมเพลิงด้วยการฉีดโฟมและน้ำ ควบคู่กันไปด้วยนักดับเพลิงที่ผ่านการฝึกฝนมาโดยเฉพาะ ขณะนี้มีโฟมสารเคมีที่จะระงับเพลิงกว่า 7,000 ลิตร จากของ อบต.ต่างๆ และบริษัท ไออาร์พีซี จำกัด (มหาชน)

ขณะนี้เตรียมประกาศพื้นที่บางส่วนของ ต.บางบุตร และต.หนองบัว อ.บ้านค่าย เป็นพื้นพี่ประสบสาธารณภัย เพื่อระงับยับยั้งเหตุและให้ความช่วยประชาชนในพื้นที่

โดยมีผู้ประสบภัยบางส่วนเคลื่อนย้ายตัวเอง ไปยังที่พักพิงชั่วคราวของ อบต.บางบุตร และอบต.หนองบัว จำนวนกว่า 50 คน ซึ่งทาง อบต. ร่วมกับกำนัน และผู้ใหญ่บ้านในพื้นที่ช่วยกันดูแลให้ความช่วยเหลือในเบื้องต้น

"พิมพ์ภัทรา" สั่งสืบข้อเท็จจริงไฟไหม้วิน โพรเสส

ด้านน.ส.พิมพ์ภัทรา วิชัยกุล รมว.อุตสาหกรรม กล่าวว่า สั่งการไปยังปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม สำนักงานอุตสาหกรรมจังหวัดระยอง ให้ติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด และรายงานให้ทราบเป็นระยะ ให้สืบสวนข้อเท็จจริง เนื่องจากบริษัทดังกล่าวได้สั่งปิดไปแล้ว แต่ยังมีการเก็บสารเคมีอันตรายไว้ในบริเวณโรงงาน เมื่อเกิดเหตุเพลิงไหม้ จึงลุกลามเป็นวงกว้าง ดังนั้นจึงขอให้เร่งหาตัวผู้กระทำความผิดมาลงโทษ

เรื่องนี้ส่งผลกระทบกับประชาชนในวงกว้าง สั่งการให้มีการสอบสวนหาข้อเท็จจริง และสาเหตุของการเกิดเพลิงไหม้ในครั้งนี้อย่างเร่งด่วน 

อ่านข่าวอื่นๆ

"ปานปรีย์"​ เรียกถกนัดแรก คกก.เฉพาะกิจ​ฯ ติดตามสู้รบเมียนมา

“วราวุธ” ระบุยังไม่มีสัญญาณปรับ ครม.ต้องถามนายกฯ

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง