วันนี้ (4 เม.ย.2567) พ.ต.ต.ยุทธนา แพรดำ รองอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) รักษาราชการแทนอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ พร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจภูธรจังหวัดชัยนาท นำหมายศาลเข้าตรวจค้นพื้นที่เป้าหมาย 2 จุดใน จ.ชัยนาท โดยจุดแรกคือบ้านพักของนายชาญยุทธ และ น.ส.กานติมา และอีกจุดคือโรงสีแห่งหนึ่ง ซึ่งเป็นสถานที่ทำงานของทั้ง 2 คน
จากการตรวจค้นพบซิมโทรศัพท์ทั้งที่ใช้แล้วและยังไม่ได้เปิดใช้ 150 ชิ้น, โทรศัพท์มือถือ 20 เครื่อง, กล่องโทรศัพท์ 70 กล่อง, สมุดบัญชีเงินฝาก 120 เล่ม, คอมพิวเตอร์ตั้งโต๊ะและโน้ตบุ๊ก 10 เครื่อง และเอกสารและไฟล์ดิจิทัลเกี่ยวกับการทำธุรกรรมและข้อมูลที่เกี่ยวข้องอีกจำนวนมาก เจ้าหน้าที่จึงตรวจยึดไว้เป็นหลักฐาน นอกจากนี้ยังตรวจพบว่ามีการเปิดตู้เซฟกับธนาคารแห่งหนึ่งใน จ.ชัยนาท พนักงานสอบสวนคดีพิเศษจึงมีหนังสืออายัดตู้เซฟดังกล่าวเพื่อตรวจสอบ
สืบเนื่องจาก ดีเอสไอสืบสวนสอบสวนคดีพิเศษที่ 55/2566 โดยมีแอปพลิเคชันเงินกู้ส่วนบุคคลออนไลน์ มีพฤติการณ์ปล่อยเงินกู้โดยไม่ได้รับอนุญาตผ่านช่องทางออนไลน์ และมีแอปพลิเคชันปล่อยเงินกู้ที่เกี่ยวข้องอีกกว่า 80 แอปฯ โดยปล่อยกู้และเรียกเก็บดอกเบี้ยในอัตราร้อยละ 2,339.65 บาทต่อปี และกำหนดให้ชำระหนี้ภายใน 7 วันเท่านั้น หากไม่ชำระเงินภายในกำหนด จะมีกลุ่มคนโทรศัพท์ติดตามทวงหนี้ ข่มขู่ คุกคามลูกหนี้และบุคคลที่ปรากฎรายชื่อในสมุดโทรศัพท์ของผู้กู้
นอกจากนี้ยังพบว่า แอปฯ ดังกล่าวมียอดการดาวน์โหลดมากกว่า 1 ล้านครั้ง จนปรากฏข้อมูลน่าเชื่อว่านายชาญยุทธ และ น.ส.กานติมา เป็นเจ้าของแอปฯ และได้ใช้บัญชีเครือญาติและบัญชีม้าในการทำธุรกิจเงินกู้ออนไลน์ ซึ่งมีเงินทุนหมุนเวียนหลักพันล้านบาท
ด้านนายอังศุเกติ์ วิสุทธิ์วัฒนศักดิ์ ผอ.กองกิจการอำนวยความยุติธรรม กล่าวว่า ดีเอสไอได้รับการร้องเรียนจากผู้เสียหายที่หลงเข้าไปกู้เงินผ่านแอปฯ ดังกล่าวและต้องจ่ายดอกเบี้ยจำนวนมาก จนนำมาซึ่งการสืบสวนและเข้าตรวจค้นในครั้งนี้
หลังจากนี้จะนำตัวผู้ต้องสงสัยทั้ง 2 คนมาสอบสวนขยายผลว่ามีนายทุนรายใหญ่ หรือผู้มีอิทธิพลอยู่เบื้องหลังหรือไม่ เนื่องจากรายงานการสืบสวนพบว่ามีชาวต่างชาตินำเงินมาให้สองสามีภรรยาคู่นี้ในการบริหารจัดการปล่อยกู้
เบื้องต้น เจ้าหน้าที่ยังไม่มีแจ้งข้อหาใดโดยจะสืบสวนจากพยานหลักฐานที่ตรวจยึดได้ทั้งหมดก่อน ซึ่งเชื่อว่าในคอมพิวเตอร์จะมีข้อมูลรายละเอียดเกี่ยวกับผู้เสียหายอีกจำนวนมาก นอกจากนี้ยังต้องดูว่ากลุ่มผู้ต้องสงสัยได้ดำเนินการปล่อยกู้มาตั้งแต่ปีใด รวมถึงตรวจสอบจำนวนครั้งการปล่อยกู้ และยอดปล่อยกู้ผู้เสียหายแต่ละคน เพื่อนำไปพิจารณาต่อการเรียกมาแจ้งข้อหาตามกรรมตามวาระ
อ่านข่าวอื่นๆ
ป.ป.ท.ลุยตรวจ เครื่องออกกำลังกายสแตนเลส โผล่กลางเนินเขาเพชรบูรณ์ พรุ่งนี้
ใกล้เสร็จแล้ว ผลสอบนักข่าวรับเงิน รอ "บิ๊กโจ๊ก" ให้ข้อมูลก่อน 25 เม.ย.
ตร.ทลายโกดังเครื่องสำอางอ้างชื่อผลิตภัณฑ์ "วุ้นเส้น-หนิง"