วันนี้ (1 เม.ย.2567) นายณัฐวิชช์ เนติจารุโรจน์ พร้อมทีมทนายความของ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร. เข้ายื่นหนังสือกับผู้กำกับการ สน.เตาปูน ถึงข้อเท็จจริงที่ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ต้องการยื่นเพิ่มเติม จากที่เคยยื่นไปก่อนหน้านี้
นายณัฐวิชช์ กล่าวว่า กรณีของ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ที่ถูกกล่าวหาที่ สน.เตาปูน เป็นการกล่าวหาว่ามีเส้นเงินไปถึงบุคคลใกล้ชิดและผู้ใต้บังคับบัญชา ซึ่ง พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ยืนยันว่า ไม่มีเงินเส้นไหนไปถึงตัวเองและภรรยา ซึ่งหลักฐานที่พนักงานสอบสวนนำมาดำเนินคดีคือเรื่องเดิม โดยเป็นเรื่องของ พ.ต.ท.คริษฐ์ เกี่ยวกับบัญชีม้า ซึ่งใช้ในคดีของมินนี่ที่ สน.ทุ่งมหาเมฆ แต่พนักงานสอบสวนนำกลับมาดำเนินคดีอีกที่ สน.เตาปูน โดยระบุว่า พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ มีส่วนพัวพันถึงเส้นเงิน
ขณที่สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) มีมติรับไต่สวนเมื่อวันที่ 4 มี.ค. ฉะนั้นอำนาจในการไต่สวนต้องอยู่ที่ ป.ป.ช. อีกทั้งผู้บัญชาการตำรวจนครบาล ได้ตั้งพนักงานสอบสวนมาดำเนินคดีที่ สน.เตาปูน โดยใช้เส้นเงินเดิมมากล่าวหาอีก ซึ่งตนเองขอย้ำว่าไม่เคยมีเส้นเงินเส้นไหนไปถึง พล.ต.อ.สุรเชษฐ์
สำหรับกรณีของ BNK Master พบธุรกรรมการเงินของ น.ส.พิมพ์วิไล มีเส้นเงินไปถึงเจ้าหน้าที่ตำรวจชั้นผู้ใหญ่ เข้าข่ายความผิดตาม มาตรา 157 ไม่อยู่ในอำนาจของพนักงานสอบสวน ทนายความของรอง ผบ.ตร.ยังตั้งคำถามว่า ตั้งแต่แถลงข่าวจนถึงปัจจุบัน พนักงานสอบสวนได้ออกหมายเรียกหรือหมายจับตำรวจเหล่านี้แล้วหรือไม่ หากยัง เหตุจึงไม่ดำเนินการและเหตุใดถึงดำเนินการแต่กับ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ซึ่งรอง ผบ.ตร.ยืนยันยังไม่เคยได้รับหมายเรียก
นายณัฐวิชช์ กล่าวอีกว่า การออกหมายเรียกแต่ละครั้ง ควรเว้นระยะห่างประมาณ 15 วัน ก่อนจะออกหมายเรียกอีก 1 ครั้ง แต่กลับพบว่ามีการออกหมายเรียกแล้ว 3 ครั้ง นับรวมกันได้ 10 วัน ซึ่งส่วนตัวมองว่าเป็นเรื่องผิดปกติ ขณะที่ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ทำงานและใช้ชีวิตโดยเปิดเผย ไม่มีพฤติการณ์เลี่ยงไม่รับหมาย
นอกจากนี้ ทนายความยังตั้งข้อสังเกตอีกว่า สน.เตาปูน มีการกล่าวหา พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ แค่ฐานฟอกเงิน ซึ่งหาก พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ มีความผิดฟอกเงิน ต้องรู้ว่าเงินที่เกี่ยวข้องเป็นเงินที่มาจากความผิด มาจากเว็บพนัน และ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ เป็นเจ้าหน้าที่รัฐ ก็ควรจะแจ้งความผิดตามมาตรา 157 ด้วย แต่เหตุใดพนักงานสอบสวนจึงเลือกแจ้งความผิดเฉพาะฟอกเงิน จึงมองว่าพนักงานสอบสวนต้องการเก็บคดีไว้ดำเนินการเอง
ตามกฎหมาย ป.ป.ช. หากเจ้าหน้าที่ระดับสูงกระทำผิด อำนาจจะอยู่ที่ ป.ป.ช. ส่วนพนักงานสอบสวนมีหน้าที่รวบรวมข้อเท็จจริงเบื้องต้นและส่งเรื่องไปยัง ป.ป.ช.ภายใน 30 วัน ซึ่งมีการร้องทุกข์ตั้งแต่วันที่ 3 ธ.ค.2566 จนถึงปัจจุบัน เป็นเวลา 120 วันแล้ว ยังไม่มีการส่งเรื่องไป ป.ป.ช.
ส่วนกรณีวันที่ 29 มี.ค.ที่ผ่านมา กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) เผยแพร่ข้อมูลคดีเว็บพนัน BNK Master เข้าเงื่อนไขของดีเอสไอ 2 ข้อ คือ มีเงินหมุนเวียน 300 ล้านบาท และมีผู้ถูกกล่าวหาเป็นตำรวจระดับสูง ดีเอสไอพิจารณาว่าเป็นข้อเท็จจริงเดียวกับคดีมินนี่ที่ ป.ป.ช.รับเรื่องไว้แล้ว จึงมีมติส่งเรื่องให้กับ ป.ป.ช.พิจารณา ซึ่งอยู่ที่ ป.ป.ช.จะรับไต่สวนตามอำนาจหรือไม่ หาก ป.ป.ช.ไม่รับคดีไว้พิจารณา ดีเอสไอจะดำเนินการเอง ซึ่งนายณัฐวิชช์ ระบุว่า ส่วนตัวไม่ว่าจะมองมิติไหน พนักงานสอบสวนไม่มีอำนาจ เพราะอำนาจอยู่ที่ ป.ป.ช.และดีเอสไอ
อย่างไรก็ตาม เมื่อเวลา 08.50 น.ที่ผ่านมา พ.ต.ท. คริษฐ์ พร้อมนายไพโรจน์ กุจิรพันธ์ นายกสมาคมพนักงานสอบสวน ได้เดินทางไป สน.เตาปูน เพื่อแจ้งความเอาผิดผู้บัญชาการตำรวจนครบาลและคณะพนักงานสืบสวนสอบสวน ในฐานละเว้นปฏิบัติหน้าที่ มาตรา 157
อ่านข่าวอื่นๆ
"ทนายตั้ม" แจ้งความ "บิ๊กต่อ-ภรรยา" ข้อหาฟอกเงิน
DSI ส่งคำร้องคดีฟอกเงินเครือข่ายเว็บพนัน BNK Master ให้ ป.ป.ช.