วันนี้ (28 มี.ค.2567) ความคืบหน้ากรณีเรือบรรทุกสินค้า "ดาลี" สัญชาติสิงคโปร์ ชนบริเวณตอม่อสะพานในเมืองบัลติมอร์ รัฐแมรีแลนด์ สหรัฐฯ จนทำให้สะพานถล่ม เมื่อวานนี้ (27 มี.ค.2567) เวลา 01.30 น. ตามเวลาท้องถิ่น และมีทั้งคนและยานพาหนะร่วงลงสู่แม่น้ำเบื้องล่าง
ล่าสุดพบร่างผู้เสียชีวิตแล้วอย่างน้อย 2 คน จากผู้สูญหาย 6 คน โดยยังคงเดินหน้าค้นหาผู้สูญหายที่เหลือ
อ่าน : ช่วยแล้ว 2 เร่งค้นหาอีก 6 ผู้สูญหาย เหตุสะพานบัลติมอร์ถล่ม
ขณะที่เจ้าหน้าที่สอบสวนขึ้นไปยังเรือลำเกิดเหตุ เพื่อเก็บข้อมูลจากกล่องบันทึกข้อมูลการเดินทาง Voyage Data Recorder (VDR) ที่มีลักษณะคล้าย "กล่องดำ" ของเครื่องบินไว้แล้ว
หน่วยยามฝั่งสหรัฐฯ ระบุว่า บนเรือลำนี้มีน้ำมันเชื้อเพลิงอยู่มากกว่า 1,500,000 แกลลอน หรือ 5.68 ล้านลิตร และมีสินค้าที่จัดเป็นวัตถุอันตรายอยู่ด้วยจำนวนหนึ่ง แต่ขณะนี้ไม่พบว่ามีอันตรายต่อสาธารณชน ซึ่งลูกเรือทั้งหมด 22 คน ที่เป็นชาวอินเดียทั้งหมด ไม่ได้รับบาดเจ็บและยังคงอยู่บนเรือ
เผยคลิปเสียงเจ้าหน้าที่บัลติมอร์ ปิดสะพานก่อนเรือชน
นอกจากนี้ มีการเปิดเผยเสียงสนทนาผ่านวิทยุสื่อสาร ก่อนที่เรือสินค้าจะพุ่งชนสะพานฟรานซิส สกอตต์ คีย์ ซึ่งเป็นการพูดคุยระหว่างเจ้าหน้าที่ซึ่งประสานงานกันกลางดึก เพื่อให้ปิดสะพานไม่ให้รถขึ้น จากทั้ง 2 ฝั่ง รวมถึงให้เคลียร์รถและคนลงจากสะพานทั้งหมด ซึ่งในจำนวนนี้มีกลุ่มคนงานก่อสร้างรวมอยู่ด้วย ซึ่งเจ้าหน้าที่มีเวลาเพียงประมาณ 90 วินาทีเท่านั้น ก่อนที่เรือจะพุ่งชนตอม่อสะพาน
ขณะที่ความเห็นจากกลุ่มผู้เชี่ยวชาญด้านวิศวกรรมโยธาจากมหาวิทยาลัย Johns Hopkins ระบุว่า การสร้างสะพานให้แข็งแรงพร้อมรองรับและป้องกันการเสียหาย จากการถูกชนด้วยเรือขนาดใหญ่เป็นสิ่งที่ไม่สมเหตุสมผลในแง่ของต้นทุน
โดยในทางปฏิบัติอาจทำได้จริงด้วยการสร้างตอม่อสะพาน พร้อมโครงสร้างที่ป้องกันแรงกระแทกจากภายนอกได้แน่นหนา แต่ต้นทุนจะสูงเกินกว่าความจำเป็น หรือต่อให้สามารถสร้างได้เพื่อใช้งานจริง ผู้เชี่ยวชาญหลายคนเชื่อว่าหากถูกชนด้วยแรงกระแทกและน้ำหนักมากขนาดนี้ การป้องกันดังกล่าวก็ยังอาจจะไม่ได้ผลอยู่ดี
อ่าน : "ฮ่องกง" ผ่าน กม.ความมั่นคงฉบับใหม่ โทษสูงสุดคุกตลอดชีวิต
Marcos Alvarez นักวิเคราะห์จาก Morningstar DBRS ที่เชี่ยวชาญด้านการจัดอันดับการประกันภัยในระดับโลก ระบุว่า เหตุสะพานถล่มจากเรือสินค้าชนครั้งนี้อาจทำให้บริษัทประกันภัยต้องจ่ายค่าสินไหมชดเชยสูงถึงระหว่าง 2,000 - 4,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งจะเป็นค่าเสียหายที่มากที่สุดเป็นประวัติการณ์ในอุบัติเหตุการเดินเรือ
ส่วนตัวเลขความเสียหายต้องขึ้นอยู่กับระยะเวลาที่สะพานและเส้นทางเดินเรือใช้การไม่ได้ ซึ่งจะเกี่ยวข้องกับผลกระทบต่อการเดินเรือที่ท่าเรือบัลติมอร์ จึงทำให้ยังประเมินความเสียหายแน่ชัดไม่ได้ แต่เป็นไปได้ว่าค่าสินไหมทดแทนจะแซงหน้าเหตุเรือสำราญ Costa Concordia อับปางนอกชายฝั่งอิตาลีเมื่อปี 2012
ขณะที่การเก็บกู้ซากสะพานเพื่อเปิดเส้นทางเดินเรือ ผู้ชี่ยวชาญมองว่าอาจใช้เวลาหลายสัปดาห์หรือหลายเดือน แต่ไม่น่าจะถึงปีเพราะมีเทคโนโลยีในการเก็บกู้ชิ้นส่วนหรือเหล็กกล้า โดยภาพที่ถ่ายเมื่อวานนี้พบว่ามีเรือจำนวนมากทอดสมอรออยู่ทั้งขาเข้าและขาออกจากท่าเรือบัลติมอร์ ซึ่งเป็นท่าเรือใหญ่อันดับ 9 ของสหรัฐฯ
แต่ในส่วนของการก่อสร้างสะพานใหม่อาจจะใช้เวลานาน ซึ่งสำหรับสะพานที่พังถล่มลงไปใช้เวลาสร้าง 5 ปี ช่วงนี้การจราจรบนเส้นทางสำคัญผ่านสะพานฟรานซิส สกอตต์ คีย์ จะต้องกลายไปเป็นภาระของอุโมงค์ลอดอ่าว 2 แห่งในบัลติมอร์ รวมถึงทางหลวงระหว่างรัฐสาย 695 แทน เพราะปกติแล้วสะพานมีผู้ใช้งานวันละกว่า 34,000 เที่ยว ตามข้อมูลของหน่วยงานคมนาคมแมรีแลนด์ ซึ่งสถิติเมื่อปี 2023 ระบุว่า มีรถยนต์ส่วนตัวและยานพาหนะเชิงพาณิชย์ใช้สะพานมากกว่า 12.4 ล้านคัน
นอกจากนี้งบประมาณก่อสร้างสะพานใหม่อาจสูงถึง 600 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ หรือประมาณ 21,840 ล้านบาท
อ่าน : สำเร็จไปอีกขั้น! Starship บินทดสอบสำเร็จ หวังส่งมนุษย์ไปดวงจันทร์อีกครั้ง
สิงคโปร์แจงเรือชนสะพานตรวจสอบถูกต้องปีที่แล้ว
ด้านหน่วยงานการท่าเรือสิงคโปร์ ชี้แจงเรื่องเรือลำเกิดเหตุ ที่ NTSB เรียกว่า ดาลี หรือ เรือต้าหลี่ ระบุว่า มีใบรับรองถูกต้องและเคยผ่านการตรวจสอบ ในเดือน มิ.ย. และ ก.ย.ปี 2023
เจ้าของเรือที่จดทะเบียนคือบริษัท เกรซ โอเชียนของสิงคโปร์ ปัจจุบันเมอส์กบริษัทขนส่งทางทะเลเดนมาร์กเช่าเหมาลำเรือลำนี้ โดยเรือต้าหลี่เคยชนท่าเทียบเรือแอนต์เวิร์ปในเบลเยียมในปี 2016 การตรวจสอบเมื่อปีที่แล้วพบข้อบกพร่องในเครื่องยนต์ขับเคลื่อน
อ่านข่าวอื่น ๆ
ตำรวจสากลชี้ "ค้ามนุษย์อาเซียน" กลายเป็นวิกฤตโลก
ผบช.สอท. สั่งย้าย 2 ตำรวจ หลังถูกพาดพิงเส้นทางเงินเว็บพนัน
จับเครือข่ายพนันออนไลน์ ยึดทรัพย์ 18 ล้าน พบมีสมาชิก 2 แสนคน