เมื่อวันที่ 19 มี.ค.2567 สภานิติบัญญัติฮ่องกงผ่านกฎหมายความมั่นคงแห่งชาติฉบับใหม่ ซึ่งผ่านสภาอย่างรวดเร็วภายในเวลาเพียง 2 สัปดาห์หลังสมาชิกสภาเสนอร่างเมื่อวันที่ 8 มี.ค.
กฎหมายดังกล่าวเป็นที่รู้จักในชื่อมาตรา 23 กำหนดโทษสำหรับความผิด เช่น การก่อกบฏ ยุยงปลุกปั่นให้เกิดความแตกแยก การแทรกแซงจากภายนอก การจารกรรม การเปิดเผยความลับของรัฐ และอื่นๆ ซึ่งมีโทษจำคุกสูงสุดคือตลอดชีวิต
สมาชิกสภานิติบัญญัติฮ่องกง ระบุว่า กฎหมายดังกล่าวจำเป็นสำหรับการอุดช่องโหว่เพื่อความมั่นคงแห่งชาติ แม้ว่าเดิมทีจะมีกฎหมายความมั่นคงแห่งชาติจีนบังคับใช้จัดการกับนักเคลื่อนไหวเพื่อประชาธิปไตยอยู่ก่อนแล้ว หลังฮ่องกงเผชิญการประท้วงใหญ่ระลอกล่าสุดเมื่อปี 2019 ซึ่งนับตั้งแต่จีนบังคับใช้กฎหมายความมั่นคงแห่งชาติ มีผู้ถูกจับกุมไม่ต่ำกว่า 260 คน
สมาชิกสภานิติบัญญัติฮ่องกงลงะแนนเสียงมาตรา 23 กฎหมายความมั่นคงแห่งชาติฉบับใหม่
จอห์น ลี ผู้บริหารสูงสุดของเขตปกครองพิเศษฮ่องกง ระบุว่า มาตรา 23 จะอุดช่องโหว่กฎหมายของจีน ซึ่งเน้นที่การแบ่งแยกดินแดน การล้มล้างรัฐ การก่อการร้ายและการร่วมมือกับต่างชาติ
สำหรับมาตรา 23 เป็นกฎหมายที่ทางการฮ่องกงจ่อบังคับใช้มานานหลายสิบปี โดยตั้งแต่ปี 2003 มีความพยายามผ่านกฎหมายนี้ แต่เผชิญการประท้วงคัดค้าน โดยมีชาวฮ่องกงกว่าครึ่งล้านลงถนนประท้วง ทำให้ผู้บริหารสูงสุุดขณะนั้นถอนการเสนอร่างไป
การผ่านร่างกฎหมายดังกล่าวสร้างความกังวลแก่ทั้งชาวฮ่องกงและนักธุรกิจจากต่างประเทศ เนื่องจากเกรงกลัวการตีความการกระทำต่างๆ ภายใต้กรอบกฎหมายนี้
กระทรวงต่างประเทศสหรัฐฯ ระบุว่า อยู่ระหว่างการประเมินความเสี่ยงหลังการผ่านกฎหมายดังกล่าวของฮ่องกง ทั้งต่อชาวอเมริกันและธุรกิจอเมริกัน เนื่องจากบทบัญญัติที่กำหนดโทษของการกระทำผิดต่างๆ ระบุไว้อย่างคลุมเครือ และเชื่อว่าความเคลื่อนไหวนี้จะทำให้ฮ่องกงกลายเป็นสังคมปิดยิ่งกว่าเดิม
อ่านข่าวอื่นๆ
เมื่อคำสัญญาของนักการเมือง เป็นส่วนหนึ่งที่ JAL ล้มละลาย
โปรดเกล้าฯ แต่งตั้งนายทหารกลางปี 2567 จำนวน 233 นาย
ส.ท.ภ.มั่นใจเหตุต่างชาติทำร้ายคนไทย ไม่กระทบการท่องเที่ยว "ภูเก็ต"