รายงานพิเศษ : “เรือหลวงสุโขทัย” ผลสอบลับ “ทำไมเรือล่ม”

ผลตรวจสอบปัจจัยทำให้เรืออับปาง

คลื่นลมแรง

ในช่วงเวลาดังกล่าว ที่เรือหลวงสุโขทัยปฏิบัติภารกิจ กองทัพเรือรายงานว่า ขณะนั้นคลื่นสูงประมาณ 2.5 เมตร แต่พยากรณ์สภาพอากาศ ระบุว่า คลื่นจะสูงถึง 6 เมตร แต่สำหรับเรือรบคลื่นลม ไม่ใช่อุปสรรคทำให้เรือรบอับปางได้ง่าย ๆ เพราะเรือหลวงสุโขทัย คือเรือรบ เป็นเรือระดับคอร์เวต ไม่ใช่เรือทั่ว ๆ ไป มีขีดความสามารถรับมือ Sea State Level 6 คลื่นสูงถึง 6 เมตรได้ หากเรืออยู่ในสภาพพร้อมปฏิบัติภารกิจ

ภายในเรือแบ่งเป็นห้องซึ่งห้องที่ใหญ่ที่สุดคือห้องเครื่องยนต์ กินพื้นที่ตั้งแต่ชั้นใต้ดินที่ 1 หรือท้องเรือจนถึงชั้นใต้ดาดฟ้าเรือ และในชั้นใต้ดิน 1 หรือท้องเรือ ยังเป็นตำแหน่งที่ติดตั้งของเครื่องกำเนิดไฟฟ้า 4 เครื่อง

ภายในเรือถูกแบ่งเป็นห้องๆ และทุกห้องมีประตูผนึกน้ำ นั่นหมายความว่า หากมีน้ำรั่วเข้ามาไม่ว่าทางใด ประตูผนึกน้ำจะปิดไม่ให้น้ำไหลเข้าท่วมห้องอื่น ๆ ได้ คลื่น 6 เมตร จึงไม่ใช่สาเหตุหลัก ทำให้เรือหลวงสุโขทัยอับปาง

แต่ถ้าหากเรือหลวงสุโขทัย ไม่ได้อยู่ในสภาพพร้อมใช้งาน หรือประตูผนึกน้ำใช้การไม่ได้ ซีลกันน้ำขอบประตูเสื่อมคุณภาพ โอกาสทำให้รั่วซึมกระจายไปห้องต่าง ๆ ก็เป็นไปได้

อ่านข่าว : รายงานพิเศษ : ลึก-ลับ ผลสอบ “เรือหลวงสุโขทัย” ที่ยังไม่เปิดเผย

สภาพความพร้อมเรือหลวงสุโขทัย

เรือหลวงสุโขทัย มีรายงานเอกสารบันทึกการซ่อมบำรุง ครั้งสุดท้ายก่อนอับปาง ช่วง พ.ค.2564 – ม.ค.2564 งบประมาณกว่า 60 ล้านบาท ในรายงานการซ่อมบำรุง มีรายละเอียดดังนี้

1.สมอเรือ ในเอกสารส่งมอบเรือหลังการซ่อม ระบุว่า มอเตอร์ฝั่งขวาขัดข้อง หยุดการทำงานบางจังหวะ เนื่องจากเกิดสภาวะ Overload มอเตอร์ตัดการทำงาน
2.มาตรวัดแรงดันต่าง ๆ ในเรือหลวงสุโขทัยใช้การไม่ได้ เช่น เครื่องสูบน้ำไฟเมน 4 เครื่อง และมอเตอร์สูบน้ำใช้การ 2 เครื่อง มาตรวัดใช้งานไม่ได้บ้าง ไม่มีติดตั้งมาบ้าง

3.มอเตอร์น้ำจืด ที่ใช้การทั้งหมายเลข 1 และ 2 ไม่มีมาตรวัดแรงดันทางดูด เครื่องหมายเลขหนึ่งนี้ มีน้ำรั่วไหลบริเวณแกนพัดน้ำ ส่วนเครื่องหมายเลขสอง มีค่าความสั่นสะเทือนเกินเกณฑ์มาตรฐาน

4.เครื่องจักรหลายตัว มีค่าการสั่นสะเทือนผิดปกติ สูงเกินมาตรฐาน ดังนี้

4.1 เครื่องอัดลมกำลังต่ำ 2 เครื่อง
4.2 เครื่องสูบน้ำทะเลระบายความร้อนเครื่องไฟฟ้า 2 เครื่อง
4.3 เครื่องทำความเย็น
4.4 มอเตอร์น้ำจืด
4.5 มอเตอร์สูบน้ำสำรอง
4.6 เครื่องอัดลมกำลังต่ำ แม้ได้ติดตั้งเครื่องใหม่แทนตัวเดิม แต่กลับพบว่ามีแรงสั่นสะเทือนที่ผิดปกติ

4.7 เครื่องกำเนิดไฟฟ้า หมายเลข 4 ไม่ได้ทดสอบ เนื่องจากระบบควบคุมไม่พร้อม การขนานโหมด Auto ใช้การไม่ได้ นั่นหมายถึง เครื่องกำเนิดไฟฟ้าหมายเลข 4 อยู่ท้ายเรือเสีย ใช้ได้จริงเพียง 3 เครื่อง

5.ตัวเรือ : มีรายงานจากกองแผนการช่างของกรมอู่ทหารเรือ สำรวจเรือและออกรายงาน ลงวันที่ 12 ก.ย.2561 ระบุว่า มีแผ่นเหล็กแผ่นไหนบ้างของเรือหลวงสุโขทัย ที่มีความหนาต่ำกว่ามาตรฐานและต้องซ่อมแซมแก้ไข ซึ่งมีถึง 13 จุด

ผลการตรวจสอบ ยังตำแหน่งของแผ่นเหล็ก 5 จุด ที่พบว่ามีความหนาต่ำกว่ามาตรฐาน ซึ่งถูกซ่อมไปแล้ว แต่ มี 8 จุด ที่ตรวจพบว่าเหล็กหนาต่ำกว่ามาตรฐานและไม่ได้ซ่อม

ในรายงานการซ่อมมีรายละเอียดว่า จุดที่ไม่ต้องซ่อม ที่มีความหนาเฉลี่ยลดลงเป็น 0 % นั่นหมายถึง จุดที่ไม่ได้บางลง กลับมีการซ่อม 5 จุด ส่วนจุดที่ต้องซ่อม แต่ไม่ได้ซ่อม มีความหนาเฉลี่ยลดลง 12.36 % เป็นเหล็กแผ่นที่อยู่บริเวณกระดูกงูของเรือ แต่กลับไม่ได้ซ่อม

กราบขวา ความหนาเฉลี่ยลดลง 19 %, กราบซ้าย ความหนาเฉลี่ยลดลง 13.4 %, กราบซ้าย ที่ความหนาเฉลี่ยลดลง 15.5 % ทั้ง 3 จุด เป็นตำแหน่งที่สำคัญของเรือ เป็นผนังของห้องเครื่องยนต์ และห้องเครื่องกำเนิดไฟฟ้า หัวใจสำคัญของเรือหลวงสุโขทัย

6.ครีบกันโคลง หรือ Fin Stabilizer : ครีบกันโคลง เป็นอุปกรณ์ที่ใช้รักษาสมดุลของเรือ ถูกถอดออก

อ่านข่าว : ทร.คาดเหตุน้ำเข้าทำ รล.สุโขทัยอับปาง ใช้งบกู้เรือ 200 ล้านบาท

ใครคือบริษัทที่รับจ้างซ่อม "เรือหลวงสุโขทัย"

เมื่อดูจากข้อมูล โครงการจัดซื้อจัดจ้างในปีงบประมาณ 2561 พบว่า มีงบประมาณ 9.8 ล้านบาท ซ่อมบำรุง ร.ล.สุโขทัย 3 โครงการ

1.โครงการซื้ออะไหล่เครื่องแยกน้ำท้องเรือ ตราอักษร TURBULO โดยวิธีเฉพาะเจาะจง ในราคา 890,261 บาท โดย บริษัท วชิรธร จำกัด ลงนามวันที่ 20 มีนาคม 2561
2.ซื้ออะไหล่เครื่องผลิตน้ำจืด ตราอักษร VILLAGE MARINE เรือหลวงสุโขทัย โดยวิธีเฉพาะเจาะจง ในราคา 907,173 บาท โดย บริษัท วชิรธร จำกัด ลงนามวันที่ 20 มีนาคม 2561

3.จ้างทำของ/จ้างเหมาบริการจ้างซ่อมทำตัวเรือและอุปกรณ์ที่เกี่ยวข้อง เรือหลวงสุโขทัย โดยวิธีคัดเลือก ในราคา 7,998,999 บาท โดย บริษัท 3288 เอ็นจิเนียริ่ง จำกัด ลงนามวันที่ 2 เมษายน 2561

(ที่มา : รายงานคณะกรรมาธิการการทหาร)

อ่านข่าว : เริ่มแล้ว! "กู้เรือหลวงสุโขทัย" ทัพเรือไทย-สหรัฐฯ ร่วมปฏิบัติภารกิจ

ปฏิบัติการในภาวะฉุกเฉิน ก่อนเรืออับปาง

ประเด็นที่สงสัย

1.จริงหรือไม่ ในวันเกิดเหตุ มีการร้องขอเฮลิคอปเตอร์ ตั้งแต่ในคืน วันที่ 18 ธ.ค.แต่ไม่มีเฮลิคอปเตอร์ไปช่วยเหลือทั้ง ๆ ที่ หากเกิดภาวะฉุกเฉิน ทัพเรือภาค 1 สามารถขอใช้เฮลิคอปเตอร์ได้ทันที แต่กลับต้องรอคำสั่งจาก ศปก.ทร.

2.เรือหลวงสุโขทัย ออกทะเลในสภาพที่ไม่มีความพร้อม เนื่องจากมีรายงานในแผนภารกิจเรือหลวงสุโขทัยว่า ก่อนออกเรือจากท่าเรือฐานทัพสัตหีบ เพื่อร่วมงานฉลองครบรอบ 100 ปี กรมหลวงชุมพรเขตอุดมศักดิ์ ที่ศาลหาดทรายรี จ.ชุมพร เรือหลวงสุโขทัย ได้เข้าร่วมภารกิจ ฝึกซ้อมการลาดตระเวนร่วมระหว่าง กองทัพเรือไทย - กองทัพเรือเวียดนาม ครั้งที่ 46 มีเรือหลวงสุโขทัย และเรือหลวงศรีราชา จากกองทัพเรือไทย เข้าร่วมการลาดตระเวน ในวันที่ 29-30 พ.ย.2565

แต่ขณะกำลังเดินทางกลับมา พบว่า ระหว่างการเดินเรือ มีน้ำรั่วเข้าเรือ ต้องสูบน้ำระบายออกตลอดเส้นทาง ก่อนเข้าจอดที่ฐานทัพเรือสัตหีบ รอยรั่วที่พบอยู่ในระดับแนวน้ำที่ท้องเรือ พบรอยน้ำรั่วซึม ที่ห้องโดมโซนาร์เรือ

3.จริงหรือไม่ ที่กองทัพเรือในช่วงนั้น ขาดงบประมาณ เพื่อเติมน้ำมัน ทำให้ไม่สามารถเติมน้ำมันเรือได้เต็มเรือ ทำให้สมดุลของเรือ ไม่เพียงพอที่จำถ่วงน้ำหนักเรือ หากต้องเผชิญสภาพคลื่นลมแรง เนื่องจากน้ำหนักเรือที่สมดุล จะมีส่วนช่วยถ่วงน้ำหนักเรือระหว่างการเดินเรือได้

4.หน่วยงานที่สั่งการแก้ไขสภาวะฉุกเฉินเรือหลวงสุโขทัย คือ ศปก.ทร. เข้ามาแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉิน ได้ออกคำสั่งในช่วงที่มีภาวะฉุกเฉินอย่างไร

5.มีคำสั่งให้เรือหลวงสุโขทัย เข้าจอดที่ท่าเรือบางสะพาน ในเช้าวันที่ 18 ธ.ค. แต่ข้อมูลอีกด้าน จริงหรือไม่ที่ เรือหลวงสุโขทัย ขอเข้าจอดเทียบท่า ตั้งแต่เย็นวันที่ 18 ธ.ค. แต่ถูกปฏิเสธ แต่กลับมีคำสั่งให้ หันหัวเรือหลับย้อนเส้นทางไปท่าเรือสัตหีบ ต่อมา ร.ส.สุโขทัย เสียสมดุลจนเอียง จึงมีคำสั่งให้เรือหลวงกระบุรี ให้เข้าไปช่วย ซึ่งก็ทำไม่ได้ เพราะเป็นเรือขนาดใหญ่ และยิ่งทำให้เกิดคลื่นแรง ช่วยเหลือลูกเรือไม่ได้

6.จริงหรือไม่ ในเรือหลวงสุโขทัย ไม่ปรากฎต้นกลเรือ แต่กลับพบการเบิกเบี้ยเลี้ยง

อ่านข่าว : กองทัพเรือเตรียมเปิดยื่นซองประมูลกู้ "รล.สุโขทัย" ต.ค.นี้