เมื่อวันที่ 14 ก.พ.2567 นายเศรษฐา ทวีสินนายกรัฐมนตรีและ รมว.คลัง ปาฐกถาแนวทางจุดเปลี่ยนพลังงานไทยสู่ความยั่งยืน ระบุว่า รัฐบาลจะเดินหน้าปรับโครงสร้างราคาพลังงาน และส่งเสริมการใช้พลังงานแสงอาทิตย์ที่เป็นพลังงานราคาถูกที่สุด เพื่อลดต้นทุนทั้งภาคอุตสาหกรรมและการเกษตร โดยอยู่ระหว่างหารือกับกระทรวงพลังงาน ส่งเสริมให้เกษตรกรหันมาใช้พลังงานแสงอาทิตย์
ขณะเดียวกันรัฐจะเดินหน้าลงทุนพลังงานสะอาดเพื่อดึงดูดการลงทุนจากต่างชาติ โดยในเดือน มี.ค.นี้จะเดินทางไปประเทศเยอรมนี เพื่อดึงดูดการลงทุนจากฝั่งสหภาพยุโรปให้เข้ามาลงทุนในไทย
ขณะที่การเจรจาพื้นที่ทับซ้อนทางทะเลไทย-กัมพูชา นายกรัฐมนตรี ระบุว่า จะเร่งเจรจาเพื่อใช้ขุมทรัพย์ทางทะเลออกมาใช้ด้านพลังงานให้เร็วที่สุด และยอมรับว่าค่าพลังงานเป็นเรื่องกลไกการตลาด การทุบค่าไฟฟ้าโดยไม่สนใจการตลาดจะทำให้เกิดรัฐประหารทางเศรษฐกิจ
ด้านนายเกรียงไกร เธียรนุกูล ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย เสนอว่า ต้องการให้ภาครัฐดูแลค่าไฟฟ้างวดที่ 2 ของปี 2567 และดูแลค่าไฟระยะยาวให้แข่งขันได้ โดยเฉพาะอินโดนีเซียและ เวียดนาม ที่ค่าไฟฟ้าอยู่ที่ 2.52 - 2.67 บาทต่อหน่วย โดยการปรับโครงสร้างราคาพลังงานและเพิ่มปริมาณก๊าซฯ ในอ่าวไทยจะได้ตามแผนที่ 800 ล้านลูกบาศก์ฟุตต่อวัน
อ่านข่าวอื่นๆ
"ชะตากรรม"ข้าวไทย ในเงื้อมมือรัฐ ขาดทุน หนุน-พัฒนาสายพันธุ์