วันนี้ (19 ม.ค.2567) นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกฯ และรมว.พาณิชย์ กล่าวว่า สถานการณ์การค้าข้าวโลกมีแนวโน้มแข่งขันกันอย่างรุนแรงมากขึ้น หากอินเดียพิจารณายกเลิกมาตรการระงับการส่งออกข้าวขาวที่ไม่ใช่ข้าวบาสมาติ ดังนั้นไทยจึงต้องเร่งทำตลาดข้าว โดยเฉพาะการส่งออกข้าวไทย ตลาดสหรัฐฯซึ่งเป็นตลาดสำคัญของไทย
นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกฯ และรมว.พาณิชย์
เพื่อส่งเสริมภาพลักษณ์สินค้าข้าวไทยให้แก่ผู้บริโภคชาวอเมริกันได้รู้จัก ในฐานะข้าวคุณภาพดี มีมาตรฐาน และกระตุ้นให้เกิดการซื้อข้าวไทยมากขึ้น โดยเฉพาะในฝั่งตะวันตกที่มีชาวเอเซียอยู่เป็นจำนวนมาก มีโอกาสที่จะจำหน่ายสินค้าอาหารไทยสูงขึ้น ซึ่งจะส่งผลดีให้ไทยส่งออกข้าวไปยังตลาดสหรัฐฯ
ล่าสุด กระทรวงพาณิชย์ได้หารือกับผู้นำเข้าข้าวหอมมะลิ และอาหารกระป๋องจากไทยรายใหญ่ มีการนำเข้าข้าวปีละ 60-70 ล้านเหรียญสหรัฐ โดยหวังว่าจะมีการนำเข้าสินค้าจากไทยเพิ่มขึ้นในอนาคต
ข้าวหอมมะลิไทยในตลาดสหรัฐฯ
นอกจากนี้มีพบปะผู้บริหารห้าง Ralphs Fresh Fare ซึ่งเป็นห้างในเครือบริษัท Kroger Co. (โครเกอร์) ที่ใหญ่ที่สุดของสหรัฐฯ มีจำนวน 2,759 แห่ง และกำลังอยู่ระหว่างการซื้อกิจการเครือ Albertson ซึ่งมีซุปเปอร์มาร์เก็ตในมือจำนวน 2,323 แห่ง หากรวมกันสำเร็จจะมีซุปเปอร์มาร์เก็ตมากกว่า 5,000 แห่ง เพื่อหาช่องทางในการนำสินค้าไทยไปขายในตลาดสหรัฐฯ
ผู้ประกอบการและผู้ส่งออกไทย ปรับตัวและให้ความสำคัญกับกติกาการค้าของโลกที่เปลี่ยนแปลงไป โดยเฉพาะ เรื่องคาร์บอนเครดิต การดูแลสิ่งแวดล้อม กรีนอีโคโนมี่ ซึ่งจะเป็นการเพิ่มศักยภาพการแข่งขันของไทย
สินค้าข้าวไทยในห้างสหรัฐฯ
นายภูมิธรรมกล่าวอีกว่า ตั้งเป้าหมายการเดินทางในครั้งนี้จะสามารถผลักดันการส่งออกสินค้าข้าวและอาหารไปยังสหรัฐไม่ต่ำกว่า 1,750 ล้านบาท โดยเฉพาะการดัรนข้าวหอมมะลิพรีเมี่ยมและขยายเครือข่ายพันธมิตรทั้งตลาดสินค้าระดับบนและเจาะตลาดเฉพาะกลุ่ม โดยเฉพาะฝั่งตะวันตกของสหรัฐฯมีชุมชนคนไทยและคนเอเชียอาศัยอยู่หนาแน่น มีกำลังซื้อสูง
ทั้งนี้ตลาดสหรัฐฯ เป็นคู่ค้าศักยภาพลำดับที่ 2 ของไทย และสหรัฐฯมีการนำเข้าข้าวจากไทยเป็นอันดับ 1 สูงถึง 605,170 ตัน ตามด้วยอินเดียเป็นอันดับที่ 2 ที่ 232,570 ตัน และจีน 85,270 ตัน ซึ่งเป็นตลาดเป้าหมายเชิงรุกตามยุทธศาสตร์ของรัฐบาลในการเร่งขยายการค้าและการส่งออก
อ่านข่าวอื่นๆ:
แห้ว “ดิจิทัลวอลเล็ต” 10,000 บาท แจกไม่ทัน พ.ค.นี้