เหตุโรงงานผลิต "พลุ" ระเบิด เมื่อช่วงบ่ายของวันที่ 17 ม.ค.2567 ในพื้นที่หมู่ 3 ต.ศาลาขาว อ.เมือง จ.สุพรรณบุรี ทำอาคารพังราบเป็นหน้ากลอง และมีผู้เสียชีวิต 23 คน เหตุการณ์นี้เพียง 1 คนที่รอดชีวิต
นางน้ำฝน บุญกล่อม ผู้รอดชีวิต เล่าว่า ทำงานที่นี่มามานานกว่า 10 ปี เคยเป็นผู้รอดชีวิตจากโรงงานพลุระเบิด เมื่อปี 2565 แล้วครั้งหนึ่ง ครั้งนี้ออกจากโรงงานมาเพียง 20 นาทีก่อนระเบิด เพราะลูกชายโทรตามไปจ่ายค่าพัสดุ
นางน้ำฝน เล่าว่า ไปทำงานตามปกติที่โรงงานพลุระเบิด แต่ช่วงเกือบ 14.30 น.ลูกชายคนเล็กโทรมาหาบอกว่า แม่มีของมาส่ง ไม่มีเงิน เลยบอกให้ลูกมาที่โรงงาน เพราะปกติลูกเขาจะมาจากนั้นเลยตัดสายทิ้ง
นางน้ำฝน บุญกล่อม ผู้รอดชีวิตจากเหตุการณ์พลุระเบิดเพียงคนเดียว
โทรมาจี้ 3-4 สายให้กลับบ้านเลย กลับบ้าน บอกไปทำงาไม่เสร็จ ยังทำงานไม่เสร็จ แต่และด้วยความรำคาญ เก็บของออกจากโรงงานมาถึงบ้านแค่ 20 นาที ก็ได้ยินเสียงโรงงานพลุระเบิด
ลูกชายโทรมาร้องไห้ ว่าแม่อยู่ไหน โรงงานพลุระเบิด ตกใจเพราะเป็นคนเดียวที่ออกมา ส่วนอีก 20 คนที่ทำงานวันนั้นเสียชีวิตทั้งหมด
แม้จะรอดมาได้แต่ก็เสียใจ เพราะสูญเสีย แม่ น้องสะใภ้ และญาติจากเหตุการณ์ครั้งนี้
อ่านข่าว นักวิทย์ วิเคราะห์ปัจจัย โรงงาน "พลุระเบิด" จ.สุพรรณบุรี
ร่องรอยความเสียหายที่เกิดจากแรงอัดโรงงานพลุระเบิด จ.สุพรรณบุรี
พิสูจน์อัตลักษณ์ 15 คน
ส่วนความคืบหน้าการตรวจพิสูจน์อัตลักษณ์บุคคลผู้เสียชีวิต พล.ต.ท.ไตรรงค์ ผิวพรรณ ผู้บัญชาการสำนักงานพิสูจน์หลักฐานตำรวจ กล่าวว่า วันนี้สามารถพิสูจน์อัตลักษณ์ร่างผู้เสียชีวิตได้ทั้งหมด 15 ร่าง และจะเร่งดำเนินการให้ครบทั้ง 23 ร่าง แต่ยังไม่สามารถยืนยันได้ว่าจะเสร็จทันหรือไม่ เนื่องจากขึ้นอยู่กับกระบวนการทางนิติวิทยาศาสตร์ แต่อย่างช้าที่สุดคาดว่าจะไม่เกินวันพรุ่งนี้ (20 ม.ค.)
ส่วนการตรวจสอบที่เกิดเหตุ มีการเก็บพยานหลักฐานจากที่เกิดเหตุไว้ครบถ้วนแล้ว หลังจากเข้าพื้นที่ได้ตั้งแต่เมื่อวานนี้ (18 ม.ค.) โดยต้องนำหลักฐานที่พบในที่เกิดเหตุทั้งหมดมาตรวจสอบในห้องปฏิบัติการ เกี่ยวกับเรื่องสารเคมีต่าง ๆ เพื่อพิสูจน์ทราบสาเหตุของการเกิดเหตุ
ซึ่งยังตอบไม่ได้ว่าจะทราบผลเมื่อไหร่ เนื่องจากกระบวนการมีขั้นตอนการตรวจสอบที่ต้องใช้เวลา แต่จะเร่งรัดให้เร็วที่สุด และจนถึงขณะนี้ได้อนุญาตให้ญาติรับศพไปบำเพ็ญกุศลแล้ว 12 คน
"อนุทิน" ชี้แก้กม.อาจไม่ใช่ทางออกเพิ่มความเข้มงวด
นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรมว.มหาดไทย ลงพื้นที่ช่วยเหลือ พร้อมระบุว่า ครอบครัวผู้สูญเสียยังโศกเศร้าโดยเฉพาะเด็กที่สูญเสียพ่อแม่ ส่วนสาเหตุระเบิดอยู่ระหว่างรอผลตรวจพิสูจน์
ส่วนการแก้กฎหมายที่เกี่ยวข้อง ต้องดูว่า เกิดจากการละเมิดระเบียบหรือไม่ และมองว่า การแก้กฎหมายไม่ได้ช่วยอะไร แต่ต้องเพิ่มความเข้มงวด ในการออกใบอนุญาต ต้องดูว่า โรงงานได้ทำตามมาตรฐานความปลอดภัยหรือไม่
ความเสียหายที่เกิดขึ้นจากระเบิด ทำให้โรงงานเกิดความเสียหายอย่างมาก ดูได้จากภาพเปรียบเทียบโรงงานพลุ ก่อนและหลังเกิดเหตุ จะเป็นว่าอาคารหลักทั้ง 3 หลังของโรงงาน ได้รับความเสียหายทั้งหมด ไม่เหลือเพียงซากอาคารให้เห็นเพียงเล็กน้อยเท่านั้น