"สุชาติ ชมกลิ่น" หรือ "เสี่ยเฮ้ง" อดีต รมว.แรงงาน ลูกน้ำเค็ม เมืองชลบุรี ตกเป็นเป้าอีกครั้ง เมื่อวันที่ 11 ม.ค.2567 หลังคณะพนักงานสอบสวนคดีพิเศษ กองคดีการค้ามนุษย์ และพนักงานอัยการ สำนักงานอัยการสูงสุด ลงมติร่วมกันกล่าวหา อดีตข้าราชการฝ่ายการเมือง ระดับ "รัฐมนตรี" 2 คน และผู้บริหารระดับสูงอีก 2 คน ของกระทรวงแรงงาน ในความผิดเรียกรับผลประโยชน์และปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ รวม 2 ข้อหา
แม้ดีเอสไอจะไม่ได้ระบุชื่อชัดเจน ว่าอดีต 2 รมต.ทั้ง 2 เป็นใคร แต่การระบุว่า เคยร่วมอยู่ในรัฐบาลชุดที่แล้ว ก็แปลความเป็นอื่นไม่ได้ว่า อาจจะหมายถึง เสี่ยเฮ้ง "สุชาติ" หรือคนอื่น ๆ เนื่องจากเป็น อดีตรมต.ที่อยู่ในช่วงจังหวะดังกล่าว
เฟซบุ๊ก สุชาติ ชมกลิ่น
แต่ตราบใดก็ตาม หาก ป.ป.ช.ยังไม่ชี้มูลความผิด และศาลยังไม่ได้มีคำพิพากษา ต้องถือว่า ผู้ถูกกล่าวหา ไม่ว่าจะเป็นใครก็ตาม ยังเป็นผู้บริสุทธิ์ และหากทำให้บุคคลผู้นั้นเสียชื่อเสียง หรือได้รับความเสียหาย ก็สามารถใช้สิทธิตามกฎหมายฟ้องร้องกลับได้
"สุชาติ"หรือ "เสี่ยเฮ้ง" ถือว่าเป็นคนการเมืองที่มีบทบาทอย่างมากในช่วงรัฐบาล "พล.อ.ประยุทธ์" มาจนถึงการย้ายชายคาจากพรรคพลังประชารัฐมา ร่วมงานกับพรรครวมไทยสร้างชาติ สู้ศึกเลือกตั้งครั้งล่าสุด แม้จะไม่สมหวังในการนำ "พล.อ.ประยุทธ์" กลับมาเป็นนายกฯ อีกสมัย แต่เขาก็ยังเป็น สส.ในฐานะปาร์ตี้ลิสต์อันดับ 5 ของ พรรค
อ่านข่าว : จ่อฟ้องดีเอสไอ ปัดเรียกเก็บค่าหัวคิวส่งแรงงานไทยไปฟินแลนด์
เฟซบุ๊ก สุชาติ ชมกลิ่น
สส.ลูกน้ำเค็ม "สุชาติ ชมกลิ่น"
นายสุชาติ ชมกลิ่น มีชื่อเล่นว่า "เฮ้ง" เกิดเมื่อวันที่ 15 กรกฎาคม 2517 ปัจจุบันอายุ 50 ปี เป็นที่รู้จักอย่างกว้างขวางจากการอยู่ในแวดวงการเมือง ในฐานะ รองหัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ และ "อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน" ในรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา และเป็น สส.ชลบุรี เขต 1 ถึง 2 สมัย
นายสุชาติ สำเร็จการศึกษาระดับปริญญาตรี ศิลปศาสตรบัณฑิต สาขาการจัดการ จากมหาวิทยาลัยเกริก มีบุตรชาย 2 คน
"สุชาติ" พื้นเพ เป็นคน จ.ชลบุรี เรียนชั้นประถมที่ จ.ชลบุรี ใกล้ตลาดหนองมน จ.ชลบุรี ชื่นชอบกีฬาฟุตบอล และถือว่ามีทักษะที่ค่อนข้างดี โดยเป็นนักกีฬาเยาวชน สังกัดสโมสรโอสถสภา และมีรายได้เลี้ยงชีพส่วนหนึ่งมาจากการเล่นฟุตบอล
เฟซบุ๊ก สุชาติ ชมกลิ่น
ขณะที่ ชีวิตในวัยเด็ก "สุชาติ" เปิดเผยผ่านสื่อสังคมออนไลน์ในหลายครั้งว่า ต้องช่วยคุณแม่ซึ่งมีอาชีพขายขนมครกอยู่ที่ตลาดหนองมน จ.ชลบุรี ขณะที่คุณพ่อต้องไปทำงานที่ประเทศซาอุดีอาระเบีย ในยุคที่แรงงานไทยต้องไปขายแรงงานที่ตะวันออกกลาง
ในวัยทำงาน "สุชาติ" ผ่านการทำงานในหลายบริษัทและหลายวงการ ทั้งการเป็นเซลส์ขายบ้าน พนักงานธนาคาร และพนักงานบริษัท จนต่อมาเข้าสู่การเป็นนักพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ โดยสร้างบ้านใน จ.ชลบุรี จนธุรกิจเติบโต จากนั้นจึงเข้าสู่แวดงวงการเมือง
กว่าจะเป็น "รมว.เฮ้ง" อดีต รมว.แรงงาน ลงชิมลางในสนามการเมือง ด้วยการเป็น สมาชิกองค์การบริหารส่วนจังหวัดชลบุรี เขต อ.เมืองชลบุรี ก่อนที่จะลงสนามการเมืองระดับชาติ ในปี 2554 ในนาม "พรรคพลังชล" และได้รับเลือกเป็น "สส.สมัยแรก"
และในปี 2562 นายสุชาติ ได้รับเลือกเป็น สส. อีกสมัย แต่ครั้งนี้ในสังกัด "พรรคพลังประชารัฐ" โดยได้รับเลือกติดต่อกันรวม 2 สมัย
กระทั่งเมื่อปี 2563 ได้มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งให้ นายสุชาติ เป็น "รมว.แรงงาน"
ในปี 2564 นายสุชาติ ได้รับเลือกเป็น "กรรมการบริหารพรรคพลังประชารัฐ" กระทั่งในปี 2565 นายสุชาติได้ยื่นหนังสือลาออกจากการเป็นกรรมการบริหารพรรค ทำให้ต้องพ้นจากตำแหน่ง "ผู้อำนวยการพรรคพลังประชารัฐ"
ต่อมาในเดือน ม.ค.2566 นายสุชาติได้ยื่นหนังสือลาออกจากการเป็น "สส. จ.ชลบุรี เขต 1"
เฟซบุ๊ก สุชาติ ชมกลิ่น
ต่อมา นายสุชาติ ได้ลาออกจากสมาชิก "พลังประชารัฐ" และสมัครเข้าเป็นสมาชิกพรรค "รวมไทยสร้างชาติ" กับ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา
ปี 2566 ผู้สื่อข่าวประจำทำเนียบรัฐบาล ได้มีการตั้งฉายารัฐบาลประจำปี ครั้งนั้นรัฐบาลได้รับ ฉายา : "หน้ากากคนดี" ส่วนนายสุชาติ "รมว.แรงงาน" ได้รับฉายา "รมต.แรงลิ้น" โดยมีคำอธิบายว่า "ยังคงคอนเซ็บต์ ปากหวานไม่สร่าง ขยันอวย พล.อ.ประยุทธ์ ขั้นสุดในทุกด้าน เอ่ยปากแต่ละครั้งก็แรงจัดชัด เจน"
ต้นปีเปิดศึกแตกหักบ้านใหญ่เมืองชล จนเกิดวิวาทะ "ทรยศ หักหลัง" สนั่นออนไลน์ ปลายปีตีจาก "บิ๊กป้อม" คนที่ออกปากเองว่ารักเหมือนพ่อ พร้อมข้อครหาหอบ สส.ตาม "บิ๊กตู่" ที่ปากบอกว่ารักเหมือนแม่ ไปอยู่พรรครวมไทยสร้างชาติ
อ่านข่าว : จ่อฟ้องดีเอสไอ ปัดเรียกเก็บค่าหัวคิวส่งแรงงานไทยไปฟินแลนด์
"โสด" สมาร์ท-รวย 209 ล้าน
หลังพ้นตำแหน่ง รมว.แรงงาน เมื่อวันที่ 5 ก.ย.2566 สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ได้เปิดบัญชีทรัพย์สินและหนี้สินผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง
นายสุชาติ แจ้งสถานะ "โสด" โดย "หย่า" เมื่อเดือน พ.ค.2566 และแจ้งว่ามีทรัพย์สินรวมบุตรที่ยังไม่บรรลุนิติภาวะ 209,380,471 บาท ขณะที่ หนี้สิน 296,675,837 บาท โดยเป็นทรัพย์สินของนายสุชาติ 64,800,949 บาท
เฟซบุ๊ก สุชาติ ชมกลิ่น
ก่อนหน้านั้น 5 ก.ค.2566 ป.ป.ช. ได้เปิดเผย บัญชีทรัพย์สินและหนี้สินของ นายสุชาติ หลังพ้นตำแหน่ง สส.ชลบุรี พรรคพลังประชารัฐ เมื่อวันที่ 6 ม.ค.2566 มีทรัพย์สิน 740,218,072 บาท
เป็นทรัพย์สินของนายสุชาติ 123,928,932 บาท ของ คู่สมรส 445,238,385 บาท และทรัพย์สินของบุตรที่ยังไม่บรรลุนิติภาวะ 171,050,755บาท
อ่านข่าว : ทางใครทางมัน “สนธยา-สุชาติ” วอร์รบกลางโซเชียลไม่มีหวนกลับ
"ก้าวไกล"ฟาดส่งคนงานไทยไปเก็บเบอร์รี่
เมื่อปี 2566 ได้ถูกตั้งคำถามในการอภิปรายรัฐบาลทั่วไปแบบไม่ลงมติ โดย สส.ชลบุรี พรรคก้าวไกล นายจรัส คุ้มไข่น้ำ ได้ลุกขึ้นถาม นายสุชาติ เมื่อครั้งดำรงตำแหน่ง รมว.แรงงาน ในขณะนั้นถึงเรื่องแรงงานไทยที่เดินทางไปเก็บเบอร์รี่ในประเทศฟินแลนด์และสวีเดน และพบปัญหาทั้งเรื่องค่าแรง ที่ไม่เพียงพอต่อค่าใช้จ่าย และงานหนัก
อีกทั้งยังพบว่า บริษัทเอกชนแห่งหนึ่งที่ได้โควตาไปเก็บผลไม้ป่าที่ฟินแลนด์ถูกตั้งข้อหาค้ามนุษย์ โดยมีภาพนายสุชาติไปเยี่ยมชมดูงาน
นอกจากนี้ ยังพบว่า แรงงานไทยถูกข่มขู่ ใช้เรื่องหนี้มาเป็นข้อผูกมัด ยึดเอกสารสำคัญ บางคนเข้าไม่ถึงการรักษา กลับไทยยังเป็นหนี้สินอีก จึงสอบถามนายสุชาติ ว่า ไม่รู้เรื่องดังกล่าวเลยหรือ ทั้งที่สวีเดน และฟินแลนด์ ระงับการออกวีซา เพราะห่วงเรื่องปัญหาค้ามนุษย์
ครั้งนั้น รมต.แรงงาน ชี้แจงว่า ปี 2565 ได้ส่งแรงงานไทยไปฟินแลนด์และสวีเดน กว่าหมื่นคนที่มีปัญหาคือคนไปครั้งแรกแค่ 200-300 คน แต่มีคนได้ประโยชน์กว่า 90%
ส่วนเรื่องบริษัทดังกล่าวที่ถูกตั้งข้อหาแล้วมีภาพตนเองไปดูงาน เป็นเพราะคนไทยอยู่บริษัทดังกล่าวเป็นจำนวนมากจึงต้องไปเยี่ยมเยือน ยืนยัน กระทรวงแรงงานไม่ได้ไปสนับสนุนเรื่องการค้ามนุษย์
อ่านข่าวอื่น ๆ
“ศิริกัญญา” ลุ้นร่าง พ.ร.บ.กู้เงิน ทัน-ไม่ทัน ห่วงเหตุผลเป็นบรรทัดฐานที่ไม่ดี
"ทักษิณ" อยู่ต่อ รพ.ตำรวจ อธ.ราชทัณฑ์ เผยภาวะเสี่ยง-แพทย์ต้องเฝ้าระวัง