วันนี้ (22 ธ.ค.2566) นายรณรงค์ พูลพิพัฒน์ อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ เปิดเผยว่า ประธานสมาคมผู้นำเข้าข้าวฮ่องกง นำโดยMr. CHAN Kin Nin Kenneth พร้อมผู้นำเข้าข้าวฮ่องกง รวม 31 ราย จาก 26 บริษัท เดินทางมาประเทศไทย โดยกรมกรมฯได้นำคณะดังกล่าวไปเยี่ยมชมและศึกษาดูงานด้านการผลิตที่ศูนย์วิจัยข้าวอุบลราชธานีของกรมการข้าว กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ซึ่งศูนย์ฯมีบทบาทสำคัญในการค้นคว้าวิจัยและพัฒนาข้าวไทย การตรวจสอบเอกลักษณ์พันธุกรรม (DNA) ข้าวหอมมะลิไทย
ทั้งนี้ผู้นำเข้าข้าวฮ่องกงชื่นชมรัฐบาลไทยที่ให้ความสำคัญกับสินค้าข้าว ทั้งการศึกษาและวิจัยพัฒนาพันธุ์ข้าวอย่างต่อเนื่อง ทำให้ผู้นำเข้าข้าวฮ่องกงเชื่อมั่นในคุณภาพมาตรฐานของข้าวไทยและข้าวหอมมะลิไทยเป็นอย่างมาก อย่างไรก็ตาม ที่ผ่านมา สมาคมผู้นำเข้าฮ่องกงมีส่วนสำคัญในการนำเข้าข้าวไทยและผลักดันให้ตลาดข้าวไทยครองส่วนแบ่งตลาดข้าวเป็นอันดับ 1 ในตลาดฮ่องกง
นายรณรงค์ กล่าวว่า ในปี 2566 (ม.ค. - ต.ค) ไทยส่งออกข้าวปริมาณ 6.92 ล้านตัน เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อนร้อยละ 11 ตลาดส่งออกข้าวไทยอันดับ 1 คือ อินโดนีเซีย ส่วนฮ่องกงเป็นอันดับ 13 โดยปริมาณการส่งออกข้าวไทยไปฮ่องกงปริมาณ 0.125 ล้านตัน ลดลงจากช่วงเดียวกันของปีก่อนร้อยละ 5
นายรณรงค์ กล่าวอีกว่า ผู้นำเข้าข้าวฮ่องกงให้ข้อมูลว่า ไทยเป็นแหล่งนำเข้าข้าวอันดับ 1 ของฮ่องกงครองส่วนแบ่งตลาดข้าวในฮ่องกงมากกว่าร้อยละ 50 สาเหตุที่ฮ่องกงนำเข้าข้าวลดลง เนื่องจากความต้องการบริโภคข้าวในฮ่องกงลดลง จำนวนประชากรลดลงจากการอพยพย้ายถิ่นฐานอันเนื่องมาจากสถานการณ์ชุมนุมประท้วง การมีช่วงวันหยุดยาวติดต่อกันเป็นเวลานานทำให้เดินทางไปเที่ยวต่างประเทศ และการหันไปนิยมบริโภคข้าวจีน
ข้าวไทยยังเป็นที่ชื่นชอบและต้องการของผู้บริโภคในฮ่องกง อีกทั้งยังครองส่วนแบ่งตลาดข้าวอันดับ 1 ในฮ่องกง อย่างไรก็ตามเพื่อกระตุ้นการซื้อข้าวไทยและรักษาส่วนแบ่งตลาดข้าวในฮ่องกง กรมฯจะกิจกรรมประชาสัมพันธ์ข้าวไทยในฮ่องกงให้เนื่องต่อไป
ทั้งนี้กิจกรรมดังกล่าว ทำให้ผู้นำเข้าข้าวฮ่องกงเชื่อมั่นในศักยภาพของไทยในฐานะผู้ส่งออกข้าวที่มีคุณภาพและมาตรฐานในตลาดข้าวโลก และรักษาความสัมพันธ์อันดีระหว่างผู้นำเข้าข้าวฮ่องกงและผู้ส่งออกข้าวไทย ให้สนับสนุนและผลักดันการนำเข้าข้าวไทยอย่างต่อเนื่อง เพื่อครองส่วนแบ่งตลาดข้าวเป็นอันดับ 1 ในฮ่องกงต่อไป นอกจากนี้อาจเป็นประตูหรือทางเชื่อมการส่งออกให้แก่ข้าวไทย (re-export) ในฐานะที่ฮ่องกงได้รับการขนานนามว่าเป็นศูนย์กลางการค้าและการลงทุนแห่งเอเชียมาอย่างยาวนานด้วย
นายชูเกียรติ โอภาสวงศ์ นายกกิตติมศักดิ์สมาคมผู้ส่งออกข้าวไทย กล่าวกับ “ไทยพีบีเอสออนไลน์” ว่า ปีหน้าการแข่งขันในตลาดข้าวโลกยังเน้นเรื่องราคามากขึ้น แต่มั่นใจว่าข้าวไทยยังคงครองใจผู้บริโภคที่ให้ความสำคัญกับคุณภาพข้าว ดังนั้นการที่ข้าวไทยไม่ได้รับรางวัลข้าวที่ดีที่สุดในโลกไม่ได้ทำให้ผู้นำเข้า ลูกค้า หรือผู้บริโภคไม่สั่งซื้อข้าวไทย ซึ่งยอดสั่งออกเดอร์ข้าวไทยยังคงมีอย่างต่อเนื่อง และปีนี้มั่นใจไทยยังเป็นเบอร์ 2 ผู้ส่งออกข้าวโลก ปริมาณมากกว่า 8 ล้านตันแน่นอน
การแข่งขันจากนี้ไปจะเข้มข้นมากขึ้น โดยเฉพาะเรื่องราคา เพราะราคาข้าวไทย กับข้าวคู่แข่ง ต่างกันเพียง50 ดอลลาร์สหรัฐต่อตัน คุณภาพก็ใกล้เคียงข้าวไทย ดังนั้นสิ่งที่ไทยทำได้เพื่อหนีคู่แข่งคือ การมีพันธุ์ข้าวใหม่ๆออกมาและได้ผลผลิตสูงต่อไร่
อ่านข่าวอื่นๆ:
แจกฉ่ำ ! “พาณิชย์” ลดค่าครองชีพช่วยปชช.กว่า 80 % รับปี 2567
หนี้บ้านพุ่ง 4.9 ล้านล้าน เสี่ยงสูง NPL หอการค้าวอนรัฐเร่งแก้