วันนี้(14 ธ.ค.2566) รายงานข่าวจากเว็บไซต์ฮั่วเซ่งเฮง เปิดเผยว่า หลังจากคณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงิน (FOMC) ของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) มีมติเป็นเอกฉันท์ให้คงอัตราดอกเบี้ยระยะสั้นที่ระดับ 5.25-5.50% ในการประชุมเมื่อวันที่ 13 ธ.ค.2566 เป็นไปตามที่ตลาดคาดการณ์ไว้ ส่งผลให้ราคาทองคำในวันนี้ปรับตัวขึ้นแรง หลังทราบผลการประชุมเฟด มีมติตรึงอัตราดอกเบี้ยไว้ระดับ 5.25-5.50% และคาดการณ์ว่าเฟดจะส่งสัญญาณปรับลดอัตราดอกเบี้ย 3 ครั้ง ในปี 2567 โดยปรับลดครั้งละ 0.25% รวม 0.75% จากเดิมที่เคยส่งสัญญาณในช่วงการประชุมเดือนก.ย.ว่าจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยเพียง 2 ครั้งในปีหน้า
การส่งสัญญาณการปรับลดอัตราดอกเบี้ยที่มากขึ้นและส่งสัญญาณยุติขึ้นดอกเบี้ยนั้น ส่งผลทำให้เป็นแรงหนุนราคาทองคำให้ปรับตัวขึ้น ส่วนกองทุน SPDR ซื้อทอง 2.31 ตัน
แต่อย่างไรก็ตามยังมีปัจจัยเศรษฐกิจที่ต้องติดตาม โดยเฉพาะประเด็น สหรัฐจะเปิดเผยยอดค้าปลีกเดือนพ.ย.2566 ตลาดคาดว่าลดลง 0.1% จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ ตลาดคาดว่าจะลดลง 1,000 รายสู่ระดับ 219,000 ราย และติดตามการประชุมธนาคารกลางยุโรป คาดคงอัตราดอกเบี้ย
ราคาทองคำในวันนี้จะปรับตัวขึ้นได้ต่อ ราคาทองตลาดโลก แนวรับ 2,010 และ 2,000 ดอลลาร์ แนวต้าน 2,040 และ 2,050 ดอลลาร์ แนะเข้าซื้อเมื่อราคาทองคำปรับลงมาบริเวณ 2,000 ดอลลาร์ ซึ่งมีจุดขายตัดขาดทุนที่ 1,980 ดอลลาร์
ขณะที่ราคาทองคำแท่ง 96.5% แนวรับ 33,600 และ 33,500 บาท แนวต้าน 33,900 และ 33,950 บาท ทั้งนี้ราคาทองคำต่างประเทศปรับตัวขึ้นแรง แต่ค่าเงินบาทแข็งค่า คาดว่าราคาทองคำแท่งในประเทศมีแนวโน้มปรับตัวขึ้น แนะนำรอจังหวะเข้าซื้อแบ่งเป็นหลายไม้บริเวณ 33,350 บาท
สำหรับราคาทองวันนี้บวกเพิ่ม 200 บาท ราคาทองคำแท่งขายออกบาทละ 33,800 บาท และราคาทองคำแท่งรับซื้อบาทละ 33,700 บาท ราคาทองรูปพรรณขายออกบาทละ 34,300 บาท และราคาทองรูปพรรณรับซื้อบาทละ 33,094.28 บาท ราคาทองคำตลาดโลก (Gold Spot) อยู่ที่ 2,031.50 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์ ณ อัตราแลกเปลี่ยนที่ระดับ 35.19 บาทต่อดอลลาร์
อ่านข่าว:
ทองคำฉุดไม่อยู่พุ่ง 250 บาท คาดปี 67 ปรับขึ้น แนะนักลงทุนช้อนซื้อ
เศรษฐกิจส่อฟื้น กนง.มติเอกฉันท์ คงอัตราดอกเบี้ยนโยบาย 2.50%
"กล้วยหอมทองเสิงสาง" รุกตลาดเอเซีย ญี่ปุ่นสั่งซื้อ 5,000 ตัน