วันนี้ (30 พ.ย.2566) เวลา 11.20 น. ที่สำนักงานอัยการสูงสุด นายปรีชา สุดสงวน อธิบดีอัยการ สำนักงานคดีอาญา, นายสุรพันธ์ กิจพ่อค้า อธิบดีอัยการ และนายประยุทธ เพชรคุณ รองอธิบดีอัยการ สำนักงานคดีพิเศษ และโฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด ร่วมแถลงข่าวการรับสำนวนคดีกำนันนกจาก พ.ต.อ.เอนก เตาสุภาพ รองผู้บังคับการปราบปราม
นายประยุทธ กล่าวว่า เมื่อวันที่ 16 พ.ย.2566 ทางสำนักงานคดีอาญา และสำนักงานคดีปราบปรามการทุจริต สำนักงานอัยการสูงสุด ได้รับสำนวนจากพนักงานสอบสวนกองกำกับการปราบปราม 2 สำนวน คือ สำนวนคดีอาญาที่ 24/2566 ที่มีต้องหาที่ 1 นายธนัญชัย หมั่นมาก หรือหน่อง ที่ถูกวิสามัญฆาตกรรม
และผู้ต้องหาที่ 2 นายประวีณ จันทร์คล้าย หรือกำนันนก ถูกกล่าวหาว่า เป็นผู้ใช้ให้ผู้อื่นกระทำความผิดฐานฆ่าผู้อื่น หรือพยายามฆ่าผู้อื่น ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 60, 84, 288 รวมทั้งถูกกล่าวหาเป็นผู้สนับสนุนเจ้าพนักงานกระทำในสำนวนกลุ่มที่ 2
สำนวนที่ 2 เป็นสำนวนคดีอาญาที่ 25/2566 กล่าวหาเจ้าหน้าที่ตำรวจที่อยู่ในเหตุการณ์วันที่มีการยิง พ.ต.ต.ศิวกร สายบัว หรือสารวัตรแบงค์ ถึงแก่ความตาย โดยคดีนี้มีเจ้าหน้าที่ตำรวจถูกกล่าวหาหลายคน
นายประยุทธ กล่าวว่า สำนวนแรก พนักงานอัยการได้สั่งฟ้องนายประวีณตามข้อกล่าวหาที่พนักงานสอบสวนเสนอมา ส่วนนายธนัญชัย ถึงแก่ความตาย จึงมีคำสั่งยุติการดำเนินคดี ตามระเบียบสำนักงานอัยการสูงสุด แต่สำนวนที่มีตำรวจเป็นผู้ถูกกล่าวมีคำสั่งไม่ฟ้องเป็นบางนาย
ประยุทธ เพชรคุณ
สำนวนที่ 2 แบ่งเป็นหลายกลุ่ม ซึ่งกลุ่มที่ 1 มีผู้ต้องหาที่ พ.ต.ต.เกียรติศักดิ์ สมสุข ถูกกล่าวหา 4 ข้อกล่าวหา, กลุ่มที่ 2 มีต้องหาคือ ร.ต.ต.ประสาร รอดผล ร.ต.ท.สรรเสริญ ศรีสวัสดิ์, กลุ่มที่ 3 คือ ร.ต.ท.นิมิตร สลิดกุล
กลุ่มที่ 4 คือ ร.ต.ท.ณรงค์ศักดิ์ แตงอำไพ ร.ต.อ.ณัฏฐพล นาคกร พ.ต.อ.กฤษฎาพร จงอักษร จ.ส.ต.พิสิฐ ชิวปรีชา ร.ต.อ.จตุรวิทย์ ชวาลเกียรติธนา พ.ต.ท.ภทร วรญาวิสุทธิ์ ร.ต.อ.ประสมมาศ แสงสุขดี ส.ต.ต.สุทธิกานต์ แซ่ฮ้อ ส.ต.ต.สรรเสริญ ศรีอุบล ส.ต.ต.ธนทัต ท่าน้ำตื้น พ.ต.อ.ภาณุทัต เหลืองสัจจกุล ร.ต.อ.นุชิต บรรณชัย ด.ต.ถนอมศักดิ์ มีศรี จ.ส.ต.อภิรักษ์ โรจน์พวง ร.ต.อ.ศิริชัย รูปสวย ร.ต.ท.มนัส จันทร์มีทรัพย์ ร.ต.ท.สมโชค บัวไชย ทั้งหมดถูกกล่าวหา 2 ข้อกล่าวหา
กลุ่มที่ 5 นายสนธยา นายฐิตินันท์ นายนิวัฒน์ชัย นายกฤษดา นายชาตรี นายประวีณ นายอาทิตย์ ถูกกล่าวหาสนับสนุนเจ้าพนักงานปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ
อ่านข่าว ส่งสำนวนฟ้อง "กำนันนก" จ้างวานฆ่า "สารวัตรแบงก์" - ตร. ผิด ม.157 รวม 21 นาย
สั่งไม่ฟ้อง 7 นายตำรวจ
นายวัชรินทร์ ภาณุรัตน์ รองอธิบดีอัยการสำนักงานการสอบสวน และรองโฆษกสำนักงานอัยการการสูงสุด กล่าวว่า อธิบดีอัยการสำนักงานคดีปราบปรามการทุจริต ตั้งคณะทำงานพิจารณาสำนวน โดยอธิบดีฯ มีคำสั่งไม่ฟ้อง ร.ต.ท.นิมิตร ผู้ต้องหาที่ 3 ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 184, ร.ต.ท.ณรงค์ศักดิ์ ผู้ต้องหาที่ 4 ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 83, 184, 189, 200,
สั่งไม่ฟ้อง ร.ต.อ.ณัฏฐพล ผู้ต้องหาที่ 5 ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 83, 157, 184, 189, 200 พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันปราบปรามการทุจริต พ.ศ.2561 มาตรา 172
สั่งไม่ฟ้อง พ.ต.อ.กฤษฎาพร, พ.ต.ท.ภทร, พ.ต.อ.ภาณุทัต, ร.ต.ท.มนัส ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157 พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันปราบปรามการทุจริต พ.ศ.2561 มาตรา 172
ทั้งนี้ เนื่องจากมองว่าเป็นกลุ่มตำรวจที่ไม่ได้อยู่นิ่ง ๆ เมื่อเกิดเหตุยิง พ.ต.ต.ศิวกร โดยได้ช่วยเหลือนำไปโรงพยาบาล อำนวยความสะดวกต่าง ๆ หรือช่วยเหลือ พ.ต.ท.วศิน พันปี ที่บาดเจ็บ
สั่งฟ้อง "กำนันนก" - 16 นายตำรวจ
มีคำสั่งฟ้องนายตำรวจ ดังนี้ พ.ต.ต.เกียรติศักดิ์ ผู้ต้องหาที่ 1 ในความผิดฐานเป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติ หรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบฯ, เป็นผู้ใช้ให้ผู้อื่นกระทำความผิด ฐานทำให้เสียหาย ทำลายซ่อนเร้น เอาไปเสีย หรือสูญหาย หรือไร้ประโยชน์ ซึ่งพยานหลักฐานในการกระทำความผิด เพื่อช่วยผู้อื่นให้ไม่ต้องได้รับโทษ หรือรับโทษน้อยลง
เป็นเจ้าพนักงานฯ กระทำการ ไม่กระทำการอย่างใด ๆ ในตำแหน่งอันเป็นการมิชอบที่จะช่วยบุคคลอื่น บุคคลใดให้ไม่ต้องได้รับโทษ หรือรับโทษน้อยลง, ละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบฯ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157, 200 และมาตรา 184 ประกอบมาตรา 84 พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันปราบปรามการทุจริต พ.ศ.2561 มาตรา 172
สั่งฟ้อง ร.ต.ต.ประสาร รอดผล ผู้ต้องหาที่ 2, ร.ต.ท.สรรเสริญ ผู้ต้องหาที่ 6 ในความผิดฐานเป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบฯ, ทำให้เสียหาย ทำลายซ่อนเร้น เอาไปเสีย หรือสูญหาย หรือไร้ประโยชน์ ซึ่งพยานหลักฐานในการกระทำความผิด เพื่อช่วยผู้อื่นให้ไม่ต้องได้รับโทษ หรือรับโทษน้อยลง
ช่วยผู้อื่นซึ่งเป็นผู้กระทำความผิดหรือผู้ต้องหาฯ อันไม่ใช่ความผิดลหุโทษ เพื่อไม่ให้ต้องโทษ โดยให้พำนักแก่ผู้นั้น โดยซ่อนเร้น หรือช่วยไม่ให้ถูกจับกุมฯ, เป็นเจ้าพนักงานฯ กระทำการ ไม่กระทำการอย่างใด ๆ ในตำแหน่งอันเป็นการมิชอบที่จะช่วยบุคคลอื่น บุคคลใดให้ไม่ต้องได้รับโทษ หรือรับโทษน้อยลง
ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157, 189, 200 และมาตรา 184 ประกอบมาตรา 84 พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันปราบปรามการทุจริต พ.ศ.2561 มาตรา 172
วัชรินทร์ ภาณุรัตน์
สั่งฟ้อง ร.ต.ท.นิมิตร ผู้ต้องหาที่ 3 ในความผิดฐานเป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบฯ, ช่วยผู้อื่นซึ่งเป็นผู้กระทำความผิดหรือผู้ต้องหาฯ อันไม่ใช่ความผิดลหุโทษ เพื่อไม่ให้ต้องโทษ โดยให้พำนักแก่ผู้นั้น โดยซ่อนเร้น หรือช่วยไม่ให้ถูกจับกุมฯ
เป็นเจ้าพนักงานฯ กระทำการ ไม่กระทำการอย่างใด ๆ ในตำแหน่งอันเป็นการมิชอบที่จะช่วยบุคคลอื่น บุคคลใดให้ไม่ต้องได้รับโทษ หรือรับโทษน้อยลง ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 83, 157, 189, 200 พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันปราบปรามการทุจริต พ.ศ.2561 มาตรา 172
สั่งฟ้อง ร.ต.ท.ณรงค์ศักดิ์ ผู้ต้องหาที่ 4, จ.ส.ต.พิสิฐ ผู้ต้องหาที่ 8, ร.ต.อ.จตุรวิทย์ ผู้ต้องหาที่ 9, ร.ต.อ.ประสมมาศ ผู้ต้องหาที่ 11, ส.ต.ต.สุทธิกานต์ ผู้ต้องหาที่ 12, ส.ต.ต.สรรเสริญ ผู้ต้องหาที่ 13, ส.ต.ต.ธนทัต ผู้ต้องหาที่ 14, ร.ต.อ.นุชิต ผู้ต้องหาที่ 16, ด.ต.ถนอมศักดิ์ ผู้ต้องหาที่ 17, จ.ส.ต.อภิรักษ์ ผู้ต้องหาที่ 18, ร.ต.อ.ศิริชัย ผู้ต้องหาที่ 19, ร.ต.ท.สมโชค ผู้ต้องหาที่ 21,
ในความผิดฐานเป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหน้าที่ หรือละเว้นการปฏิบัติหน้าโดยมิชอบ เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด หรือปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต, เป็นเจ้าพนักงานของรัฐปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่อย่างใดในตำแหน่ง หรือใช้อำนาจหน้าที่อย่างใดในตำแหน่งหน้าที่โดยมิชอบ เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด ปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157 พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันปราบปรามการทุจริต พ.ศ.2561 มาตรา 172
ชุดของตำรวจที่บอกว่าไม่ได้มีการทำอะไร อยู่เฉย ๆ อัยการมองว่าผิดก็เลยสั่งฟ้อง
นอกจากนี้ สั่งฟ้องนายสนธยา ผู้ต้องหาที่ 22, นายฐิตินันท์ ผู้ต้องหาที่ 23, นายนิวัฒน์ชัย ผู้ต้องหาที่ 24, นายกฤษดา ผู้ต้องหาที่ 25, นายชาตรี ผู้ต้องหาที่ 26, ในความผิดฐานช่วยผู้อื่นให้ไม่ต้องรับโทษ หรือรับโทษน้อยลง, ร่วมกันทำให้เสียหาย ทำลายซ่อนเร้น เอาไปเสีย หรือสูญหาย หรือไร้ประโยชน์ซึ่งพยานหลักฐานในการกระทำความผิด
เป็นผู้สนับสนุนเจ้าพนักงานปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบฯ, ปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริตฯ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 83, 184 และมาตรา 157 ประกอบมาตรา 86 พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันปราบปรามการทุจริต พ.ศ.2561 มาตรา 172 ประกอบประมวลกฎหมายอาญามาตรา 86
สั่งฟ้องนายประวีณ ผู้ต้องหาที่ 27 ในความผิดฐานเป็นผู้สนับสนุนเจ้าพนักงานปฏิบัติ หรือละเว้นการหน้าที่โดยมิชอบฯ, ปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริตฯ ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 157 ประกอบมาตรา 86 พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันปราบปรามการทุจริต พ.ศ.2561 มาตรา 172 ประกอบประมวลกฎหมายอาญามาตรา 86
สั่งฟ้องนายอาทิตย์ ผู้ต้องหาที่ 28 ในความผิดฐานเป็นผู้ใช้ให้ผู้อื่นทำให้เสียหาย ทำลายซ่อนเร้น เอาไปเสีย หรือสูญหาย หรือไร้ประโยชน์ซึ่งพยานหลักฐานในการกระทำความผิด เพื่อช่วยผู้อื่นให้ไม่ต้องรับโทษ หรือรับโทษน้อยลง, ช่วยผู้อื่นซึ่งเป็นผู้กระทำความผิดหรือผู้ต้องหาฯ อันไม่ใช่ความผิดลหุโทษ เพื่อไม่ให้ต้องโทษ โดยให้พำนักแก่ผู้นั้น โดยซ่อนเร้น หรือช่วยไม่ให้ถูกจับกุมฯ
เป็นผู้สนับสนุนเจ้าพนักงานให้ปฏิบัติ หรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบฯ ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 157 ประกอบมาตรา 86 ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 184 ประกอบมาตรา 84 และประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 189 พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันปราบปรามการทุจริต พ.ศ.2561 มาตรา 172 ประกอบประมวลกฎหมายอาญามาตรา 86
นอกจากนี้ อัยการขอศาลเพิ่มโทษผู้ต้องหาที่ 26 หนึ่งในสามตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 92 และขอศาลนับโทษผู้ต้องหาที่ 27 ในคดีนี้ติดต่อกับโทษในคดีอาญากองกำกับการ 5 กองบังคับการปราบปรามที่ 24/2566
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
เร่งติดตามมือยิง "ตำรวจทางหลวง" เสียชีวิต 1 เจ็บ 1 นาย