วันนี้ (22 พ.ย.66) นายรังสิมันต์ โรม สส.พรรคก้าวไกล กล่าวถึงกรณีที่นายเศรษฐา ทวีสิน นายกฯ หลุดพูดเรื่องความผิดหวังและความสมหวังของการแต่งตั้งตำรวจระดับผู้กำกับการในที่ประชุม สส.พรรคเพื่อไทยว่า เป็นเรื่องตั๋วตำรวจว่ายังมีอยู่และเป็นปัญหา ซึ่งไม่มีหลักฐานหรือใบเสร็จนำมาสู่การยืนยันเพื่อเอาผิดทางกฎหมายได้เพราะมีการโทรคุย
อ่านข่าว "เศรษฐา" แก้เกี้ยว #ตั๋วเพื่อไทย ยันไร้อำนาจโยกย้าย ตร.
แต่คนระดับนายกฯพูดกลางที่ประชุม สส.นั่นเข้าใจเป็นอย่างอื่นไม่ได้ว่า มีกรณีที่ สส.พรรคเพื่อไทย มาขอกับนายกฯฝากพิจารณาการแต่งตั้งตำรวจในพื้นที่ ซึ่งการกระทำดังกล่าวผิดกฎหมายและยังสะท้อนถึงระบบอุปถัมภ์ ระบบเส้นสาย ระบบตั๋ว ที่ไม่เคยหมดไปภายใต้รัฐบาลชุดนี้
ทั้งที่คุณเศรษฐาเคยหาเสียงไว้จะไม่ยอมรับระบบเส้นสายจะจัดการจะแก้ไขปัญหา แต่สุดท้ายมาวันนี้พูดออกมาได้อย่างหน้าชื่นตาบานว่ามีผู้กำกับบางคนอาจจะผิดหวัง อาจจะไม่สมหวัง บางคนอาจจะสมหวัง ฟังได้ว่า สส.ฝากมา ซึ่งเป็นการกระทำที่ผิดกฎหมาย สิ่งเหล่านี้เป็นเรื่องเร็วร้ายทำลายจิตใจของตำรวจชั้นผู้น้อย เพราะหมายความว่า ต่อไปนี้ถึงแม้ว่าจะทำผลงานดีแค่ไหนถ้าไม่มีเส้น ไม่มีคอนเน็กชัน สุดท้ายก็ไม่สามารถที่เติบโตได้ ซึ่งเป็นระบบเดิมที่เห็นอยู่ในช่วงเวลาที่ผ่านมา
นายรังสิมันต์ ยังอ้างอิงกฎหมายที่เข้าข่ายการกระทำผิด 3 ฉบับ คือ รัฐธรรมนูญ ม.185 , จริยธรรมนักการเมือง และ พ.ร.บ.ตำรวจแห่งชาติ เพราะนายกฯ ไม่มีอำนาจหรือมีส่วนเกี่ยวข้องกับการแต่งตั้งโยกย้ายตำรวจระดับผู้กำกับการ แต่มีการลงรายละเอียดถึงตัวบุคคลทำให้สุดท้ายถูกมองว่าเป็น "ตั๋วเพื่อไทย"
ปัญหาดังกล่าวยังส่งสัญญาณ ถึงการแต่งตั้งข้าราชการในอนาคตต้องมีตั๋วหรือไม่ ทำให้ประเทศไทยยังคงอยู่ในระบบอุปถัมภ์แบบเดิม แสดงความกังวลว่าจะเกิดปัญหาไปไกลถึงขั้นการซื้อขายตำแหน่ง ซึ่งจากคำพูดของนายกฯที่ต้องรับผิดชอบและฟังได้อย่างชัดเจนว่า นายกฯอาจเข้าไปเกี่ยวข้องกับเรื่องการแทรกแซงการแต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการตำรวจ
ขณะเดียวกันทางผู้บริหารสำนักงานตำรวจแห่งชาติก็ยืนยันไม่มีตั๋วตำรวจ แต่เมื่อฟังคำพูดของนายกฯทำให้เข้าใจว่า ฟังเป็นอย่างอื่นไม่ได้ว่า นายเศรษฐาเข้าไปเกี่ยวข้องกับการแต่งตั้งโยกย้ายนายตำรวจเพราะมีการขอมาโดย สส.เพื่อไทย ที่พูดในที่ประชุมพรรค แม้นายกฯจะมาชี้แจงวันนี้แต่ก็ฟังไม่ขึ้น
สส.ก้าวไกล ระบุว่า พยาพยามรวบรวมข้อเท็จจริงทั้งหมด และตรวจสอบรวมถึงรับข้อมูลข่าวสารของผู้ที่เกี่ยวข้องและผู้ที่มีข้อมูลแจ้งมา โดยเชื่อว่าเรื่องนี้ไม่ได้เกี่ยวข้องเพียงแค่นายกฯคนเดียวเท่านั้น เพราะนายกฯพูดว่ามีการขอกันมาเยอะ ซึ่งอาจจะมีนักการเมือง และ สส.คนอื่น เกี่ยวข้องด้วย โดยกรรมาธิการความมั่นคงฯ จะมีการหารือกัน ว่าจะร่วมมือกับกรรมาธิการตำรวจ หรือกรรมาธิการชุดอื่นหรือไม่อย่างไร ส่วนเรื่องนี้จะนำไปสู่การอภิปรายไม่ไว้วางใจหรือไม่นั้นขอให้ติดตาม แต่คำพูดของนายกรัฐมนตรีเข้าข่ายการทุจริตคอร์รัปชัน
อ่านข่าว
"เศรษฐา" แก้เกี้ยว #ตั๋วเพื่อไทย ยันไร้อำนาจโยกย้าย ตร.