ยังถูกวิพากษ์ต่อเนื่อง หลัง"เศรษฐา ทวีสิน"นายกรัฐมนตรีออกมาเคาะความคืบหน้าโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจแจกเงินดิจิทัลวอลเลต 10,000 บาท รายได้ไม่เกิน 70,000 บาทต่อเดือน หรือมีเงินฝากไม่เกิน 500,000 บาท
ท่ามกลางข้อกังขาถึงที่มาของแหล่งเงินที่จะนำมาใช้ว่าจะมีการกู้จากแหล่งใด และต้องออกพ.ร.ก.เงินกู้หรือไม่ โดยล่าสุด"ศรีสุวรรณ จรรยา" ผู้นำองค์กรรักชาติ รักแผ่นดิน ได้ยื่นคำร้องผู้ตรวจการแผ่นดินส่งศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยกู้เงินมาแจกขัดรัฐธรรมนูญหรือไม่
นายวิศิษฐ์ ลิ้มลือชา รองประธานกรรมการหอการค้า ไทย เปิดเผยกับ “ไทยพีบีเอสออนไลน์”ว่า ภาคเอกชนมองนโยบาย Digital Wallet 10,000 บาท เป็นนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจที่ดี ผ่านการบริโภคของประชาชนที่กำลังลำบากจากวิกฤตเศรษฐกิจในปัจจุบัน โดยเฉพาะกลุ่มผู้มีรายได้ต่ำ ปานกลาง กลุ่มแรงงาน และกลุ่มเปราะบางประเภทต่างๆรวมทั้งผู้ตกงาน
นายวิศิษฐ์ ลิ้มลือชา รองประธานกรรมการหอการค้าไทย
โดยภาคส่วนเอกชนมองว่า รัฐบาลควรมีความชัดเจนในการออกมาตรการและเงื่อนไข เพื่อสร้างความเข้าใจและมั่นใจให้กับประชาชนและผู้ประกอบการ โดยเฉพาะร้านค้ารายย่อย ร้านอาหาร โชห่วย หาบเร่ แผงลอย รวมถึงพิจารณาปรับหลักเกณฑ์ให้รัดกุมทำได้จริง เพื่อให้เกิดการกระตุ้นเศรษฐกิจอย่างทั่วถึงในระยะสั้น แต่ระยะยาว รัฐบาลต้องพัฒนาศักยภาพของประชาชน และธุรกิจให้ยั่งยืน เพราะปัจจุบันสถานการณ์โลกเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว ดังนั้นทั้งประชาชนและภาคธุรกิจต้องเรียนรู้การปรับตัวในแง่ของกฎระเบียนการค้าที่มีความซับซ้อนมากขึ้น
ที่มาของเม็ดเงินที่จะนำมาจ่ายนั้น ไม่ขอออกความเห็น แต่เชื่อว่ารัฐบาลจะมีความรอบคอบ และถูกต้องเพื่อไม่ให้เกิดปัญหาในภายหลัง
วอนรัฐขยับเวลาประกาศใช้เงินดิจิทัล
นายวิศิษฐ์ กล่าวเพิ่มเติมว่า อยากเสนอแนะให้รัฐบาลหาวิธีให้เม็ดเงินมีการหมุนเวียน กระจายสู่ท้องถิ่นและ SMEs มากที่สุด และต้องไม่กระจุกตัวในสินค้าและช่องทางการตลาดที่ผูกขาดของทุนใหญ่มากเกินไปและควรขยับเวลาประกาศใช้ในเดือนเม.ย.แทนเดือนพ.ค2567 ซึ่งจะเป็นการสร้างให้เกิดการรับรู้โครงการนี้มากยิ่งขึ้นเนื่องจากเป็นช่วงประชาชนเดินทางกลับภูมิลำเนา
ตลาดนัดในกรุงเทพมหานคร
ควรส่งเสริมให้เกิดการซื้อสินค้าที่ผลิตในประเทศ เพื่อสร้างรายได้ที่ยั่งยืนและต่อเนื่องให้กับกลุ่มเป้าหมาย เป็นการยกระดับคุณภาพชีวิตและศักยภาพของประเทศ พร้อมกับทำนโยบายเศรษฐกิจอื่น ๆ ให้เกิดความต่อเนื่อง
นายวิศิษฐ์ กล่าวอีกว่า ภาครัฐควรวิเคราะห์ผลกระทบการใช้เงินในดิจิทัลวอลเล็ตจะกระทบเศรษฐกิจไปในทิศทางใด เหมาะสมหรือไม่ ขอให้เน้นช่วยเหลือคนที่ลำบาก เดือดร้อน เพื่อให้สามารถจัดสรรงบประมาณไปใช้ในโครงการเร่งด่วนอื่น ๆ เช่น ปัญหาภัยแล้ง เป็นต้น โดยภาคเอกชนจะติดตามผลจากการกระตุ้นเศรษฐกิจอย่างต่อเนื่อง และเสนอให้รัฐมีการสื่อสารให้สังคมรับทราบอย่างทั่วถึงและโปร่งใส
หวังว่าดิจิทัลวอลเล็ตจะช่วยเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของประชาชนทุกระดับรวมถึงภาคธุรกิจ เพื่อให้เกิดการพัฒนาอย่างยั่งยืนรวมทั้งลดปัญหาอุปสรรคกฎระเบียบต่าง ๆ ของภาครัฐที่เกินความจำเป็น
เร่งจ่าย"สงกรานต์"กระตุ้นซื้อในประเทศ
ขณะที่ นายสนั่น อังอุบลกุล ประธานกรรมการหอการ ค้าไทยและสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย กล่าวว่า เห็นด้วยกับมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ กระเป๋าเงินดิจิทัล 10,000บาทเป็นการกระตุ้นกำลังซื้อภายในประเทศ แต่รัฐบาลจะต้องโฟกัสให้ตรงกลุ่มเป้าหมายและต้องเร่งแจกเงินให้ทันกับช่วงเวลา เช่น เทศกาลสงกรานต์
นายสนั่น อังอุบลกุล ประธานกรรมการหอการค้าไทยและสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย
เงินดิจิทัลวอลเล็ตควรแจกช่วงสงกรานต์เพราะประชาชนเดินทางกลับบ้านเป็นจังหวะเวลาสำคัญมากในการกระตุ้นเศรษฐกิจ
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง:
"ดิจิทัลวอลเล็ต" แจก 50 ล้านคน รายได้ไม่เกิน 7 หมื่นฝาก 5 แสน
ผู้ประกอบการ-ร้านค้าพร้อมร่วมโครงการ
อย่างไรก็ตาม จากการสอบถามแม่ค้าร้านก๋วยเตี๋ยวไก่ ย่านวิภาวดี กล่าวว่า พร้อมเข้าร่วมโครงการดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท เพราะเคยเข้าร่วมโครงการคนละครึ่งมาแล้วและได้รับการตอบรับที่ดี ส่วนตัวมองว่าประชาชนที่ได้รับเงิน 10,000บาท ก็ต้องหาร้านค้าที่จะใช้จ่าย แต่ตอนนี้รอความชัดเจนจากรัฐบาลว่าจะให้ลงทะเบียนอย่างไร
เป็นโครงการที่ดีช่วยกระตุ้นกำลังซื้อของผู้บริโภค และช่วยลดค่าใช้จ่ายให้กับประชาชนอยากให้รัฐบาลให้ความชัดเจนในเรื่องของการจ่ายเงินว่าจะจ่ายอย่างไร จ่ายวันไหน และลงทะเบียนอย่างไร
ในขณะที่นางสมคิด (สงวนนามสกุล) อาชีพชาวสวน ในจังหวัดสุโขทัย บอกว่า อยากให้รัฐบาลเร่งออกมาให้ความชัดเจนว่าจะให้ลงทะเบียนอย่างไร และจะได้เงินเมื่อไหร่ ซึ่งอยากให้รัฐบาลเร่งจ่ายเงินดิจิทัลให้ทันสงกรานต์นี้ เพราะคนเดินทางกลับต่างจังหวัดซึ่งจะช่วยกระตุ้นให้เกิดการใช้จ่ายระหว่างการเดินทาง
ร้านก๋วยเตี๋ยว
สำหรับโครงการเติมเงิน 10000 บาท ผ่าน Digital Wallet มีเงื่อนไข ดังนี้ ผู้ที่ได้รับเงินต้องเป็นคนไทยที่มีอายุ 16 ปีขึ้นไป รายได้ไม่เกิน 70,000 บาท/เดือน หรือไม่มีเงินฝากในบัญชีธนาคารรวมกันไม่เกิน 500,000 บาท โดยจะขยายพื้นที่ครอบคลุมระดับอำเภอตามบัตรประชาชนและใช้แอปพลิเคชัน เป๋าตัง คาดว่าจะใช้ได้ พ.ค.2567และสิ้นสุดโครงการ 2570 โดยมีกลุ่มเป้าหมายประมาณ 50 ล้านคน
นอกจากนี้ยังมี โครงการ e-refund เงื่อนไข คือ ผู้เข้าร่วมโครงการ E-Refund จะต้องไม่ได้รับสิทธิเงินดิจิทัล 10,000 บาท โดยค่าซื้อสินค้า และค่าบริการทุกประเภทต้องมาจากร้านค้าที่อยู่ในฐานระบบภาษี และออกใบกำกับภาษีในรูปแบบอิเล็กทรอนิกส์เท่านั้นโดยนำใบกำกับภาษีจากการซื้อสินค้า-บริการมูลค่าไม่เกิน 50,000 บาท มาลดหย่อนภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาได้ แต่ทั้งนี้ ยังต้องติดตามว่า โครงการ e-refund จะมีเงื่อนไขอะไรออกมาเพิ่มเติม หรือห้ามลดหย่อยรายการใดบ้างต้องติดตามกันต่อไป
อ่านข่าวอื่น:
ครม.ไฟเขียวออก 2 มาตรการอุ้มชาวนาพยุงราคาข้าว
เช็ก 5 กลุ่ม วัยทำงานใช้ลดหย่อนภาษี ปี 2566
"เศรษฐา" โรดโชว์ "แลนด์บริดจ์" เวที APEC สหรัฐฯ 11-17 พ.ย.นี้