วันที่ 23 ต.ค.2566 สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า รถยนต์ที่มีสัญลักษณ์ขององค์การสหประชาชาติ หรือยูเอ็น นำขบวนรถบรรทุกเชื้อเพลิง 7 คัน ข้ามจุดผ่านแดนราฟาห์จากฝั่งอียิปต์เข้ามาในเขตกาซา โดยจะถูกนำไปใช้กับหน่วยงานของยูเอ็น เพื่อความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรม รวมถึงการใช้งานในโรงเรียนและโรงพยาบาล ซึ่งก่อนหน้าที่จะส่งเชื้อเพลิงเข้าไปในกาซา สำนักงานของยูเอ็นเพื่อผู้ลี้ภัยปาเลสไตน์ ระบุว่าเชื้อเพลิงกำลังจะหมดใน 3 วัน
ขบวนรถบรรทุกความช่วยเหลือชุดที่ 2 มีจำนวน 14-17 คัน หลังจากชุดแรกถูกส่งเข้าไปเมื่อวันที่ 21 ต.ค.ที่ผ่านมา ด้านยูเอ็นระบุว่า จำเป็นต้องใช้บรรทุกถึง 100 คันต่อวัน เพื่อช่วยบรรเทาสถานการณ์ในกาซาที่ย่ำแย่ลงอย่างมาก ซึ่งก่อนที่จะเกิดการสู้รบจะมีรถบรรทุกความช่วยเหลือเข้าไปในกาซาถึงวันละ 450 คัน
ทำเนียบขาวสหรัฐอเมริกา แจ้งว่า โจ ไบเดน ประธานาธิบดีสหรัฐฯ และเบนจามิน เนทันยาฮู นายกรัฐมนตรีของอิสราเอล ตกลงร่วมกันว่าจะมีการส่งความช่วยเหลือเข้าไปในกาซาอย่างต่อเนื่อง
ขณะที่อิสราเอลยังเดินหน้าถล่มเขตกาซาอย่างต่อเนื่อง โดยกระทรวงสาธารณสุขของปาเลสไตน์ ระบุว่าปฏิบัติการโจมตีทางอากาศของอิสราเอลในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา ทำให้ชาวปาเลสไตน์เสียชีวิตเพิ่ม 266 คน ในจำนวนนี้มีเด็ก 117 คน โดยผู้เสียชีวิตส่วนใหญ่อยู่ในพื้นที่ทางตอนใต้ของกาซา
เช่นเดียวกับตลาดในค่ายผู้ภัยที่ถูกอิสราเอลโจมตีเมื่อวานนี้ (22 ต.ค.) ทำให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 10 คน โดยตัวเลขผู้เสียชีวิตล่าสุดในเขตกาซา เพิ่มเป็น 4,651 คน บาดเจ็บ 14,245 คน
ศพชาวเนปาลในอิสราเอล ถูกส่งกลับประเทศแล้ว
เมื่อวันที่ 22 ต.ค.2566 ร่างของผู้เสียชีวตชาวเนปาลชุดแรก 4 คน ถูกส่งกลับถึงประเทศ โดยมีรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศของเนปาล และเอกอัครราชทูตอิสราเอลประจำกรุงกาฐมาณฑุ เดินทางมารับศพที่สนามบิน
เอกอัครราชทูตอิสราเอล ยังกล่าวถึงความคืบหน้าในการส่งร่างของผู้เสียชีวิตกลับประเทศ ว่า ในอิสราเอลมีผู้เสียชีวิตประมาณ 1,400 คน ซึ่งยังอยู่ระหว่างการพิสูจน์อัตลักษณ์บุคคล โดยร่างผู้เสียชีวิตคนที่ 5 และที่เหลือจะทยอยเดินทางมาถึงใน 1-2 วัน
ทั้งนี้ ในประเทศอิสราเอล มีชาวเนปาลทำงานอยู่ประมาณ 4,500 คน ส่วนใหญ่ทำงานเป็นคนดูแลผู้ป่วยและผู้สูงอายุ
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
"ฮามาส" ปล่อยตัวประกัน 2 แม่ลูกชาวอเมริกัน
"ราฟาห์" เส้นทางเดียวหล่อเลี้ยง "คนในกาซา"