วันนี้ 19 ต.ค.2566 นายไพโรจน์ โชติกเสถียร ปลัดกระทรวงแรงงาน กล่าวถึงกรณีแรงงานไทยที่ได้รับผลกระทบจากความไม่สงบในอิสราเอลและได้เดินทางกลับประเทศไทย และกังวลว่าจะไม่ได้กลับไปทำงานอีก นั้น
ล่าสุดได้รับรายงานจากนายกิตติ์ธนา ศรีสุริยะ อัครราชทูตที่ปรึกษา (ฝ่ายแรงงาน) ประจำสถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงเทลอาวีฟ อิสราเอล ว่า ฝ่ายแรงงานฯ ได้เข้าพบ นายอิยัล ชิโซ อธิบดีสำนักงานประชากรและคนเข้าเมืองอิสราเอล หรือ Population and Immigration Authority (PIBA) และ Ms.Inbal Masshash ผู้อำนวยการกองบริหารแรงงานต่างชาติ เพื่อหารือในประเด็นการกลับมาทำงานในประเทศอิสราเอล
สำหรับผลการหารือสามารถแยกเป็นกลุ่ม ได้ดังนี้
เช็กเงื่อนไข 2 กลุ่ม ไฟเขียวทำงานในอิสราเอลได้อีก
- กลุ่มแรก คือ กลุ่มแรงงานไทยที่ทำงานครบ 5 ปี 3 เดือน และเดินทางกลับไทยเนื่องจากสภาวะสงคราม รวมถึงกลุ่มที่กลับไทยไปก่อนหน้าที่จะเกิดสภาวะสงคราม 3 - 4 ปี สามารถกลับเข้าไปทำงานในอิสราเอลได้ ภายใต้เงื่อนไข ซึ่ง PIBA จะหารือหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง รวมถึงกระทรวงแรงงานของไทย อีกครั้ง
- กลุ่มที่สอง คือ กลุ่มแรงงานไทยที่อยู่ในอิสราเอลโดยไม่มีวีซา และยังไม่เกิน 5 ปี 3 เดือน จะทำการต่อวีซ่าให้จนถึงเดือน พ.ย.2567 รวมถึงกลุ่มที่กำลังจะครบสัญญา 5 ปี 3 เดือน แต่ไม่เกินเดือน เม.ย.2567 และยังอยู่ในอิสราเอล PIBA จะดำเนินการต่อวีซ่าให้อีก 1 ปี
ทั้งนี้ PIBA อยู่ระหว่างการเตรียมออกประกาศแจ้งข้อมูลรายละเอียดและข้อกำหนดต่าง ๆ ให้ทราบต่อไป PIBA อยู่ระหว่างการเตรียมออกประกาศแจ้งข้อมูลรายละเอียดและข้อกำหนดต่าง ๆ และกระทรวงแรงงานจะแจ้งให้แรงงานไทยรับทราบถึงรายละเอียดทั้งหมดอีกครั้ง
ปลัดกระทรวงแรงงาน กล่าว่า ขอให้แรงงานไทยคลายความกังวลเรื่องการกลับไปทำงานที่อิสราเอล กระทรวงฯจะดำเนินการประสานอย่างใกล้ชิดกับทางการอิสราเอล เพื่อให้แรงงานไทยสามารถกลับเข้าไปทำงานได้อีกครั้งเมื่อสถานการณ์คลี่คลายลง
ขณะเดียวกัน ทางการอิสราเอลก็ให้ความสำคัญกับการทำให้แรงงานต่างชาติเดินทางกลับมาทำงานในอิสราเอลได้อีก โดยเฉพาะแรงงานไทยซึ่งมีความสำคัญเป็นอย่างยิ่งต่อภาคเกษตรกรรมของอิสราเอล และมีส่วนสำคัญในการช่วยขับเคลื่อนเศรษฐกิจของทั้งสองประเทศอีกด้วย
ยอดกลับถึงไทย 1,424 คน ลงทะเบียนแล้ว 8,389 คน
แรงงานที่ได้รับผลกระทบจากความไม่สงบในอิสราเอลกลับถึงประเทศไทย 2 เที่ยวบิน เที่ยวแรก LY 083 จำนวน 125 คน และเที่ยวที่สอง LY 081 จำนวน 187 คน รวมทั้งสิ้น 312 คน
โดยวันนี้ ผู้บริหารระดับสูงกระทรวงแรงงาน พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่จากกองทุนเพื่อช่วยเหลือคนหางานไปทำงานในต่างประเทศที่ได้มาตั้งโต๊ะอำนวยความสะดวกให้คำแนะนำการยื่นคำร้องขอรับสิทธิประโยชน์จากกองทุนเพื่อช่วยเหลือคนหางานไปทำงานต่างประเทศ ณ บริเวณชั้น 2 ประตู 10 อาคารผู้โดยสารขาเข้าระหว่างประเทศ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ จ.สมุทรปราการ
ปลัดกระทรวงแรงงาน กล่าวถึงกรณี ที่รัฐบาลมีการปรับแผนการอพยพคนไทยตั้งแต่วันที่ 22 ต.ค.เป็นต้นไป จะลำเลียงคนไทยที่ต้องการกลับประเทศไปพักคอยที่นครดูไบ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ก่อน ซึ่งจะมีเครื่องบินขนาดใหญ่ ที่รัฐบาลจะจ้างเหมาลำระหว่างเทลอาวีฟมายังดูไบ โดยจะใช้เวลาประมาณ 3 ชั่วโมง
กระทรวงแรงงาน เตรียมความพร้อมในทุกด้านเรียบร้อยแล้ว เพื่อรองรับแรงงานไทยที่จะอพยพเข้าไป ทั้งนี้ เชื่อมั่นจะสามารถพาแรงงานไทยกลับบ้านได้ตามที่รัฐบาลกำหนดเป้าหมายไว้และเร็วขึ้น
สำหรับความคืบหน้าการให้ความช่วยเหลือแรงงานไทยในประเทศอิสราเอล ซึ่งจากรายงานของฝ่ายแรงงานประจำสถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงเทลอาวีฟ พบว่า ล่าสุดมีแรงงานไทยได้ลงทะเบียนกรอกแบบฟอร์มแจ้งความประสงค์เดินทางกลับประเทศไทยกับทางสถานทูตฯ แล้ว 8,389 คน ไม่ประสงค์กลับ 116 คน ถูกจับไปเป็นตัวประกัน จำนวน 17 คน เสียชีวิต 30 คน บาดเจ็บ 16 คน ยังไม่สามารถระบุชื่อได้ 1 คน และขณะนี้เดินทางกลับไทยแล้ว 1,424 คน
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
กลับจาก “อิสราเอล” ถึงไทยแล้ว 3 เที่ยวบิน 448 คน ลงสุวรรณภูมิ
7 วัน 7 ไฟลท์ 926 ชีวิตจากอิสราเอลกลับไทย
คนไทย 216 คนจากอิสราเอลไฟลท์ที่ 8-9 ถึงมาตุภูมิปลอดภัย
"อิหร่าน" เรียกร้องชาติมุสลิมตัดสัมพันธ์-คว่ำบาตรอิสราเอล