วันนี้ (14 ต.ค.2566) นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และคณะออกเดินทางจาก ท่าอากาศยานทหาร 2 เพื่อไปปฏิบัติราชการที่ จ.พิษณุโลก และให้สัมภาษณ์ก่อนเดินทางถึงความคืบหน้าในสถานการณ์สงครามระหว่างอิสราเอล -กลุ่มฮามาส ว่า เป็นที่น่าเสียใจ ที่ได้รับรายงานจากสถานทูตไทยในอิสราเอลว่า มีผู้เสียชีวิตเพิ่มอีก 3 คน รวมเป็น 24 คน ในปัจจุบัน
ส่วนการจับตัวประกันยังเป็น 16 คนเท่าเดิม และผู้บาดเจ็บ 16 คนเท่าเดิม ยืนยันว่า จะมีการประสานงานต่อเนื่อง ที่จะนำคนไทยกลับมายังประเทศไทยโดยเร็วที่สุด
นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา มีผู้ลงชื่อแสดงเจตจำนง จะเดินทางกลับประเทศไทยเพิ่มขึ้น รวมแล้วกว่า 7,000 คน ขอขอบคุณสายการบินพาณิชย์ การบินไทย นกแอร์ แอร์เอเชีย ที่ทำงานร่วมกันเป็นอย่างดี ในการร่วมกันพาคนไทยกลับมาเร็วที่สุด โดยรัฐบาลไม่ได้หยุดยั้งในการหาวิถีทาง
และส่วนตัวได้ติดต่อประสานกับภาคเอกชนที่มีเครื่องบินและมีคอลเลคชั่น สายการบินที่จีนชื่อ สไปซ์ (spices) ที่ใช้เครื่องบิน A340 พี่จะนำคนไทยกลับมาได้เที่ยวบินละ 300 คนโดยประมาณ ซึ่งอาจจะเร็วที่สุดได้ไปการเดินทางวันอาทิตย์ที่ 15 ต.ค.นี้ ซึ่งมอบหมายให้ทางกระทรวงการต่างประเทศประสานไปแล้ว
พยายามที่จะเอากลับมา เพราะเขาใช้ลำเลียงคนชาติเขาอยู่แล้ว ชาวอินเดียกับที่ประเทศอยู่แล้ว ดังนั้นเขามีเครื่องบินเหลือลำหนึ่ง หากตกลงกันได้แล้วก็เคลียร์กับรัฐบาลอิสราเอล เพื่อที่จะให้เครื่องบินลงได้ก็จะดำเนินการทันที
นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี สั่งเร่งช่วยคนไทยในอิสราเอลเดินทางกลับมาโดยเร็วที่สุด ขณะที่มีคนลงทะเบียนขอกลับแล้วกว่า 7,000 คน
นายกรัฐมนตรีระบุด้วยว่า ประเทศไทยวางตัวเป็นกลางกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้น เพราะประเทศไทยไม่ได้เป็นส่วนหนึ่งของความขัดแย้ง หรือของใครทั้งสิ้น แต่หน้าที่ของตนนั้นจะต้องทำงานร่วมกับทุกฝ่าย ไม่ว่าจะเป็นเพื่อนของชาวปาเลสไตน์ หรือสถานทูตอิสราเอล เพื่อปกป้องคนไทยปลอดภัยจะวิกฤติสงครามครั้งนี้
ไทยไม่ได้ช่วยเหลือใครทั้งสิ้น และไม่มีการแสดงจุดยืนว่าเข้าข้างใคร แต่เข้าข้างคนไทยที่กำลังประสบปัญหาอยู่ในขณะนี้ สิ่งเดียวที่เป็นห่วงอยู่ขณะนี้คือคนไทยกว่า 6,000 คน ที่ต้องการจะกลับไทยและครอบครัวคนไทยอีกนับหมื่นคน ที่มีความกังวล ซึ่งเรื่องนี้รัฐบาลให้ความสำคัญสูงสุด และไทยยินดีทำงานกับทุกฝ่ายเพื่อให้คนไทยปลอดภัย
นายเศรษฐา กล่าวว่า ขณะนี้เท่าที่ได้รับรายงานมา การประสานแต่ละฝ่าย ยังไม่มีปัญหาอะไร เกี่ยวกับการประสานขออนุญาตบินผ่านน่านฟ้า ในแต่ละประเทศ ธรรมดาใช้เป็น 10 วัน แต่ขณะนี้ใช้เวลาเพียงสองวัน ซึ่งหากมีปัญหาอะไร ก็พร้อมที่จะต่อโทรศัพท์หารือได้ทั้งหมด
ขอความกรุณาว่า เรื่องความมั่นคงต่าง ๆ ที่ติดต่อเป็นพันธมิตรกับทางผู้ขัดแย้งนั้น ไทยประสานงานอย่างดี ทั้งเรื่องการให้ปล่อยตัวประกัน และดูแลตัวประกันให้ดี มีการหารือตลอดยืนยันในการทำหน้าที่อย่างเต็มที่ และในวันที่ 15 ต.ค.ช่วงเย็น จะมีการประชุมร่วมกับกระทรวงการต่างประเทศ เพื่อติดตามสถานการณ์ในอิสราเอลด้วย
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
จนท.สถานทูต ณ กรุงเทลอาวีฟ เร่งย้ายคนไทยเข้าศูนย์พักคอย ก่อนส่งกลับไทย
สถานทูตไทย ณ กรุงราบัต เตือนคนไทยระวังผลกระทบจาก "อิสราเอล-ปาเลสไตน์"