วันนี้ (17 ก.ย.2566) ความคืบหน้าทางคดี มีรายงานว่า พนักงานสอบสวนเตรียมดำเนินคดี ตาม ม.157 ฐานละเว้นในการปฏิบัติหน้าที่ กับตำรวจที่มีส่วนเกี่ยวข้อง โดยคัด 6 นายตำรวจที่ให้ความช่วยเหลือ สว.ศิวกร และ รอง ผกก.วศิน แยกออกมาพิจารณา อาจจะไม่ถูกดำเนินคดีเพราะถือว่าไม่ละเว้นในการปฏิบัติหน้าที่
ยกเว้น ร.ต.อ.จตุรวิทย์ ชวาลเกียรติธนา รอง สารวัตรปราบปราม สภ.เมืองนครปฐม ที่ช่วย พ.ต.ท.วศิน จริง แต่ชุดสืบสวนกลับพบหลักฐานว่า หลังช่วย พ.ต.ท.วศิน แล้ว ร.ต.อ.จตุรวิทย์ ได้กลับไปช่วยคุ้มครองกำนันนก หลบหนีออกจากที่เกิดเหตุ โดยขี่รถจักรยานยนต์ นำหน้าขบวนรถของกำนันนก เมื่อมาถึงยูเทิร์นก็จอดปิดทาง เมื่อรถกำนันนกผ่านไป ก็ขี่รถตาม อำนวยความสะดวกให้กำนันนก หลบหนี กลับบ้านพัก
พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร. ระบุภาพกล้องวงจรปิดที่ทำให้เห็นบุคคลที่ช่วยเหลือคนเจ็บ จากนี้จะแยกให้เห็นว่าตำรวจที่มาร่วมงานเกือบ 30 คน ใครทำอะไรบ้าง ละเว้นการปฏิบัติหน้าที่เห็นเหตุการซึ่งหน้าแล้วไม่จับ จับแล้วปล่อยตัว หรือช่วยทำลายหลักฐาน และมีใครให้การเท็จ ซึ่งรายละเอียดต่างๆ ที่เป็นหลักฐานจากกล้องวงจรปิด ไม่สามารถเปิดเผยได้ เนื่องจากเป็นความลับอยู่ในสำนวน
อ่าน : กราวรูด! ตร.ระดับสูงเมินช่วย "สารวัตรแบงค์" โดนข้อหาให้การเท็จ-ม.157
โอนคดีให้ "สอบสวนกลาง" เร่งประชุมพรุ่งนี้
ล่าสุด พล.ต.อ.ดำรงค์ศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร. ได้ลงนามคำสั่งให้โอนสำนวนการสอบสวน คดีที่กองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 7 ไปที่กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลางทั้งหมด เนื่องจากเป็น คดีที่เกี่ยวเนื่องกับคดียิง พ.ต.ต.ศิวกร สายบัว สารวัตรทางหลวง เสียชีวิต
แต่ในส่วนของการเรียกสอบพยานในคดีละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ หรือปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 157 และคดีฮั้วประมูลของบริษัทกำนันนก จะยังคงสอบปากคำที่กองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 7 เพราะเป็นสถานที่เกิดเหตุ และเพื่อความสะดวกของพยานในการเดินทางมาสอบปากคำ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. จะเรียกประชุมคณะทำงานในคดี ที่กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง วันจันทร์ที่ 18 ก.ย.นี้ เวลา 14.00 น.
"บิ๊กก้อง" ชี้โทษสูงสุดถึงประหารชีวิต
พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. ยืนยันว่าไม่ได้หนักใจกับการทำคดี เพราะจากพยานหลักฐานที่มีอยู่ในขณะนี้ ถือว่าแน่นหนาพอที่จะบ่งชี้ได้ว่า กำนันนก คือผู้สั่งการ โดยเฉพาะคำให้การของพยานผู้เห็นเหตุการณ์ พยานแวดล้อม ที่ไปที่มาของอาวุธปืน พฤติกรรมการทำลายหลักฐาน หรือเจตนาของผู้ก่อเหตุ รวมไปถึงมูลเหตุแรงจูงใจ และพยานอื่นๆ อีกมากมาย ล้วนเป็นองค์ประกอบสำคัญทางคดี ที่สามารถทำให้ นายประวีณ หรือ กำนันนก ต้องได้รับโทษสูงสุด คือ "ประหารชีวิต" ได้
และ มีรายงานด้วยว่า พล.ต.ท.จิรภพ ได้สั่งให้ตำรวจสอบสวนกลางรวบรวมหลักฐานและรายละเอียดเกี่ยวกับผู้มีอิทธิพลใน จ.นครปฐม ทั้งหมด เพื่อเตรียมเปิดปฏิบัติการปราบอิทธิพลแบบถอนรากถอนโคน โดยอาจจะร่วมมือกับหน่วยงานรัฐที่เกี่ยวข้องต่อไป
DSI เรียก 58 บริษัทขยายผลฮั้วประมูลพรุ่งนี้
ข้อพิรุธการเข้าประมูลโครงการรัฐ โดย DSI เชิญตัวแทนบริษัทที่เข้าร่วมประมูลงาน 58 แห่ง เข้าให้ข้อมูลเพื่อตรวจสอบย้อนหลังการได้งาน ของบริษัท ป.พัฒนารุ่งโรจน์ก่อสร้าง จำกัด 2 โครงการของกำนันนก ได้งานต่ำกว่าราคากลางถึงร้อยละ 30
โดยทั้ง 2 โครงการ เป็นโครงการก่อสร้างทางหลวง 375 สาย อ.ดอนตูม-ต.ลำลูกบัว จ.นครปฐม แบ่งเป็น 2 ช่วงโครงการ ช่วงแรกเป็นการใช้งบประมาณปี 2560 จำนวน 300 ล้านบาท ส่วนอีกช่วงโครงการเป็นงบประมาณปี 2564 จำนวน 350 ล้านบาท
อ่าน : DSI เรียกผู้ประมูลถนน 375 ชี้แจง 18 ก.ย.นี้ ปมฮั้วงานกำนันนก
บริษัทที่ถูกเชิญมาให้ข้อมูล ส่วนใหญ่เป็นบริษัทที่เข้ามาซื้อซองประกวดราคาใน 2 โครงการ แต่ถึงเวลากลับไม่ได้เข้ายื่นซองเสนอราคา โครงการแรก งบประมาณไว้ 300 ล้านบาท ไม่มีการระบุว่าราคาอยู่ที่เท่าไหร่ แต่มีวงเงินสัญญาที่ 298 ล้านบาท มีบริษัทซื้อซองประกวดราคาถึง 33 บริษัท แต่เข้ายื่นซองเสนอราคาเพียงแค่ 4 บริษัท
ส่วนโครงการที่ 2 มีบริษัทซื้อซองประกวดราคา 32 บริษัท แต่เข้ายื่นเสนอราคาแค่ 3 บริษัท ที่สำคัญราคากลางโครงการอยู่ที่ 349 ล้านบาท แต่ประมูลแล้วได้ 240 ล้านบาท ประมูลแบบ E-bidding ต่ำกว่าราคากลางร้อยละ 31-37
และหลังจากสอบสวนครบทั้ง 58 บริษัท เจ้าหน้าที่ DSI จะเชิญ 7 บริษัท ใน 2 โครงการ ที่ยื่นซองเสนอราคาเข้าให้ข้อมูลด้วย ซึ่งก่อนหน้านี้ DSI ตั้งประเด็นการเรียกสอบข้อมูลจากบริษัทที่เกี่ยวข้อง ในประเด็นถูกใช้อิทธิพลข่มขู่หรือไม่ สมยอมผลประโยชน์หรือไม่ และมีความสัมพันธ์กับกำนันนกหรือไม่ หรือ เป็นเพียงบริษัทที่ไม่ผ่านเกณฑ์คุณสมบัติตามที่ TOR กำหนด
เรียกช่างติดกล้องวงจรปิด "บ้านกำนันนก" ให้ข้อมูลเพิ่ม
ขณะที่ มีการเรียกช่างผู้ชำนาญ ซึ่งเป็นพนักงานร้านกล้องวงจรปิดแห่งหนึ่งใน จ.นครปฐม และเป็นผู้เดินสายกล้องวงจรปิดให้กับบ้านกำนันนก ถูกพนักงานสอบสวนเชิญตัวมาให้ข้อมูลเพิ่มเติม เกี่ยวกับกล้องวงจรปิดที่ติดไว้ภายในบ้านกำนันนก รวมถึงระบบเซิร์ฟเวอร์ที่มีการบันทึกภาพ และการติดตั้งตามจุดต่างๆ
นายช่างให้ข้อมูลว่า เดิมบ้านกำนันนกมีกล้องวงจรปิดอยู่จำนวน 8 ตัว แต่เสีย 2 ตัว ทางร้านได้เข้าไปติดเพิ่มอีก 7 ตัวรวมเป็น 15 ตัว รองรับภาพด้วยระบบแลนและส่งสัญญาณภาพกล้องมาที่เครื่องบันทึก บางช่วงใช้ระบบไร้สาย
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การเชิญตัวช่างมาครั้งนี้ เพื่อเป็นการขอข้อมูล ที่มีการแถลงข่าวว่าอาจเป็นการปิดสวิตช์ หากมีการปิดสวิตช์ผู้ที่ไม่ชำนาญสามารถปิดเองได้หรือไม่ รวมทั้งเครื่องบางรุ่น เป็นการปิดสวิตช์หรือเป็นการดึงสายออกจากกล้อง ซึ่งขณะนี้ยังไม่มีใครทราบว่ากล้อง 2 ตัวที่อ้างว่า ไม่ได้มีการบันทึกภาพหรือถูกปิดสวิตช์นั้น จะสามารถกู้ภาพกลับมาได้หรือไม่
อ่านข่าวเพิ่ม :
ฝากขัง 2 ผู้ต้องหา ส่งปืนให้กันหน้าบ้านกำนันนก ในวันเกิดเหตุ
"ผกก.สน.พญาไท" เล่านาทีหน่อง ลั่นไก "ยิงสารวัตรแบงค์"