วันนี้ (6 ก.ย.2566) นายสุทิน คลังแสง รมว.กลาโหม เข้าพบ พล.อ.เชษฐา ฐานะจาโร อดีต รมว. กลาโหม และอดีตผู้บัญชาการทหารบก ที่ สโมสรราชพฤกษ์ เพื่อขอคำชี้แนะในการปฏิบัติราชการ โดยมี พล.อ.นิพัทธ์ ทองเล็ก อดีตปลัดกระทรวงกลาโหม และว่าที่ผู้ช่วย รมว.กลาโหม เคยเป็นฝ่ายเสนาธิการของ พล.อ.เชษฐา สมัยเป็นผู้บัญชาการทหารบก ร่วมพูดคุย
พร้อมกันนี้ยังมีนางอรทัย ฐานะจาโร ลูกสะใภ้ พล.อ.เชษฐา และ อดีต สส.พรรคพลังธรรม สมัยที่นายทักษิณ ชินวัตร เป็นหัวหน้าพรรค นายปองพล อดิเรกสาร อดีตรองนายกรัฐมนตรี พร้อมบุตรชาย ให้การต้อนรับและร่วมรับประทานอาหาร
ทั้งนี้ พล.อ.เชษฐา ได้มอบพระพุทธรูปบูชาหลวงพ่อโสธร ศักดิ์สิทธิ์ประจำ จ.ฉะเชิงเทรา ให้นายสุทิน เพื่อความเป็นสิริมงคลในการปฏิบัติหน้าที่ รมว.กลาโหม หลังจากนายสุทินได้มอบพวงมาลัย
นายสุทิน ระบุว่า วันนี้มาพบผู้ใหญ่ในกองทัพท่านมีความเมตา ให้กำลังใจและแสดงความเชื่อมั่นว่าจะทำได้และยังมองว่าการเป็นพลเรือนไม่ใช่อุปสรรค หากเราสนใจที่จะหาความรู้ทำความเข้าใจเรื่องในกองทัพก็จะทำได้ โดยท่านได้ย้ำให้ยึดหลัก คือ ให้เกียรติกองทัพ แสดงเจตนาที่ชัดเจนว่าเข้ามาทำประโยชน์ให้กองทัพ ไม่แสวงหาผลประโยชน์เพื่อตนเอง ซึ่งทหารจะรับได้และท่านก็เชื่อว่าตนเป็นคนแบบนั้น
ทั้งนี้ไม่ได้ลงรายละเอียดนโยบายในการพูดคุยเช่นเรื่องของการยกเลิกการเกณฑ์ทหาร ท่านได้แต่แนะนำในกรอบกว้าง ๆ และไม่ได้เตือนให้ระวังอะไรเป็นพิเศษ แต่ยอมรับว่า นโยบายของรัฐบาลที่จะแถลงต่อรัฐสภา ในวันที่ 11 ก.ย. มีเรื่องของกองทัพหลายเรื่องเพียงแต่เราไม่ใช้คำว่าปฏิรูป โดยนายกรัฐมนตรีให้ใช้คำว่าพัฒนาร่วมกันกับกองทัพ
ส่วนจะพัฒนาไปในทิศทางใดจะแถลงต่อรัฐสภา ส่วนจะมีเรื่องปรับลดขนาดกองทัพ ลดกำลังพลนั้น ตนยังไม่ได้เปิดดูรายละเอียด แต่ถึงแม้จะไม่ได้ระบุไว้ก็จะอธิบายเพิ่มเติมในสภา
เมื่อถามว่า พล.อ.เชษฐา ได้แนะนำวิธีรับมือกับทหารเกเรหรือไม่ นายสุทิน ระบุว่า พล.อ.เชษฐาท่านมั่นใจว่าไม่มีทหารเกเรแต่ถ้ามีซึ่งตนเชื่อว่ามีทุกกระทรวงก็จะมีทั้งคนดีและคนเกเร แต่ตนไม่หนักใจซึ่งตนทำงานได้กับคนทุกประเภทอยู่แล้ว และส่งเสริมคนดีให้ทำงาน ส่วนคนดีก็จะป้องกันคนไม่ดี
ทั้งนี้นายสุทิน ยอมรับว่าตั้งแต่รับตำแหน่ง รมว.กลาโหม ชีวิตเปลี่ยนขาดความเป็นอิสระ และยังไม่ชินกับชุดรักษาความปลอดภัย ที่เฝ้าอยู่หน้าบ้าน จากเดิมที่เป็นคนง่าย ๆ ไม่ต้องมีพิธีรีตองอะไร เมื่อมาอยู่ในกองทัพเป็นธรรมเนียมและความรับผิดชอบของทหาร ซึ่งเราก็ต้องปรับตัวให้เข้ากับระบบเขาหากไม่ยอมรับก็เหมือนเขาทำงานบกพร่อง
ที่ถูกเรียก "บิ๊กทิน" ได้ยินแล้วก็ขนลุก ถ้าถามว่าเมื่อถามย้ำว่าเข้าใจความรู้สึก บิ๊กป้อม บิ๊กตู่ หรือยังนายสุทิน ระบุว่า ก็คล้าย ๆ อย่างนั้น
เมื่อถามว่าอดีตทหาร ที่นั่งเก้าอี้ รมว.กลาโหม ในส่วนของพลเรือน เช่น นายชวน หลีกภัย ที่มีประสบการณ์ได้สอบถามหรือไม่นายสุทิน ระบุว่า มีหลายคนที่ตนไม่ได้เปิดเผย โทรศัพท์หาหลายคนกับอดีตนายกฯ ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ก็คุยกันซึ่งท่านก็ให้คำแนะนำคล้ายกับทุกคน หากเราไม่ไปกร่างก็ไม่มีปัญหาทหารเขามีวินัย
ส่วน น.ส.ยิ่งลักษณ์ ได้กำชับให้ระวังทหารเป็นพิเศษหรือไม่ นายสุทิน ระบุว่า ไม่มี เมื่อถามว่าในตำแหน่งเลขานุการรัฐมนตรี ได้ทาบทามไปยัง พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ อดีตเลขา สมช. หรือไม่ นายสุทิน ระบุว่า พูดคุยกันอยู่หลายคน และยังอยู่ระหว่างดูว่าให้แต่ละท่านมารับตำแหน่งไหน ซึ่งคิดว่าหลังจากเข้ากระทรวงกลาโหมในวันที่ 13 ก.ย.นี้ ภายในหนึ่งสัปดาห์ก็น่าจะลงตัว เพียงแต่ว่าจะวางคนอย่างไรให้มีศักยภาพหากวางผิดที่ศักยภาพจะลดลง
ส่วนมั่นใจหรือไม่ว่าจะสามารถนำพาพัฒนากองทัพไปได้ นายสุทินแย้งว่า กองทัพเขาพัฒนาอยู่แล้วไม่ได้ย่ำอยู่กับที่เพียงแต่เราเอามุมการเมืองเข้าไปเติม เอาอำนาจทางการเมืองเข้าไปสนับสนุนก็ไปได้ ซึ่งที่ผ่านมาตนได้สัมผัสกับทหารหลายรุ่นตั้งแต่ทหารผู้ใหญ่ ทหารหนุ่ม และหลังจากนี้ก็จะเป็นทหารอีกระดับหนึ่ง ซึ่งจะเป็นรุ่นที่สำคัญ ๆ ที่ทำงานให้กับกองทัพ ทหารหนุ่มกับทหารมีอายุก็ไม่ได้ต่างกันมาก แต่ปัจจุบันทหารเป็นคนรุ่นใหม่ โดยเฉพาะผู้บัญชาการเหล่าทัพจากที่ได้สัมผัสก็รู้ว่าเขา เป็นคนรุ่นใหม่ มีวิธีคิด แนวคิด และบุคลิก ใหม่ ๆ พร้อมยืนยันว่า ไม่กังวลว่าจะมีทหารสีส้ม
ข่าวที่เกี่ยวข้อง